Review หนังสือ SAT Subject test Chemistry พิชิต 800 เต็มกับพี่ก๊อฟ

Review หนังสือ SAT Subject test Chemistry พิชิต 800 เต็มกับพี่ก๊อฟ
Highlights
- ในตลาดมีหนังสือ SAT Subject Test Chemistry ทั้งหมด มีหนังสือที่น่าสนใจอยู่ทั้งหมด 5 เล่ม ได้แก่ College board, Barron, Kaplan, The Princeton Review, และ Dr. Jang
- เล่มที่มีจำนวน Full test เยอะที่สุด คือ Jung มีทั้งหมด 10 ชุด
- เล่มที่มี Full test ที่เหมือนจริงที่สุด คือ College board แต่มีแค่ 2 ชุด (จะไม่เหมือนได้ไงเป็น สถาบันออกข้อสอบ)
- เล่มที่สรุปแต่ละบทได้ค่อนข้างดี อ่านเข้าใจง่าย เป็น bullet point ขอยกให้ The Princeton Review ที่มี Summary ต่อท้ายในแต่ละบท เป็นการ wrap-up ที่ดีมากๆ
- สุดท้ายหนังสือเล่มไหน ไม่สำคัญเท่าวิธีการ ซึ่งแนะนำไว้ 3 ขั้นตอน จับเวลาจริง, จดข้อผิด, และ อ่านทบทวน
- ถ้ารู้ตัวว่าไม่มีสมาธิ จับเวลาเองไม่ได้ รวมถึงต้องการคนคอยวิเคราะห์กลยุทธ์ จุดแข็ง และ จุดอ่อน ของตัวเอง เพื่อประสิทธิภาพในการอ่านทบทวนอย่างสูงสุด การเรียนแบบมีคนดูแลอย่างใกล้ชิดสามารถตอบโจทย์ได้เช่นเดียวกัน
ใกล้ช่วงฤดูการสอบ SAT และ SAT Subject Tests เข้าไปทุกที น้องๆ หลายคนก็ได้เตรียมตัวในเรื่องเนื้อหาของแต่ละวิชากันไปมากพอสมควรแล้ว หลายคนได้มีโอกาสทำโจทย์แยกบทเพื่อดูว่าลักษณะหน้าตาของโจทย์เป็นอย่างไรกันไปบ้างแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยสำหรับการฝึกซ้อมในสนาม SAT Subject tests ก็คือ การลองฝึก Full test และจับเวลา เนื่องจากจำนวนข้อสอบ SAT Subject Tests นั้นเยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SAT Subject Test Chemistry จะต้องทำข้อสอบทั้งหมด 85 ข้อ ภายในเวลา 60 นาที หรือประมาณ 42 วินาที/ข้อ ซึ่งถือว่าโหดหินมาก ถ้าใครไม่เคยเตรียมตัว เรื่องจับเวลามา ขอบอกได้เลยว่าโอกาสได้คะแนนสูงยากมากทีเดียว
เมื่อเป็นเช่นนี้น้องๆ หลายคนที่ได้เรียนเนื้อหาในบทต่างๆ จบไปแล้ว ก็มักจะหาหนังสือ SAT Subject Test Chemistry มาฝึกเสริมเพิ่มเติมในเรื่อง การลองทำข้อสอบแบบ Full test เพื่อจับเวลา หรือ โจทย์แบบแยกบทเพื่อที่จะทบทวนเนื้อหาที่น้องๆ อาจจะหลงลืมหรือตกหล่นไป วันนี้พี่เลยอยากจะมารีวิว หนังสือ SAT Subject Test Chemistry ในท้องตลาดว่าเล่มไหนเป็นยังไงบ้าง ตามความคิดของพี่เอง (ต้องขออภัย หากความคิดเห็นอาจจะไม่ตรงกับน้องๆบางคน)
