เจาะลึก 2 วิชายาก IGCSE Chemistry & Biology กับครูเกมและครูเวิลด์

นับถอยหลังอีกเพียง 4 เดือนสู่การสอบ IGCSE รอบตุลาคมสำหรับน้องๆ ระบบการศึกษานานาชาติ การสอบครั้งนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญเลยทีเดียว เพราะน้องๆ ต้องนำคะแนนเหล่านี้ไปใช้ศึกษาต่อวิชาที่ต้องการในระดับ A-Level และอาจต้องใช้ยื่นควบคู่กันในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในอนาคตอีกด้วย
วันนี้พี่ๆ Ignite เลยจะพาน้องๆ มาเจาะลึก 2 วิชายาก IGCSE Chemistry & Biology กับครูพี่เกมและครูพี่เวิลด์ ผู้ที่มีประสบการณ์แน่นในการสอนน้องๆ หลักสูตรอินเตอร์ เพื่อที่จะได้รีบเตรียมตัวคว้าคะแนน A* กันถ้วนหน้า เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า!
เจาะลึกข้อสอบ IGCSE Chemistry จุดไหนยากสุด?
ครูพี่เกมต้องขออธิบายก่อนว่า ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงความยากของ IGCSE Chemistry นั้น น้องๆ อาจจะต้องดูก่อนว่าข้อสอบที่น้องๆ จะเจอนั้นมาจากบอร์ดไหน CIE (Cambridge) หรือ Pearson Edexcel ถึงเเม้ว่าทั้ง 2 บอร์ดนี้จะเป็นระบบการศึกษาหลักสูตร IGCSE เหมือนกัน แต่รูปแบบของข้อสอบจะไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นครูพี่เกมจะชวนน้องๆ มาเริ่มดูตัวข้อสอบกันทีละบอร์ดเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น

CIE Cambridge: IGCSE Chemistry
สำหรับตัวข้อสอบ IGCSE Chemistry ของ CIE Cambridge นั้น จะมีเนื้อหาบทเรียนทั้งหมด 14 บท และตัวข้อสอบจะถูกแบ่งออกเป็น 6 Paper ดังนี้
- Paper 1 Multiple Choices (Core)
- Paper 2 Multiple Choices (Extended)
- Paper 3 Theory: Short Answer & Structured Question (Core)
- Paper 4 Theory: Short Answer & Structured Question (Extended)
- Paper 5 Practical Test
- Paper 6 Alternative to Practical Test
โดยจะสังเกตเห็นได้ว่าข้อสอบของ CIE นั้นถูกแบ่งเป็นแบบ Core หรือเนื้อหาหลักๆ ของบทนั้น และ Extended ซึ่งเป็นเนื้อหาเชิงลึกและขั้นสูง ความยากของข้อสอบ CIE Cambridge นั้นจึงจะอยู่ที่ Paper 2, 4 และ 6 ซึ่งเป็น Extended Paper
ตัว Paper 2 นั้นครูพี่เกมขอบอกว่ายาก แต่ถ้าน้องๆ เตรียมตัวมาดีก็ทำได้แน่นอน เนื่องจาก Paper 2 นั้นจะเป็นเนื้อหาที่มีการเสริมจากเนื้อหาหลัก (Core) ดังนั้นจะมีการใช้สูตร คำนวณ ที่ซับซ้อนมากขึ้น การรู้ Element Symbol เพียงอย่างเดียวจะไม่พอ น้องๆ ต้องประยุกต์ใช้สูตรและสมการต่างๆ ให้เป็น แต่ยังไงก็ตามพาร์ทที่เป็นแบบ Multiple Choices นั้นยังจัดว่าไม่น่ากังวลมาก
ที่นี้ครูเกมขอข้ามไปที่ Paper 6 ซึ่งยากขึ้นไปอีกลำดับ ตัวข้อสอบชุดที่ 6 นี้ จะเป็น Alternative to Practical Test ซึ่งอธิบายง่ายๆ ก็คือน้องๆ จะต้องตอบคำถามเกี่ยวกับการทดลอง (ไม่ได้มีการทดลองจริง) โดยปกติจะมี 4 คำถามใหญ่คือ
- คำถามเกี่ยวกับการทดลองที่น้องๆ เคยทำ ซึ่งในที่นี้น้องๆ ต้องรู้ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ในการทำการทดลอง Safety Measurement รวมถึงสารต่างๆ ที่นำไปใช้
