เรียน IGCSE ที่ ignite A*

  • สอนโดยทีมอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ

    เรียนตัวต่อตัวกับอาจารย์ผู้สอน ปรับแต่งกำหนดบทเรียนที่เหมาะสม เลือกเวลาเรียนเอง

  • จัดเวลาเรียนเองได้

    สามารถเรียนเวลาไหนก็ได้ น้องๆสามารถเลือกเวลาเรียนเองได้ ตามความเหมาะสมกับไลพ์สไตล์ตัวเอง

  • เรียน Private 1 on 1

    เรียนตัวต่อตัวกับอาจารย์ผู้สอน ปรับแต่งกำหนดบทเรียนที่เหมาะสม เลือกเวลาเรียนเอง

  • เรียน Online Anywhere

    เรียนที่ไหนก็ได้ผ่าน application สะดวกสบาย ยืดหยุ่นเวลาได้มากขึ้น

รายวิชาที่เปิดสอน

รายชื่อวิชา IGCSE

วิชา IGCSE ที่ Ignite เปิดสอน

  • IGCSE Mathematics, Additional Mathematics
  • IGCSE Physics, Chemistry, Biology
  • IGCSE English (First or Second Language) and Literature
  • IGCSE Economics, Business Studies
  • IGCSE Accounting
  • IGCSE History
  • IGCSE Geography
  • IGCSE Psychology

Subject list

เลือก platform ที่ต้องการเรียน

  • One on One

    One on One

    คอร์สเรียนแบบ one on one สามารถเลือกได้ว่าจะเรียนแบบตัวต่อตัวกับครู หรือจัดกลุ่มเล็กๆ กับแก๊งเพื่อนมาได้เอง ซึ่งน้องๆ สามารถจัดสรรเลือกช่วงวันเวลาเรียน พร้อมเนื้อหาที่สนใจเรียนและครูผู้สอนได้เอง

    • เรียนตัวต่อตัว IGCSE

      1,200/hr.

      • เลือกบทเรียนตามต้องการ
      • เลือกครูสไตล์ที่ชอบ
      • จัดตารางเรียนได้เอง
    • เรียนเป็นคู่ IGCSE

      1,000/hr.

      • จับคู่เรียนกับเพื่อนในราคาพิเศษ
      • เลือกบทเรียนตามต้องการ
      • เลือกครูสไตล์ที่ชอบ
    • เรียนเป็นกลุ่ม IGCSE

      800/hr.

      • จับกลุ่มเรียนยกแก๊งในราคาพิเศษ
      • เลือกบทเรียนตามต้องการ
      • เลือกครูสไตล์ที่ชอบ

IGCSE คืออะไร ?

IGCSE (International General Certificate of Secondary Educational) คือ การสอบของประเทศอังกฤษที่ทำให้ได้รับวุฒิการศึกษาเทียบเท่า ม.4 ในประเทศไทย โดยใช้เวลาเรียนทั้งหมด 2 ปี (Year 10-11) ซึ่งหากเรียนจบหลักสูตร IGCSE แล้ว สามารถไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ อาทิ นำไปใช้ศึกษาต่อในหลักสูตร AS, A Level, IB หรือเพื่อศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย

*หมายเหตุ นักเรียนที่สอบ IGCSE ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป จะต้องสอบ AS/ A-Level อีก 3 วิชาด้วยจึงจะนำผลไปเทียบวุฒิระดับม.6 ได้

IGCSE General Information

ข้อมูลการสอบ IGCSE

การสอบ IGCSE มีกี่ระดับ?

  1. Core (พื้นฐาน) จะครอบคลุมเฉพาะเนื้อหาพื้นฐานเบื้องต้นของวิชานั้นๆใช้เวลาน้อยกว่าและจำนวนข้อน้อยกว่าระดับ Extended
    เกรดที่จะได้ ได้แก่ C,D,E,F,G  (การได้แค่เกรด C จะนั้นไม่เพียงพอที่จะเรียนต่อ A- Level)
  2. Extended (ขั้นสูง) ข้อสอบจะมีเนื้อหาขั้นสูงที่ต้องเรียนเข้มข้นกว่าของวิชานั้นๆ ซึ่งผู้เข้าสอบสามารถมีสิทธิได้คะแนนสูงสุดคือ A*แล้วไล่ไป A,B,C,D,E ตามลำดับ

 