โดยวันนี้พี่จะนำหนังสือเล่มยอดฮิตในท้องตลาดทั้งหมด 5 เล่ม ได้แก่ College board, Barron, Kaplan, The Princeton Review, และ Dr. Jang มารีวิวว่า หนังสือเล่มไหนดี หนังสือเล่มไหนคุ้ม พร้อมกับสรุปภาพรวมข้อแนะนำสำหรับการเตรียมตัวเพื่อให้น้องๆทุกคนพิชิต 800 เต็ม…. พร้อมแล้วไปชมรีวิวกันเลย

เล่มที่ 1: College Board - SAT Subject Test Chemistry
สิ่งที่ให้มา
- Full-test 2 ชุด (ข้อสอบที่เคยออกจริง)
ราคา
- 662 บาท ใน Kinokuniya (online price)
ข้อดี
- เป็นข้อสอบจริงเพราะเป็นข้อสอบที่เคยออกจริง หลายครั้งข้อสอบมีการนำมาออกซ้ำแบบตรงเป๊ะ
- สัดส่วนข้อสอบ และความยากสามารถเอาไว้ใช้เป็น guideline สำหรับในการวางกลยุทธ์ได้เป็นอย่างดี
ข้อเสีย
- ไม่ค่อยคุ้มค่ากับราคาเพราะมีแค่ 2 ชุด
- ไม่มีเนื้อหาตามบทให้ทบทวน
ข้อแนะนำ: ไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ แต่ว่าถ้ารวมกับกลุ่มเพื่อนซื้อแล้วแบ่งกันน่าจะโอเค
สรุปคะแนน: 3.5 / 5 คะแนน

เล่มที่ 2: Barron (14th Edition) - SAT Subject Test Chemistry
สิ่งที่ให้มา
- Diagnosis test 1 ชุด Full-test
- Full-test 4 ชุด ในหนังสือ
- Full-test 2 ชุด ใน online
- ทบทวนเนื้อหาทุก topic พร้อม Practice Exercise (บทละประมาณ 20 ข้อ)
ราคา
- 726 บาท ใน Kinokuniya (online price)
ข้อดี
- มีการอธิบายเกี่ยวกับเนื้อหาได้ค่อนข้างละเอียด มีรูปภาพประกอบชัดเจน
- มีสรุปเป็น chapter summary ให้ท้ายบท มี Internet Resource ให้ไปศึกษาต่อเพิ่ม
ข้อเสีย
- มีเนื้อหาที่เดี๋ยวนี้ไม่ออกสอบ ยากเกินไปและไม่ออกสอบแล้ว เช่น quantum number, rate law
- ข้อสอบท้ายเล่มมีความยากไปในบางหัวข้อ อาจจะไม่ตรงกับข้อสอบมากนัก
ข้อแนะนำ: ถ้าไม่ใช่สายแข็งจะทำคะแนนเพื่อเอาเต็ม 800 ไม่แนะนำเท่าไหร่ แต่ถ้าใครคะแนนเกิน 750 แล้วยังอยากได้โจทย์ยากเพื่อทำคะแนนให้ถึง 800 อาจจะลองนำเล่มนี้ไปฝึกได้
สรุปคะแนน: 3.5 / 5 คะแนน

เล่มที่ 3: Kaplan - SAT Subject Test Chemistry
สิ่งที่ให้มา
- Diagnosis test 1 ชุด Full-test
Full-test 3 ชุด ในหนังสือ - ทบทวนเนื้อหาทุก topic พร้อม Practice Exercise (บทละประมาณ 20 ข้อ)
ราคา
- 622 บาท ใน Kinokuniya (online price)
ข้อดี
- ความยากของ Full test ทั้งสามชุดมีความใกล้เคียงกับข้อสอบจริง
- มีเนื้อหาแต่ละบทที่อ่านค่อนข้างง่าย
ข้อเสีย
- มีเนื้อหาที่เยะเกินกว่าข้อสอบจริงมากพอสมควร และส่วนใหญ่มักไม่ค่อยออก