- โจทย์จะให้ Process ของการทดลองมา โดยน้องๆ ต้องตอบคำถามเช่น ขั้นตอนการทดลอง การอ่านค่าปฎิกิริยาต่างๆ
- ในพาร์ทนี้ข้อสอบมักจะให้ Test และ Observation มา และให้น้องๆ ตอบรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เช่น สารประกอบที่นำมาทดลองคืออะไร หรือผลที่ได้ควรเป็นแบบไหน
- การออกแบบการทดลองจากโจทย์ โดยเขียนคำตอบแบบยาว
โดยพาร์ทคำถามส่วนที่ 1 นั้นน้องๆ สามารถที่จะทบทวนทำความเข้าใจได้ไม่อยาก แต่พาร์ทที่อาจต้องเตรียมรับมือเลยหลักๆ จะเป็นข้อ 3 และ 4 ซึ่งต้องใช้การคิดวิเคราะห์และการประยุกต์ความรู้ค่อนข้างเยอะ
Technical Terms ต้องแน่น รู้จัก Mark Scheme ให้ดี
สำหรับ Paper 4 นั้นครูพี่เกมขอจัดอันดับให้เป็นพาร์ทที่ยากที่สุด เนื่องจากคำถามจะไม่ได้เป็นตัวเลือกเหมือน Paper 2 แต่จะเป็นการตอบคำถามสั้นๆ ดังนั้นน้องๆ ต้องรู้คำตอบจริงๆ เพราะไม่มีช้อยส์มานำทางแล้ว และหากต้องการคะแนนที่ดี ไม่ใช่ว่าต้องเขียนอธิบายให้ยาวที่สุด แต่ต้องเขียนคำตอบให้ถูกจุด หรือรู้จัก “Mark Scheme” นั่นเอง
โดยตัว Mark Scheme นี้จะเป็นไกด์ไลน์ที่คอยบอกเราว่า คำถามแบบนี้ คำตอบควรเป็นแบบไหน มี Keyword อะไรที่ควรใส่ลงไปบ้าง และ Structure ในการอธิบายคำตอบเป็นประมาณไหน
ซึ่งหากน้องๆ ฝึกฝนทำโจทย์เก่า หรือ Past Paper บ่อยๆ เฉลยก็มักจะมากับตัว Mark Scheme ซึ่งจะคอยบอกแนวทางคำตอบว่าควรจะเป็นประมาณไหนและทำให้น้องได้คะแนนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการรู้จัก Keyword ให้เยอะมากที่สุดอาจจะไม่ใช่คำตอบในการสอบให้ได้คะแนนดีอย่างเดียว น้องๆ ต้องรู้ความแตกต่างของ Keyword เหล่านั้นด้วย
ครูพี่เกมขอยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ในข้อสอบน้องๆ อาจจะเจอภาพของกระบวนการหนึ่งที่เปลี่ยนสสารจากของเหลวเป็นของแข็ง ซึ่ง Technical Term สามารถใช้ได้หลายคำมาก ไม่ว่าจะเป็น Freezing หรือ Crystallization แต่หากในภาพนั้นมีการตกผลึก คำตอบที่ถูกต้องที่สุดก็คือ Crystallization
Pearson Edexcel: IGCSE Chemistry
หากมาดูกันที่ตัวข้อสอบของ Edexcel ครูเกมบอกเลยว่าไม่สามารถเจาะจงได้ว่าพาร์ทไหนจะยากหรือง่ายที่สุด เนื่องจากข้อสอบจะไม่ได้แบ่งออกตามบทเรียนอย่างชัดเจนเหมือนข้อสอบ CIE ซึ่งนั้นแหละ คือสิ่งที่ครูเกมว่าเป็นเรื่องที่ยากเพราะเดาทางไม่ได้มากนักเมื่อเทียบกับ CIE
ข้อสอบของ Edexcel นั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 Papers โดยในแต่ละเปเปอร์จะมีการคละบทเรียน แต่บทเรียนจะไม่ซ้ำกันระหว่างสองเปเปอร์ พูดง่ายๆคือ เปเปอร์แรกอาจจะมีบท 1,3,4,7 ส่วน เปเปอร์สองมีบท 2,5,6,8 ซึ่งเราจะไม่สามารถเดาได้แน่ๆ ว่าบทไหนจะไปตกอยู่ที่เปเปอร์ไหน
นอกจากการเน้นทฤษฎี ตัวข้อสอบยังเน้นลงลึกด้านการคำนวณอีกด้วย ทำให้เด็กๆ ต้องรู้เรื่อง Calculation และเนื้อหาแน่นตั้งแต่เรื่อง Atomic Structure ไปยันเรื่อง Experiments

สอบ IGCSE Chemistry เตรียมรับมือยังไงดี?
