รีวิวสอบเข้าแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รอบ Portfolio กับโอกาสในการเป็นหมอของชาวเหนือจากน้องฟร๊อก สาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สำหรับใครที่สนใจเรียนคณะแพทย์ พี่มีข้อมูลดีๆ ของคณะแพทย์ จากอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยคุณภาพมาฝากนั่นก็คือ……คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ครับ !!! ซึ่งการสอบเข้า คณะแพทย์ มช. เนี่ย สามารถเลือกสอบเข้าได้หลายวิธีเลย แต่วันนี้พี่แอดมินขอพาน้องฟร๊อก รุ่นพี่ ignite ที่สอบติดแพทย์มช. ที่เลือกสอบเข้า ด้วยโครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ ใน TCAS รอบ1 ปีล่าสุด มารีวิวการสอบเข้าเพื่อให้น้องๆ ใช้เป็นแนวทางการเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องนะครับ…แต่ก่อนอื่นเรามาดู Requirement ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการนี้กันดีกว่าว่าต้องใช้อะไรในการยื่นบ้าง
Requirements คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ
คุณสมบัติของผู้สมัครและคะแนนที่ใช้ยื่น
- มีผลสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษ
– โรงเรียนไทย TOEFL (iBT) ≥ 79 หรือ IELTS ≥ 6.5
– โรงเรียนนานาชาติ TOEFL (iBT) ≥ 100 หรือ IELTS (Academic) ≥ 7 - มีผลสอบ BMAT โดยได้คะแนนรวม BMAT Part 1 และ Part 2 ≥ 9 หรือได้คะแนน AP เฉลี่ย 3 วิชา(ชีววิทยา เคมีและฟิสิกส์หรือคณิตศาสตร์) ≥ 4
- Portfolio หรือแฟ้มสะสมผลงาน
- สอบสัมภาษณ์
เคล็ดลับการเตรียมตัว IELTS ให้สอบติดแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เมื่อทราบเกณฑ์ในการยื่นเข้าแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สิ่งแรกที่ผมให้ความสำคัญคือ IELTS เพราะเหลือเวลาไม่มากในการเตรียมตัวสอบ จึงได้เริ่มศึกษารอบสอบที่มีจำกัดในช่วงนั้น ซึ่งรวมๆ แล้วเหลือเวลาเตรียมตัวอีก 1 เดือนก่อนสอบ ก็เริ่มมาวางแผนจัดสรรค์เวลาการเตรียม
โดยฟร๊อกเริ่มเตรียมวิชา IELTS ก่อน BMAT และแบ่งระยะเวลาเตรียมตัวอ่าน IELTS รวมๆ แล้วใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ผมได้มีการมองหาที่เรียนพิเศษ โดยตอนนั้นเลือกเรียนคอร์ส IELTS All Part แบบ Anywhere เพราะมีข้อจำกัดด้านเวลา ซึ่งเราสามารถจัดการตารางเรียนของเราได้เองและยังเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลาอีกด้วยครับ
สำหรับการฝึก IELTS ในเวลาจำกัด ผมเน้นทำข้อสอบของ Cambridge 1-14 อย่าง Part Speaking เราก็หัดพูดเยอะๆ และจับเวลาเสมือนจริงๆ แต่สำหรับการเตรียมตัว Part Writing นอกจากจะเน้นฝึกฝนโจทย์ที่ได้มา เรายังต้องคอยมีคนที่สามารถให้ Feedback กับเราแบบตรงจุด สามารถให้คำแนะนำที่เอามาปรับใช้ได้ในเวลารวดเร็ว ซึ่งในส่วนนี้ผมได้ส่งการบ้าน IELTS Writing ให้พี่ๆ ignite ตรวจบ่อยมากๆ ซึ่งเราก็ได้ Feedback ที่ช่วยให้เรานำกลับมาแก้ไขได้อย่างตรงจุดครับ ซึ่งการฝึก IELTS แบบนี้ก็ทำให้ผมได้ Band 8.0 เลยครับ
น้องคนไหนอยากได้ IELTS 8.0 แบบพี่ฟร๊อก คลิกอ่านเทคนิคเพิ่มเติมได้ที่ >> รีวิวเตรียมตัวสอบ IELTS ให้ได้ 8.0 ในเวลา 1 เดือน โดยน้องฟร๊อก สาธิต มช.