- ขาดสรุปแต่ละบทที่เข้าใจได้ง่าย
ข้อแนะนำ: ถ้าจะซื้อมาทำโจทย์ เพื่อหาโจทย์ใหม่ๆถือว่าโอเค เพราะโจทย์มีความใกล้เคียงกับความจริงมากพอตัว แต่ถ้าจะเอามาทบทวนเนื้อหาด้วยไม่ค่อยแนะนำเพราะสรุปไม่ค่อยดีเท่าไหร่และมีบางเนื้อหาที่เกินจากที่ออกข้อสอบจริง
สรุปคะแนน: 3.5 / 5 คะแนน

เล่มที่ 4: The Princeton Review - SAT Subject Test Chemistry
สิ่งที่ให้มา
- Full-test 3 ชุด ในหนังสือ
- ทบทวนเนื้อหาทุก topic พร้อม Drill Exercise (บทละประมาณไม่เกิน 10 ข้อ)
ราคา
- 551 บาท ใน Kinokuniya (online price)
ข้อดี
- เนื้อหาสรุปค่อนข้างดี อธิบายได้อย่างชัดเจน มีตัวอย่างทำให้ดูก่อนให้ลองทำจริง มีการสรุปเป็น bullet point ชัดเจนให้ท้ายบทหลังลองทำข้อสอบ
- เนื้อหาครอบคลุมบทที่ออกและไม่มีบทหรือหัวข้อที่ออกเกินจากข้อสอบจริง
ข้อเสีย
- จำนวนข้อที่ทบทวนหลังบทไม่เยอะมาก บางบทมีไม่ถึง 10 ข้อ
ข้อเสนอแนะ: ถ้าใครต้องการทบทวนเนื้อหา และต้องการสรุปเนื้อหาแบบย่อยๆเป็น bullet point ใช้ทบทวน เป็นอันที่ตอบโจทย์มากๆ แต่ว่าถ้าจะซื้อมาเพื่อทำ Full test หรือ ต้องการ up คะแนนให้เต็มเล่มนี้อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่
สรุปคะแนน: 4 / 5 คะแนน

เล่มที่ 5: Dr. Jang’s SAT* 800 Chemistry Subject Test
สิ่งที่ให้มา
- Diagnosis test 1 ชุด แต่เป็นแบบเรียงบท
- Full-test 10 ชุด
- ทบทวนเนื้อหาทุก topic พร้อม Practice Exercise (บทละประมาณ 30 ข้อ)
ราคา
- 1,056 บาท ใน Kinokuniya (online price)
ข้อดี
- มีจำนวนชุดข้อสอบเยอะมาก ความยากมีทั้งแบบที่ตรงกับข้อสอบ และยากกว่าข้อสอบเล็กน้อย
- เฉลยอยู่ด้านข้างเลย ไม่ต้องพลิกไปพลิกมา (แต่ก็จะทำให้เกิดการโกงแอบดูได้ง่าย)
ข้อเสีย
- มีเนื้อหาเกินกว่าที่จะออกสอบ ซึ่งยากกว่าข้อสอบจริง เช่น quantum number, rate law
- เฉลยอาจจะไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ เหมาะกับคนที่มีพื้นฐานดีอยู่แล้ว
ข้อแนะนำ: สำหรับคนที่เน้นปริมาณข้อสอบ อยากได้ข้อสอบเยอะๆ หรือ สำหรับคนที่อยากทำคะแนนสูงเล่มนี้เหมาะมากกับน้องๆเพราะว่ามีข้อสอบให้เลือกทำหลายชุด มีหัวข้อยากและง่ายครอบคลุมทั้งหมด น้องที่อาจจะไม่ได้หวังคะแนนเต็มอาจจะเลือกทำโจทย์บางชุดที่ไม่ยากมาก ส่วนคนที่หวังเต็มก็อาจจะเลือกชุดท้ายๆ ที่มีความยากมากขึ้นได้ครับ
สรุปคะแนน: 4.5 / 5 คะแนน
สรุปเทคนิคการทำโจทย์ SAT Subject Test Chemistry ให้ได้ 800 คะแนนเต็ม !