- เตรียมพร้อม Mark Scheme รู้จัก Technical Term ให้เยอะ แบ่งหมวดหมู่ให้เป็น
เนื่องจากตัวคีย์เวิร์ดพวกนี้เป็นจุดสำคัญในการได้คะแนน น้องๆ ควรรู้จักคีย์เวิร์ดให้ครอบคลุม สำหรับทุกบทเรียน นอกจากนี้ต้องแยกความแตกต่างของเเต่ละคำเป็นเพื่อนำไปใช้ให้ตอบรับโจทย์ได้ดีที่สุด โดยปกติแล้วครูพี่เกมจะจับ Main Idea ของแต่ละบทพร้อมตัวคีย์เวิร์ดเพื่อสอนน้องๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะตัวที่ใช้ตอบในข้อสอบบ่อยๆ ประเภทที่ว่าออกข้อสอบกี่ครั้งก็จะมีคำพวกนี้ แต่น้องบางคนก็อาจจะหาวิธีจำที่เหมาะกับตัวเองขึ้นไปอีกเช่น การทำการ์ดจับกลุ่มคำในหมวดเดียวกัน แล้วก็นำมาเล่นทบทวนเวลาว่าง หรือบ้างที่ครูพี่เกมก็ทำคีย์เวิร์ดมาแต่งเป็นกลอนตลกๆให้น้องจำได้ง่ายขึ้นก็มี - รู้จัก Element Symbol ให้ดี
ส่วนใหญ่ข้อสอบ IGCSE Chemistry นั้นมักจะแถมตัว Formula มาให้น้องๆ ประยุกต์ใช้หาคำตอบกันอยู่แล้ว แต่ทางที่ดีน้องๆต้องจำตัว Element Symbol เองให้ดี เช่น ธาตุตัวไหนใช้สัญลักษณ์อะไร และนำไปคำนวณให้ถูก จะได้ไม่พลาด Perfect Score ไป - ทำ Past Paper ตีโจทย์ให้แม่น
ข้อยากในการสอบ Intergrated Paper แบบ Edexcel นั้นก็คือบางทีน้องๆไม่รู้ว่าคำถามนี้มาจากบทเรียนไหน ไม่รู้ว่าตอบไปนี่จะถูกไหม ดังนั้นการทำโจทย์เก่าบ่อยๆก็จะช่วยได้ เมื่อเข้าห้องสอบจริง น้องๆจะได้เคยผ่านตามาแล้วว่า ถ้าคำถามประมาณนี้ น่าจะมาจากบทเรียนนี้นะ และวิธีการทำจะเป็นประมาณไหน
ข้อสอบ IGCSE Biology พาร์ทไหนโหดสุด?