หรือถ้าใครอยากเรียน IELTS ในเวลาจำกัด อยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ก็เรียนได้…สมัครเลยคอร์ส IELTS แบบ Anywhere
ADV. WRITING FOR IELTS
https://bit.ly/3iIkZUd
เคล็ดลับการเตรียมตัว BMAT ให้สอบติดแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เมื่อได้คะแนน IELTS ตามที่ต้องการแล้ว ผมจึงเริ่มเตรียมตัว BMAT อย่างจริงจัง โดย ณ ตอนนั้นเราเหลือเวลาอยู่เพียงสัปดาห์กว่าๆ ก่อนที่จะถึงวันสอบจริง แต่ในระหว่างที่เตรียม IELTS ผมก็ได้สมัครเรียนคอร์ส BMAT All Part กับ ignite ด้วยครับ
ซึ่งการเตรียมตัวผมจะเริ่มเก็บเนื้อจาก Part 2 ก่อนครับ และจึงค่อยมาเรียน Part1 กับ Part3 พร้อมๆ กัน ซึ่งสิ่งสำคัญในการฝึกฝน BMAT คือการฝึกทำข้อสอบ Part Papers โดยผมทำข้อสอบย้อนหลัง ประมาณ 5-6 ปี ฝึกทำวันละ 2-3 รอบ เราต้องทุ่มเทกับมันพอสมควร เพราะช่วงเวลาก็กระชั้นชิดเข้ามาแล้วเราต้องขยันกับมันมากๆ ครับ
ใครอยากฝึก BMAT Part Papers ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล เพราะ ignite รวบรวมไว้ให้หมดแล้วกับ >> รวมข้อสอบ BMAT Past papers , IMAT และ TSA ย้อนหลัง 10 ปี พร้อมเฉลย
อยากมั่นใจว่าจะสอบติดแพทย์รอบ Portfolio แบบพี่ฟร๊อก…สมัครเลยคอร์สเรียน BMAT แบบ Anywhere อยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ก็เรียนได้
BMAT ALL PART
https://bit.ly/2SzrCxI
เทคนิคการทำ Portfolio ให้สอบติดแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Portfolio ของคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต้องใส่กิจกรรม 4 ด้าน ด้วยกันครับ
- งานจิตอาสา ผมใส่กิจกรรมเกี่ยวกับฝึกงานในโรงพยาบาลครับ
- งานวิชาการ ผมใส่กิจกรรมที่ได้ไปแข่งขันตอบปัญหาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์
- งานวิจัย ผมเน้นงานวิจัยที่มีความสร้างสรรค์และแตกต่างกับเพื่อนๆครับ
- งานอื่นๆ ผมใส่ผลงานด้านศีลธรรมเกี่ยวกับการแข่งขันตอบปัญหาศีลธรรมโลกที่ได้รางวัลชมเชยมา
โดยนอกจากการเลือกกิจกรรมที่ตรงตามเกณ์ของมหาวิทยาลัยแล้ว เราควรสอดแทรกความสามารถทางภาษาอังกฤษให้อยู่ในทุกกิจกรรมที่เรานำมาใส่ Portfolio
บรรยากาศการสัมภาษณ์แพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

บรรยากาศการสัมภาษณ์คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตามตารางการสอบสัมภาษณ์ ที่ มช. จะมีทั้งหมด 2 วัน โดยในวันแรก ช่วงเช้าจะเป็นการตรวจสุขภาพและช่วงบ่ายจะเป็นการฟังบรรยายเกี่ยวกับคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้นเองครับ อีกทั้งยังมีการพูดคุยกับอาจารย์และรุ่นพี่คล้ายๆ กิจกรรมรับน้อง
ส่วนวันที่ 2 จะเป็นวันที่มีการสัมภาษณ์จริงจัง โดยแบ่งเป็นช่วงเช้า ที่มีการจัดกิจกรรมกลุ่มและจะให้เราอภิปรายชีวิตตัวเอง เล่าเรื่องราวของตัวเราครับ ในด่านนี้เหมือนเป็นการประเมิณเชิงจิตวิทยา และสำหรับในส่วนช่วงบ่ายจะเป็นการสัมภาษณ์ตามห้องต่างๆ ซึ่งเราต้อง Present Portfolio ที่เราทำมาด้วยนะครับ โดยความตื่นเต้นคือมหาวิทยาลัยจะประกาศผลสัมภาษณ์ในวันนั้นทันทีเลยครับ
สิ่งที่อยากแนะนำและฝากให้กับน้องๆ ignite ที่อยากสอบติแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

การเตรียมตัวสอบเข้าแพทย์ รอบ Portfolio ต้องอาศัยความขยันมากๆ อาจจะมีท้อบ้างเหนื่อยบ้างแต่พี่อยากให้น้องๆ ทุกคนสู้ เพราะผลลัพธ์จะออกมาคุ้มค่ากับการทุ่มเทของพวกเราอย่างแน่นอนครับ