สุดท้ายนี้ขอพี่ขอแนะนำเทคนิคการฝึกทำโจทย์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งพี่ได้รวบรวมมากจากพี่ๆที่สอบได้ 800 คะแนนเต็มไว้เป็นขั้นตอนง่ายๆ 3 ข้อ ดังนี้
- จับเวลา: หลายคนมักคิดว่า ถ้าเราเรียนเนื้อหาและเข้าใจเนื้อหาทุกอย่างแล้วเราจะสามารถทำข้อสอบ SAT Subject Test ได้คะแนนดี พี่ขออนุญาตดับฝันน้องๆ เลยว่าโอกาสทำได้น้อยมากครับ เพราะโดยส่วนใหญ่เวลาเราทำโจทย์ตอนเราเรียนเนื้อหาเราไม่ค่อยได้คำนึงเรื่องเวลาซะเท่าไหร่ แต่ในข้อสอบนั้นความเร็วเป็นสิ่งสำคัญมากดังนั้น น้องๆทุกคนที่เริ่มจะทำโจทย์ก่อนไปสอบ ต้องจับเวลาเสมอนะครับ ไม่ว่าจะทำโจทย์ Full-test หรือบางครั้งจะทำแค่ 10 หรือ 15 ข้อ ก็ต้องฝึกคำนวณเวลาและจับเวลาอย่างจริงจัง เพื่อเวลาไปเจอข้อสอบจริงจะได้ ไม่ตื่นเต้นกับการบีบของเวลา และบางครั้งการฝึกแบบนี้จะช่วยเราในการกำหนดว่าข้อสอบแนวไหน ควรทำเร็ว ข้อสอบแนวไหน ควรทำช้า ข้อสอบแนวไหนควรข้ามไปก่อน ถ้าไม่เคยลองจับเวลาเลยจะทำให้เราไม่เก่งเรื่องการบริหารสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่แบ่งแยกระหว่าง คนทำได้คะแนนพอโอเค กับ คนที่ทำได้คะแนนสูงครับ
- จดข้อผิด: หลายคนมักไม่ทราบว่าเวลาเราผิด เรามักจะผิดข้อเดิมๆที่เราเคยผิดนั่นแหละครับ ข้อไหนที่มันง่ายและเราทำถูก เราก็มักจะทำถูกเมื่อเจอมันอีกรอบ แต่ถ้าข้อไหนที่เรามักจะทำผิดเราก็จะผิดซ้ำๆ ไปแบบนั้นแหละครับ ดังนั้นแล้วสิ่งที่น้องๆ ที่ได้คะแนนสูงทุกคนทำ คือ การจดข้อผิด ครับ หลายคนมักเข้าใจผิดว่า คนที่ได้คะแนนเยอะ คือ คนที่ทำถูกเยอะ จริงๆมักตกไปนิดนึงครับ คำที่ได้คะแนนเยอะ คือ คนที่ทำถูกเยอะตอนสอบจริง แต่ผิดเยอะมากตอนซ้อมอยู่ที่บ้านครับ คนที่ไม่เคยผิดเลยจะไม่มีทางรู้จุดอ่อนตัวเอง และคนที่ไม่เคยจดหรือบันทึกจุดอ่อนของตัวเองเลย จะไม่เคยได้แก้ไขจุดอ่อนของตัวเอง ดังนั้นถ้าน้องคนไหน อยากได้คะแนนเยอะ skill หลักที่ต้องมีเลย คือ การจดบันทึกข้อที่ตัวเองผิด และพยายามอย่าให้ผิดพลาดซ้ำ
- อ่านทบทวน: ต่อเนื่องจากข้อ 2 เมื่อน้องๆ ได้ทำการจดบันทึก ข้อผิดพลาดของตัวเองซึ่งเป็นจุดอ่อนแล้ว เมื่อถึงเวลาใกล้สอบน้องๆ ไม่ต้องไปนั่งอ่านหนังสือทบทวนเนื้อหาทั้งหมด แค่หยิบสิ่งที่น้องจดไว้ว่าน้องผิดตรงไหนบ้าง ข้อไหนบ้าง concept ไหนบ้าง แล้วเลือกทบทวนเฉพาะส่วนนั้น อันนี้จะทำให้เราทบทวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ ปิดจุดอ่อนในจุดที่น้องมักจะผิด เมื่อปิดจุดอ่อนครบการที่จะได้คะแนนสูงก็ไม่ใช่เรื่องยาก

อย่างไรก็ตาม พี่เข้าใจว่าน้องๆ หลายคนอาจจะไม่มีสมาธิในการจับเวลาด้วยตัวเอง หรือ บางครั้งอาจจะไม่มีระบบระเบียบในการจัดการข้อผิดของตัวเอง หรือน้องบางคนอาจจะต้องการกลยุทธ์ในการสอบเพื่อให้ได้คะแนนสูงสุดโดยออกแรงน้อยที่สุด ดังนั้นการมี coach ที่เชี่ยวชาญในเรื่องข้อสอบช่วยดูแลน้องๆ ก็อาจจะเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับน้องๆบางคน ซึ่งถ้าใครสนใจอยากจะได้โค้ชที่ดี และเทคนิคดีๆ ในการทำให้คะแนนของน้องพุ่งไปถึง 800 เต็ม คอร์ส Advanced SAT Subject Test อาจจะเป็นสิ่งที่น้องตามหาอยู่ก็เป็นได้ เพราะคอร์สนี้จะรวบรวมข้อสอบใหม่ที่ไม่มีในหนังสือเล่มไหน รวมถึงเทคนิคต่างๆ พร้อมทั้งช่วยน้องจับเวลาจากแบบฝึกหัดเล็กๆ ไปจนถึง Full-test 60 นาที รวมถึงจะมี session ที่จะพบเจอน้องๆ กันแบบตัวต่อตัวเพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์ให้น้องเป็นรายบุคคล และพยายามผลักดันน้องๆ ทุกคนให้ถึงจุดเป้าหมายสูงสุดของตัวเอง
สำหรับน้องๆ คนไหนอยากเตรียมพร้อมข้อสอบ SAT สามารถเข้าไปอ่านบทความทุกเรื่องของข้อสอบ SAT เพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.ignitebyondemand.com/category/sat/
ใหม่ล่าสุด! กับคอร์ส SAT / SAT Subject Tests ในระบบ Learn Anywhere ที่พร้อมเสิร์ฟให้น้องๆ ทุกคนเข้าถึงบทเรียนได้ เพียงมี Mobile, iPad, iMac, Notebook หรือ PC ก็สามารถเข้าถึงบทเรียนได้ถ้ามี Internet เพื่อให้น้องๆ สามารถเรียน Online ที่ไหน เมื่อไหร่ก็เรียนได้ พร้อมตะลุยโจทย์กับทุกคอร์ส Versions ล่าสุด!