คราวนี้ถึงตาครูพี่เวิลด์แล้ว สำหรับวิชา IGCSE Biology วิชานี้สามารถบอกได้เลยว่าถึงแม้จะมีดีกรีว่ายาก แต่หากน้องๆ ตั้งใจเรียนและทบทวนมาดีก็มีสิทธิ์คว้า A* มาได้แน่นอน โดยตัว Biology นี้ครูเวิลด์ขอเลือกเจาะลึกเป็นข้อสอบของ CIE Cambridge หนึ่งในบอร์ดฮ็อตฮิตคนเหล่าโรงเรียนอินเตอร์กันก่อน
CIE Cambridge: IGCSE Biology
สำหรับน้องๆ ที่เลือกสอบ Core จะต้องลงมือทำข้อสอบทั้งหมดสามชุดนั่นก็คือ Paper 1,3 และ 5
- Paper 1 Multiple Choices (Core)
- Paper 3 Short Answer (Core)
- Paper 5 Practical Test (Core)
ส่วน Extended Candidates ต้องทำข้อสอบ 3 ชุด คือ
- Paper 2 Multiple Choices (Extended)
- Paper 4 Theory: Short Answer (Extended)
- Paper 5 Alternative to Practical Test (Extended)

ซึ่งตรงนี่เนี่ย ครูเวิลด์ขอบอกไว้ว่าจากประสบการณ์การสอน ส่วนใหญ่แล้ว Paper 2 และ 4 มักจะเป็นจุดที่ยากที่สุดสำหรับนักเรียน นอกจากนี้ Paper 2 จะมีคะแนน 30% และ Paper 4 มีคะแนน 50% ซึ่งถือว่าเป็นสองเปเปอร์ที่มีเปอร์เซนต์สำคัญมากทีเดียวในการวัดคะแนนสอบรวม
ในส่วนของ Paper 2 จะเป็นคำตอบแบบตัวเลือกซึ่งมีทั้งหมด 40 ข้อ ซึ่งตรงนี้ถึงแม้ว่าน้องๆ จะมีไกด์ไลน์จากตัวเลือกมาให้แล้ว แต่บางครั้งหลายๆ คนก็ตอบผิดเนื่องจากความ Tricky ของคำถาม เช่นบางครั้งโจทย์อาจจะให้รูปภาพของ Cell Structure มาและถามบริเวณกรอบเซลล์นั้นเรียกว่าอะไร น้องๆ หลายคนอาจจะเลือกตอบ Cell Wall แต่คำตอบที่ถูกจริงๆนั้นคือ Cell Membrane เนื่องจากรูปภาพที่ให้มานั้นเป็นเซลล์ของสัตว์ (Cell Wall พบในเซลล์พืชเท่านั้น)
สำหรับตัว Paper 4 นั้นนอกจากน้องๆ จะต้องรู้ Technical Term แล้ว ก็ต้องรู้ Main Idea ของแต่ละบทเรียนเนื่องจากตัว IGCSE Biology นั้นจะไม่ได้มีการคำนวณออกสอบลงลึกเหมือนวิชาอื่นๆ แต่จะเน้นในตัวของ Theory มากกว่า ซึ่งตัวเนื้อหานั้นมีถึง 21 บทเลยทีเดียว ดังนั้นน้องๆ ต้องสรุปเนื้อหาและเข้าใจใจความหลักให้เป๊ะ

จะสอบ IGCSE Biology เตรียมตัวอย่างไรดี?
- ปูพื้นฐานให้ดี ส่วนไหนที่ยังไม่ได้เรียนเร่งนำมาทบทวนก่อน
หากใกล้ถึงเวลาสอบแล้ว ครูพี่เวิลด์ขอแนะนำว่า เนื้อหาส่วนไหนที่น้องๆ ตั้งใจเรียนและมีพื้นฐานมาบ้างแล้วอาจจะเก็บเอาไว้ก่อน รีบนำส่วนที่เรายังไม่ได้เรียน หรือพื้นฐานไม่แน่นมาทบทวนก่อนจะดีกว่า เนื่องจากการเข้าใจ main idea ของแต่ละบทเป็นเรื่องสำคัญมากใน Biology - ทำ Past Paper ให้เยอะจะได้คุ้นกับข้อสอบ
ครูพี่เวิลด์ขอบอกก่อนว่า ในการสอบ IGCSE Biology นั้น ส่วนใหญ่แล้วจะมีประเด็นสำคัญของแต่ละบท ที่ไม่ว่ากี่ครั้งๆก็จะมีเรื่องแนวนี้ออกในข้อสอบ เช่น การให้น้องๆอธิบายทฤษฎี Natural Selection แต่ก็มีบางพาร์ทที่ไม่ได้เจอบ่อยนักและไม่ใช่จุดโฟกัสหลักตอนทบทวน ดังนั้น น้องๆควรทำโจทย์เก่าให้มากเพื่อที่จะได้คุ้นชินเวลาเจอของจริง - รีวิว Feedback ทุกครั้งหลังลองทำโจทย์
หลังจากการฝึกลองทำโจทย์ทุกครั้งควรนำมารีวิวอีกรอบเพื่อดู feedback โดยประสบการณ์ที่ผ่านมาครูพี่เวิลด์เห็นว่าน้องๆหลายคนสามารถตอบคำถามได้ถูก แต่ไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ซึ่งนี่ก็เป็นจุดนึงที่อาจทำให้พลาดคะแนนไป ดังนั้นหลังฝึกโจทย์เสร็จหากสามารถนำมาให้คุณครูรีวิวจะช่วยน้องๆได้เยอะ โดยเฉพาะในเรื่องของ Structure คำตอบ ต้องตอบอย่างไรให้เป็นขั้นเป็นตอนและอธิบายตรงจุด