“นักแข่งรถที่ดีที่สุด ไม่ใช่นักแข่งรถที่เหยียบคันเร่งได้เร็วที่สุด
แต่คือคนที่ใช้เบรคได้คุ้มที่สุดและอยู่รอดจนจบการแข่ง”
พี่ขอฝากคำคมไว้ให้น้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้าทุกคนนะครับ คำคมคำนี้หมายความว่าเทคนิคการเตรียมตัวสอบที่ได้ผล ไม่ใช่การเตรียมตัวหนักๆ แบบต่อเนื่องที่ 3-4 ชั่วโมง ต้องเลือกที่วางแผนเวลาทั้งการอ่านหนังสือและการพักให้มีประสิทธิภาพ อยู่ที่คุณภาพในการที่จะพัก แต่ต้องอยู่ภายใต้การวางแผนที่ดี บางคนอาจจะคิดว่าเส้นทางนี้อาจจะยาก แต่อยากฝากวิธีคิดในการจะเลือกเส้นทางนี้ว่า ให้มองว่ามันเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่แล้วถ้าได้มาสัมผัสกับเส้นทางนี้จริงๆ แล้ว มันคือยิ่งกว่ารางวัลเพราะจะได้ทำอะไรหลายๆ ที่มีคุณค่าทั้งตัวเราและสังคมด้วย
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ รีวิวสอบเข้าแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รอบ Portfolio จากน้องฟร๊อก สาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่…พี่แอดมินเชื่อว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นหมอสำหรับน้องๆ ชาวเหนืออย่างแน่นอนครับ
น้องๆ คนไหนที่อยากสอบติดคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เหมือนพี่ฟร๊อก…อย่าลืมมาเจอกันที่ ignite by Ondemand เราเตรียมคอร์สสด, Mini Class, One on One และ คอร์สเรียนออนไลน์ในระบบ Learn Anywhere ให้ทุกคนมั่นใจว่าจะสอบติดคณะในฝันชัวร์ๆ
น้องๆ สามารถซื้อคอร์สเรียนออนไลน์ ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ผ่าน ShopOnline ของ ignite …พร้อมแล้วลุยเลย >> https://shop.ignitebyondemand.com/
ดูรายละเอียดคอร์สเรียน BMAT, SAT, SAT Subject Tests, IELTS ทั้งหมดได้ทาง >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/
ปรึกษาสอบถามรายละเอียดการเรียนต่อในคณะแพทย์ รอบ 1 (Portfolio) หรือทุกคณะอินเตอร์ยอดฮิตได้ทาง Line : @ignitebyondemand หรือโทร 02-6580023 , 091-5761475
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
ถอดรหัสข้อสอบ BMAT ตาม Specification 2021
สวัสดีครับว่าที่น้องหมอทุกๆ คน สำหรับปีนี้ทาง Cambridge Assessment ได้ประกาศอัพเดท BMAT Specification ปี 2021 มาแล้ว ทางทีมครู ignite ไม่รอช้า ขอมาเล่าสรุปให้น้องๆ ฟังกันครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม แอบบอกข่าวดีกับน้องๆ ก่อนครับว่าปีนี้โครงสร้างและหัวข้อที่ออกสอบใน BMAT โดยส่วนใหญ่จะคล้ายคลึงกับ BMAT Specification ปีที่แล้วเลยครับผม และไม่ต้องกังวลไปเลยครับ สำหรับในส่วนที่ต่าง ทางคุณครู ignite ก็จะอัพเดทในคอร์สเรียนของปีนี้ด้วยครับ ทำความรู้จักโครงสร้างข้อสอบ BMAT ก่อนอื่น เรามาทบทวนโครงสร้างข้อสอบ BMAT กันอีกครั้งครับ ข้อสอบ BMAT ยังคงมีทั้งหมด 3 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ 1. Thinking Skills, 2. Scientific Knowledge and Applications, และ 3. Writing Task โดยแต่ละส่วนจะประเมินผู้เข้าสอบดังนี้ Thinking […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
AKAT คือ? ทำความรู้จักข้อสอบยื่นแพทย์รอบพอร์ต SWU-NOTT