สามารถดูรายละเอียดคอร์สเรียน SAT Subject Tests ได้ที่ >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/sat-subject-test/
ดูรายละเอียดคอร์สเรียนในระบบ Learn Anywhere ทั้งหมดได้ที่ >> https://www.ignitebyondemand.com/platform-anywhere/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, IELTS
รีวิวการสอบ IELTS แบบ Computer-delivered โดยน้องนโม เจ้าของคะแนน IELTS 8.0
หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่น้องๆ ถามกันเข้ามาเยอะที่สุดคือ การสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์ เป็นอย่างไร และการสอบแบบคอมหรือแบบกระดาษดีกว่ากัน วันนี้พี่เลยขอพาหนุ่มหล่อคนเก่งที่เพิ่งคว้าคะแนน IELTS 8.0 จากการสอบ Computer-delivered IELTS อย่างน้องนโม ภาคภพ เลขวัต จากโรงเรียนสาธิตมศว. ปทุมวัน มารีวิวการสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์กันว่าในห้องสอบ น้องๆ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ไปลุยกันเลย! วิธีสมัครสอบ IELTS ไม่ว่าจะเป็นการสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์ หรือ แบบกระดาษ น้องๆ สามารถสมัครสอบออนไลน์ ได้ผ่านเว็บไซต์ทางการของศูนย์สอบ โดยกดเลือกรูปแบบการสอบและสถานที่สอบได้เอง จากนั้นก็ทำการชำระค่าธรรมเนียมการสอบที่ปัจจุบันก็มีหลากหลายช่องทั้งการชำระผ่านบัตรเครดิตหรือการโอนเงิน แต่สิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับน้องๆ ที่ต้องการสมัครสอบและยังอายุไม่ถึง 18 ปี จะต้องทำการปรินท์ใบ Consent form หรือเอกสารยินยอม ให้ผู้ปกครองเซ็นรับรอง และนำมายื่นในวันสอบจริงพร้อมกับหลักฐานการสอบอื่นๆ ที่จำเป็นอย่างบัตรประจำตัวประชาชน ทั้งนี้ ขอแนะนำว่าน้องๆ ควรไปถึงสถานที่สอบก่อนเวลาอย่างน้อย 30 นาทีเพื่อถ่ายรูป, ลงทะเบียน, สแกนนิ้ว […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
รีวิวการเตรียมตัวสอบเข้า แพทย์จุฬาฯ รอบ Portfolio แบบฉบับเด็กโรงเรียนไทย จากน้องกู๊ด สวนกุหลาบวิทยาลัย
สวัสดีน้องๆ ว่าที่หมอทุกคนครับ วันนี้พี่แอดมินพาพี่กู๊ด รุ่นพี่ ignite จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ที่ตอนนี้เป็นรุ่นพี่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย …มาแนะนำ การเตรียมตัวสอบเข้าคณะแพทย์ รอบ Portfolio แบบฉบับนักเรียนไทย ให้น้องๆ มั่นใจว่าจะสอบติดชัวร์ๆ นะครับ พร้อมแล้วไปอ่านกันได้เลย !! เรียนโรงเรียนไทย…ทำไมเลือกสอบเข้าคณะแพทย์ ด้วยข้อสอบอินเตอร์ใน TCAS รอบ 1 ? น้องๆ หลายคนคงสงสัยว่า พี่เป็นเด็กโรงเรียนไทย แต่ทำไมเลือกสอบเข้าคณะแพทย์ ด้วยข้อสอบอินเตอร์ เดี๋ยววันนี้พี่จะแนะนำข้อดีของการเตรียมตัวสอบเข้าหมอรอบ Portfolio ให้ฟังนะครับ TCAS รอบ 1 ช่วยเพิ่มโอกาสที่เราจะสอบติดหมอได้มากขึ้น เพราะถ้าเรามุ่งเน้นที่ รอบ กสพท. แต่เพียงอย่างเดียวก็เหมือนเป็นการตัดโอกาสของตัวเองทิ้งไปดื้อๆ พี่เลยเลือกเตรียมตัวรอบ 1 ให้เรามีเส้นทางสู่การเป็นหมอเพิ่มขึ้นครับ ซึ่งสำหรับพี่คิดว่า เราสามารถเตรียมสอบแพทย์ […]