หากนักเรียนเลือกเรียน IGCSE 9 วิชา แต่ผลสอบปรากฏว่ามี 1 วิชาได้ D ถึงวิชาที่เหลือจะได้ C ขึ้นไป  จะสรุปว่านักเรียนเรียนจบ IGCSE แค่เพียง 8 วิชาเท่านั้น ซึ่งคะแนน IGCSE นั้นจะเป็นตัววัดว่านักเรียนมีความรู้มากพอที่จะต่อ A-Level ในวิชานั้นหรือไม่ ซึ่งบางโรงเรียนอาจจะตัดเกณฑ์ที่ B หรือบางโรงเรียนที่มาตรฐานค่อนข้างสูงมากอาจจะบังคับว่าต้องได้ A เท่านั้นถึงจะอนุญาติให้เรียนต่อ  

ดังนั้นทาง Ignite แนะนำให้น้องๆ เลือกเรียนเป็น Extended มากกว่า Core เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้ A* A B เพราะหากได้เพียงแค่ C อาจจะทำให้ตัดโอกาสในการเลือกวิชา A-Level และจะทำให้ record คะแนนของเรานั้นอาจจะดูไม่ดีนักหากได้แค่ C ใน วิชา Core บางโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยอาจจะมองว่าเรานั้นศึกษาวิชานั้นไม่แน่นพอ

 

วิธีการให้คะแนนของ Examiner

 

การตัดเกรดของ IGCSE กับ A- Level นั้น ไม่ได้ตัดคะแนนว่าถ้าได้ 80% จะได้ A ได้ หรือ 70% ขึ้นไปจะ ได้ B  แต่การคิดเกรดนั้นจะมาจาก 3 ปัจจัย 

  1. คะแนนดิบที่นักเรียนสอบได้ 
  2. คะแนนที่ได้เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ในรอบสอบ 
  3. มาตรฐานความยากของข้อสอบปีนั้น 

         แปลว่าหากบางปี คะแนนดิบ 75% ก็อาจจะได้ A*
         แต่บางปีถึงทำได้ถึง 90% อาจะได้แค่ A

 

ช่วงเวลาที่สอบ

ใน 1 ปี มีรอบสอบทั้งหมด 2 รอบ ดังนี้

รอบสอบ รับสมัครสอบ วันสอบ ประกาศผลสอบ
รอบที่ 1  Dec-Early Feb (ช่วงสมัครล่าช้าภายใน ก.พ.) May-June August
รอบที่ 2 July-Early August (ช่วงสมัครล่าช้า : ส.ค.-ต้น ก.ย.) October-November January

 


IGCSE มีทั้งหมดกี่วิชา?

IGCSE มีทั้งหมดประมาณ 77 วิชา โดยแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มวิชา ได้แก่

  1. Creative and professional: Accounting, Drama, Music, Art and Design
  2. English language and literature
  3. Humanities and Social Sciences: Economics, Geography, History, Business Studies, Travel and Tourism
  4. Language: Thai, English (First or Second Language), Chinese, Japanese, Korean, Arabic, German, French
  5. Mathematics: Mathematics, Cambridge International Mathematics, Additional Mathematics
  6. Sciences: Agriculture, Biology, Chemistry, Physics

 

ในส่วนของการเลือกวิชาเรียนนั้น รายวิชาที่เปิดในแต่ละโรงเรียนขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศด้วย บางวิชาเปิดแค่ในเมืองนอก หรือเฉพาะโรงเรียนนานาชาติระบบอังกฤษในประเทศไทย  แต่จริงๆ แล้วการสอบวิชานี้ไม่ได้กำหนดว่าผู้สอบต้องต้องเรียนโรงเรียนนานาชาติเท่านั้น 

ข้อสอบส่วนใหญ่เป็นการเขียนแสดงคำตอบ มีน้อยมากที่เป็น Multiple Choice โดยนักเรียนจะเลือกเรียนวิชาตามจำนวนวิชาที่โรงเรียนนานาชาติของตัวเองกำหนด ซึ่งส่วนมากแล้วจะได้เลือกทั้งวิชาบังคับและเสรีรวมกันประมาณ 7-11 วิชา  โดยในส่วนของวิชาบังคับที่เด็กทุกคนต้องเรียนคือ Mathematics, English, Science (ซึ่งในบางโรงเรียนอาจแยกเป็น Biology, Chemistry, Physics)  หรือภาษาไทย สำหรับเด็กไทย เป็นต้น  