ข้อสอบน้องใหม่ล่าสุดที่ถูกประกาศนำมาใช้ทดแทนข้อสอบ BMAT อย่างเป็นทางการนั่นก็คือ ข้อสอบ AKAT ที่ทางคณะแพทย์ SWU-NOTT และทันตะ มศว จะนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกน้องๆ รอบพอร์ต TCAS68 AKAT คือ อะไร? สอบเมื่อไหร่? ควรเตรียมตัวอย่างไร? ไปทำความรู้จัก AKAT ให้มากขึ้นกัน AKAT คือ อะไร? ข้อสอบ AKAT หรือ Aptitude&Knowledge Admisson Test คือ ข้อสอบวัดความถนัดทางการเรียน ซึ่งจัดสอบโดย สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มศว เป็นข้อสอบสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรนานาชาติของ มศว เช่น คณะแพทย์ โครงการร่วมกับมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม (SWU-NOTT), คณะทันตะ และหลักสูตรอินเตอร์อื่น ๆ ใน มศว ข้อสอบ AKAT วัดอะไรบ้าง หากดูจาก Blueprint ของข้อสอบ AKAT ที่ประกาศออกมา คงต้องบอกว่าโครงสร้างของข้อสอบมีความคล้ายคลึงกับ BMAT อย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นข้อสอบที่ออกแบบมาเพื่อทดแทน […]
Comments (0)
-
ไม่มีหมวดหมู่, Blog, GED
GED Ready เครื่องมือ(ไม่)ลับ อัพคะแนนตามเป้า!
สวัสดีค่ะน้องๆ กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความ GED วันนี้พี่จะมาเล่าถึงเครื่องมือในการเตรียมสอบ GED ที่สำคัญมากๆ ที่เรียกว่า GED Ready โดยเฉพาะน้องๆ ที่วางแผนอยากจะไปสอบ GED และต้องการที่จะยื่นวุฒิตัวนี้เพื่อเข้าจุฬา หรือ ธรรมศาสตร์ ซึ่งตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป ทางที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้กำหนดเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำของ GED จาก 145 คะแนน (High School Equivalency) เป็น 165 คะแนน (GED College Ready) บอกเลยว่ายากกว่าเดิมมาก และที่สำคัญนโยบายใหม่ของ GED ตั้งแต่ปี 2017 (แอบไปถามทาง GED มาแล้ว ข้อมูลนี้คอนเฟิร์ม!!) ระบุว่า หากสอบผ่าน GED High School Equivalency ไปแล้ว (145/200) การทำเรื่องขอสอบใหม่เพื่อต้องการปรับคะแนนขึ้นจะไม่สามารถทำได้ทุกคนแล้วนะคะ ส่วนใครแก้ได้ใครแก้ไม่ได้เดี๋ยวพี่จะให้ข้อมูลไว้ข้างล่างค่ะ แต่เอาเป็นว่าตอนนี้มีเงื่อนไขเกิดขึ้นใหม่มากมาย สำหรับใครที่ยังยืนยันจะสอบ […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
CU-AAT คืออะไร? ครบทุกข้อมูลที่ต้องรู้เกี่ยวกับข้อสอบ CU-AAT
สวัสดีน้องๆ ทุกคนครับ พี่แอดมินเชื่อว่าตอนนี้น้องๆ หลายคนคงกำลังสงสัยกันใช่มั้ยว่าข้อสอบ “CU-AAT คืออะไร” วันนี้เราจะมาตอบทุกคำถามเกี่ยวกับการสอบ CU-AAT ตั้งแต่เนื้อหาข้อสอบเป็นอย่างไร มีกี่วิชา ใช้ยื่นคณะไหนได้บ้าง ค่าสมัครสอบและตารางสอบ…ไม่พูดพร่ำทำเพลง พร้อมแล้วไปอ่านกันเลย !! CU-AAT คืออะไร ข้อสอบ CU-AAT (Chulalongkorn University Academic Aptitude Test) คือ ข้อสอบที่ใช้วัดความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ (Mathematics) และภาษาอังกฤษ (Verbal) ใช้ในการพิจารณาผู้ยื่นเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี ของหลักสูตรนานาชาติ จุฬาฯ โดยลักษณะข้อสอบคล้ายกับข้อสอบ SAT ธรรมดาทั้ง Part Mathematics และ Part Verbal แต่ความยากของเนื้อหาข้อสอบจะแตกต่างกันออกไป คณะที่สามารถใช้คะแนน CU-AAT เพื่อยื่นพิจารณาศึกษาต่อ เช่น MEDICAL คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ISE คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อินเตอร์) EBA คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อินเตอร์) BALAC คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย […]
Comments (0)
Comments