ถึงแม้ว่าการสอบ IGCSE นั้นจะใกล้เข้ามาถึงแล้วในอีกไม่กี่เดือน แต่ครูพี่เกมและครูพี่เวิลด์ก็ขอย้ำว่า หากน้องๆ เริ่มติวตอนนี้ยังไงก็ทันแน่นอน ถ้าตั้งใจและจัดเวลาการทบทวนให้ดี โดยหากน้องๆ มีพื้นฐานจากห้องเรียนในโรงเรียนแล้วก็อาจจะเน้นไปที่การฝึกทำโจทย์รับมือการสอบจริงมากขึ้น
หากน้องๆ คนไหนต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการคว้าคะแนนที่ต้องการ ทาง ignite มีคุณครูและทีมงาน ที่มีประสบการณ์ในการสอนและติวสอบหลักสูตร IGCSE หลากหลายกลุ่มวิชา คุณครูจะช่วยสรุปเนื้อหา ตะลุยโจทย์ รวมถึงเน้นส่วนของ Mark Scheme ปรับตามพื้นฐานรายบุคคลและบอร์ดที่น้องสอบ และยังให้คำแนะนำในด้านการเรียนอีกด้วย
สามารถทักเข้ามาสมัครเรียนและปรึกษาวางแผนการเตรียมตัวสอบได้ทาง Line @igniteinter หรือคลิก https://bit.ly/3qOtyCB เข้ามาได้เลยครับ พี่ๆ พร้อมให้ข้อมูล เพื่อให้น้องๆ คว้า A* ให้ได้อย่างแน่นอน
ดูรายละเอียดคอร์สเรียน ignite A* เพิ่มเติมได้ทาง >> https://www.igniteastar.com/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog
IGCSE คืออะไร? ตอบทุกข้อสงสัยไปกับ ignite by ondemand
IGCSE (International General Certificate of Secondary Educational) คือ หลักสูตรการศึกษาจากประเทศอังกฤษที่ทำให้ได้รับวุฒิการศึกษาเทียบเท่า ม.4 ในไทย ซึ่งหากเรียนจบหลักสูตร IGCSE แล้ว สามารถไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ เช่น AS, A Level, IB หรือเพื่อศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย โดยปกติในประเทศไทยนั้น การสอบ IGCSE จะอยู่ในระบบการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติที่ใช้ระบบการเรียนการสอนแบบอังกฤษ (UK) แต่น้องๆที่ไม่ได้อยู่ในระบบ ก็สามารถสมัครสอบ IGCSE ได้โดยตรงกับทาง British Council Thailand นะครับ สำหรับการสอบ IGCSE นั้น ต้องเลือกสอบจำนวน 5 วิชา เพื่อให้ได้ IGCSE Certificate โดย IGCSE มีให้เลือกมากกว่า 70 […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
เจาะลึกเส้นทางสอบติดคณะแพทย์ระดับโลก “University of Cambridge” น้องพรอมท์ Shrewsbury International School
กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่กับบทสัมภาษณ์ ignite Idol น้องพรอมท์ Shrewsbury International School ที่เพิ่งสอบติดคณะแพทย์ University of Cambridge ประเทศอังกฤษปีล่าสุดมาหมาดๆ … ถือเป็นเรื่องน่าภูมิใจของประเทศไทยและ ignite มากๆ ที่สามารถส่งเด็กไทย ไปคว้าที่นั่งในคณะแพทย์เคมบริจด์ ได้ถึง 2 ปีซ้อน ซึ่งเป็นคณะแพทย์ที่ใครๆ ต่างก็ยอมรับว่าสอบเข้ายากที่สุดในโลก วันนี้พี่แอดมินขอพาน้องพรอมท์ มาเจาะลึกเส้นทางสู่คณะแพทย์ University of Cambridge ประเทศอังกฤษ พร้อมเปิดเผยเส้นทางสู่การสอบติดคณะแพทย์ระดับโลก ให้เด็กไทยทุกคนที่มีความฝันได้ศึกษาแนวทางการเตรียมตัวที่ถูกต้อง…พี่แอดมินเชื่อว่าบทความนี้จะทำให้ประเทศไทยได้คุณหมอที่มีศักยภาพระดับโลกกลับมาพัฒนาวงการสาธารณสุขไทยเพิ่มอย่างแน่นอนครับ ได้ยินว่าน้องพรอมท์อยากเป็นหมอ เพราะต้องการทำงานที่ช่วยให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้น? เรื่องนี้มีที่มา ที่ไปอย่างไรครับ ใช่ครับ…จริงๆ แล้วผมมีความรู้สึกอยากเป็นหมอมาตั้งแต่เรียนอยู่ ม.2 แล้วครับ ด้วยความที่ยังเด็กมาก เราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรไปตอนนั้น แต่พอโตขึ้นผมได้มีโอกาสไปสอนหนังสือให้น้องๆ […]
Comments (0)
-
Blog
BJM คืออะไร? เรียนอะไรบ้าง? อยากสอบติดต้องทำอย่างไร?