Comments (0)
-
Blog, SAT
รีวิวสอบเข้า INDA CU อย่างละเอียด โดยน้องมิ้นท์ สตรีวิทยา
สวัสดีน้องๆ ที่อยากเข้า INDA (International Program in Design and Architecture) หรือ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาวิชาการออกแบบสถาปัตยกรรม (หลักสูตรนานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกคนนะครับ วันนี้แอดมินพาพี่มิ้นท์ รุ่นพี่ ignite ที่สอบติด INDA รอบ Early ปีล่าสุดมารีวิวการเตรียมตัวสอบ และการสอบ ตั้งแต่การเก็บคะแนนเพื่อยื่น การสอบรอบข้อเขียน และการสอบสัมภาษณ์ เพื่อช่วยให้คำแนะนำน้องๆ ใช้เป็นแนวทางในการเตรียมตัวกัน จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปฟังกันเลย Q: ช่วยแนะนำตัวให้น้องๆ ignite รู้จักกันหน่อยครับ A: ชื่อมิ้นท์ค่ะ จบจากโรงเรียนสตรีวิทยาค่ะ สอบติด INDA จุฬาฯ ค่ะ Q: เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับว่าทำไมถึงอยากเรียน INDA A: หนูชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กๆ พอมีพื้นฐานศิลปะบ้าง มีคนมาพูดกับหนูตลอดว่าทำไมไม่ทำสิ่งที่ตัวเองวาดให้เป็นจริง หรือ เอาความสามารถไปช่วยคนอื่น เลยลองมาศึกษาด้านนี้ก็รู้สึกว่าเจ๋งดี […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
5 เทคนิคพิชิต CU-ATS Physics 800 เต็ม By P’Ink
สวัสดีครับน้องๆ ทุกคน เปิดต้นปี 2022 มาได้ไม่นาน เชื่อว่าน้องหลายๆ คน กำลังวางแผนการเตรียมตัวสอบกัน วันนี้พี่อิ๊งค์อยากจะมาแชร์ประสบการณ์และ เทคนิคเก็บ CU-ATS Physics 800 เต็ม ถึงแม้ฟังดูแล้วเหมือนจะยาก ด้วยเวลาที่จำกัดและข้อสอบที่ไม่ได้ง่ายซะทีเดียว แต่พี่เชื่อว่าถ้าน้องลองนำเทคนิคที่พี่แชร์เหล่านี้ไปปรับใช้ คว้าเต็มไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอน ทำความรู้จักข้อสอบ CU-ATS Physics ข้อสอบ CU-ATS (Chulalongkorn University Aptitude Test for Science) คือ ข้อสอบที่ใช้วัดความถนัดทางวิทยาศาสตร์เพื่อใช้ในการพิจารณาผู้ยื่นเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี ของหลักสูตรนานาชาติ จุฬาฯ โดยลักษณะข้อสอบคล้ายกับข้อสอบ SAT Subject Tests แต่ความยากของเนื้อหาจะแตกต่างกันออกไป เมื่อน้องๆ สมัครสอบ CU-ATS ไปแล้วจะต้องสอบ 2 วิชานั่นคือ CU-ATS Physics CU-ATS Chemistry […]
Comments (0)
Comments