วัตถุประสงค์ของการเลือกเรียนวิชา IGCSE อื่นๆ นั้นมีเพื่อให้นักเรียนเรียนได้กว้างและครบองค์ความรู้ที่สุด เพื่อให้นักเรียนได้สำรวจและค้นหาตัวเองว่าชอบวิชาแนวไหน ถนัดศาสตร์ด้านใด เพื่อปูทางการเลือกคณะในการเรียนต่อมหาวิทยาลัยในอนาคต  ดังนั้นจึงแนะนำให้นักเรียนเลือกเรียนให้ครบทุกหมวด ทั้งหมวด Language, Math, Science,  Humanities และ Creativities และ Art and design โดยต้องคำนึงถึงวิชาที่จะเรียนต่อตอน A- Level ด้วยแต่เนิ่นๆ เพราะจะมีบางวิชาที่หากไม่เลือกเรียนตั้งแต่ IGCSE ก็จะไม่สามารถเลือกเรียนตอนเข้าสู่ Program A-Level ได้ ดังนั้นหากนักเรียนสนใจจะเรียนคณะแพทย์ หรือวิศวะ แล้วไม่ได้เลือก Biology Physics Chemistry ไป ก็อาจจะพลาดโอกาสเข้าคณะเหล่านั้นไปอย่างน่าเสียดาย 

 

ค่าสมัครสอบ IGCSE

ค่าสมัครสอบโดยทั่วไปราคา 6,035-9,430 บาทต่อวิชา (แล้วแต่วิชา) ในกรณีที่สมัครสอบล่าช้ากว่ากำหนด ผู้สอบจะต้องชำระค่าลงทะเบียนล่าช้า (Late Entry) ด้วย (อ้างอิงจากราคาของ British Council หากสมัครที่ Harrow International School ราคาจะสูงกว่านิดหน่อย)

 

สถานที่สมัครสอบ

1. โรงเรียนนานาชาติที่ใช้ระบบอังกฤษ เช่น Harrow, Shrewsbury, Bangkok Patana จะจัดสอบให้กับนักเรียนในโรงเรียนของตนเอง
2. องค์กรที่เปิดสอบให้กับนักเรียนทั่วไปซึ่งได้แก่ British Council
3. โรงเรียนนานาชาติ Harrow เปิดโอกาสให้นักเรียนภายนอกเข้าไปสอบได้ด้วย

 

สถานที่สอบ

1. โรงเรียนนานาชาติที่ศึกษาอยู่
2. ถ้าสมัครสอบกับ British Council ให้ติดตามประกาศจากทาง British Council อีกครั้ง ทั้งนี้ปัจจุบันใช้สนามสอบที่ชั้น 8 อาคารเวฟเพลส ถนนเพลินจิต
3. ถ้าสมัครสอบกับ Harrow International School สอบที่ Harrow International School

 

 

สมัครเรียนหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.igniteastar.com

FAQ

คำถามที่พบบ่อย

  • IGCSE สามารถสอบล่วงหน้าได้หรือไม่

    สอบได้ แต่หากนักเรียนเรียนอยู่ในระบบโรงเรียนานาชาติ จะต้องออกมาสอบศูนย์ข้างนอกที่จัดสอบเอง (Private Candidate) ยกเว้นบางวิชาที่บังคับว่าต้องทำ course work ในโรงเรียน เช่น Drama หรือ Music แต่ถ้าหากนักเรียนนั้นเตรียมตัวไม่พร้อมและยังศึกษาเนื้อหาไม่แน่นพอ ทางสถาบันไม่แนะนำให้นักเรียนลงสอบล่วงหน้า เพราะหากได้คะแนนที่แย่จะทำให้ส่งผลเสียต่อประวัติของตัวเองในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยได้

  • IGCSE สามารถสอบซ่อมได้หรือไม่?

    สามารถสอบซ่อมได้ โดยจะมีการเปิดให้สอบ May- June ของ Year 11  ในกรณีที่สอบไม่ผ่านในบางวิชา หรือคะแนนไม่สูงพอที่จะต่อในวิชา A Level ขั้นสูง ซึ่งต้องไปสอบใหม่ในตอนที่นักเรียนขึ้น Year 12 แล้ว

  • ผลสอบ IGCSE จะส่งมาเมื่อไหร่

    ผลสอบจะประกาศทางออนไลน์ประมาณ 2-3 เดือนหลังสอบเสร็จ แล้วส่งผลคะแนนมาทางไปรษณีย์ แต่ผลคะแนนสอบนี้ยังไม่ใช่ฉบับจริง แต่จะเรียกกันว่า statement of result ซึ่งในผลสอบนี้หากรักเรียนไม่พอใจในเกรดที่ได้และมั่นใจว่าจริงๆ ทำได้ดีกว่านั้น เราสามารถยื่นอุทธรณ์ไปทาง Examination board ที่สอบเพื่อขอให้ทางนั้นตรวจข้อสอบใหม่ให้เราได้  ส่วนผลสอบจริงหรือ Certificate นักเรียนต้องรอประมาณ 6 เดือนหลังจากสิ้นสุดรอบสอบของปีนั้นๆ  ซึ่ง Certificate นี้ สามารถนำไปยื่นรวมกับ A Level ในการเทียบวุฒิ มัธยมปลาย หรือยื่นเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยต่อไป