สวัสดีน้องๆ สายศิลป์ทุกคนนะครับ พี่แอดมินพาคณะอินเตอร์ปังๆ มาแนะนำให้พวกเราได้รู้จักกันอีกแล้ว…วันนี้มาพบกับ BJM คณะอินเตอร์ยอดฮิตที่รับรองว่าตรงใจชาวสายศิลป์หลายคนแน่นอน ไม่พูดพร่ำทำเพลง เราไปทำความรู้จักกันว่า คณะ BJM คืออะไร? ในหลักสูตรเรียนอะไรบ้างกันเลยดีกว่า BJM คืออะไร? เรียนอะไร? BJM หรือ Bachelor of Arts Program in Journalism (Mass Media Studies) คือ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน สาขาวิชาสื่อ หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ น้องๆ นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า คณะวารสารอินเตอร์หรือ BJM นั้นเอง สำหรับหลักสูตรนี้จะมีความคล้ายคลึงกับคณะนิเทศศาสตร์ที่พวกเราคุ้นเคยกันอยู่พอสมควรครับ แต่ที่ BJM จะเน้นเรียนครอบคลุมมากกว่า ไม่มีการเลือกสาขา เฉพาะเจาะจงแต่น้องจะได้เรียนครบเกี่ยวกับสื่อในทุกด้าน ตั้งแต่การผลิต ออกแบบ สร้างสรรค์ ภาพยนตร์ โฆษณา ประชาสัมพันธ์หรือวิทยุและโทรทัศน์ ไปจนถึงเรียนการบริหารการสื่อสาร ซึ่งรุ่นพี่แอบกระซิบมาว่าที่นี่เน้นเรียนปฏิบัติ น้องจะได้ศึกษาทั้งการเป็นเบื้องหน้าและเบื้องหลัง รับรอบว่ามาเรียน […]
Comments (0)
-
Blog, GED
ไขข้อสงสัย GED ยื่นเข้าภาคไทยได้ไหม?
สวัสดีค่ะน้องๆ พี่คิดว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านใน Blog นี้คงจะทราบกันดีว่า GED คืออะไร แต่ยังมีอีกหลายคนสงสัยว่า GED สามารถยื่นเข้ามหาลัยในภาคไทยได้หรือไม่? หรือสามารถยื่นเข้าได้แค่คณะอินเตอร์ วันนี้พี่จะมาไขข้อสงสัยให้น้องๆ เอง ตามมาดูกันค่ะ !! รวมคณะภาคไทย ที่ใช้ GED ยื่นได้ พี่ขอ recap สั้นๆ ให้ฟังอีกครั้งสำหรับน้องๆ ที่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ GED เลย GED เป็นวุฒิการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยได้รับรองวุฒิการศึกษานี้ให้เทียบเท่าได้กับวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของประเทศไทย ซึ่งเสมือน เป็นใบเทียบวุฒิ ในการเข้ามหาลัยได้ ดังนั้นหมายความว่าหากน้องๆ สอบ GED ผ่านแล้ว สามารถนำวุฒิ GED ที่ได้นี้ไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัยที่น้องต้องการได้เลย พี่ขอสรุปตรงนี้เลยว่า GED […]
Comments (0)
Comments