รีวิวข้อสอบ SAT Verbal แบบเจาะลึกทุกรายละเอียด

น้องสายศิลป์ที่เตรียมตัวจะเข้าหลักสูตรอินเตอร์ ทุกคนล้วนต้องสอบ SAT ซึ่งในข้อสอบ SAT มันก็มีด้วยกันทั้งหมด 2 Part นั้นก็คือ SAT Verbal และ SAT Math
วันนี้พี่ Ignite เลยได้ไปขอให้ครูข้าว(สุดสวย) One on One ของเราช่วยรีวิวข้อสอบ SAT Verbal แบบเจาะลึกรายละเอียด เพื่อให้น้องที่กำลังจะเตรียมตัวสอบจะได้รู้ว่า หากเข้าห้องสอบไปแล้วน้องมีโอกาสที่จะเจอข้อสอบแบบไหน จะต้องเจออะไรบ้าง และหากอยากอัพคะแนนต้องเตรียมตัวเพิ่มในส่วนไหน ไปดูกันเลย
SAT® FORMAT
Section | Test | Questions | Time | Score | |
1 | Verbal | Reading | 52 | 65 mins | 400 |
2 | Writing & Language | 44 | 35 mins | 400 | |
3 | Math | Math – No calculator | 20 | 25 mins | 800 |
4 | Math – Calculator | 38 | 55 mins | ||
Total | 3 hours | 1,600 | |||
Essay (optional) | 50 mins |
มารู้จักข้อสอบ SAT กันก่อนเลย ข้อสอบ SAT นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 3 Part คือ ด้านภาษา(Verbal) คณิตศาสตร์(Math) และ Essay ซึ่งหากน้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยในไทยเราจะไม่ได้ใช้ในส่วนของ Essay กัน งั้นมาดูในส่วนที่เราต้องใช้คือ Verbal and Math ข้อสอบนั้นมีเวลาให้ทำทั้งหมด 3 ชั่วโมง คะแนนแต่ละ Part เต็ม 800 แต่วันนี้เราจะไม่ได้มาพูดในส่วนของ SAT Math
งั้นพี่ขอพาน้องเข้าเรื่องเลยละกัน ข้อสอบ SAT Verbal มีด้วยกันทั้งหมด 2 Section คือ
1.Reading มีคำถามทั้งหมด 52 ข้อ มีเวลาให้ทั้งหมด 1 ชั่วโมง 5 นาที คะแนนเต็ม 400 คะแนน
2.Writing & Language มีคำถามทั้งหมด 44 ข้อ มีเวลาให้ทั้งหมด 35 นาที คะแนนเต็ม 400 คะแนน
เรามาเจาะลึกกันมากขึ้นดีกว่าว่าแต่ละ Section เราจะต้องเจอข้อสอบแบบไหน น้องสามารถดูตามตารางได้เลยครับ
SAT® EVIDENCE-BASED READING AND WRITING
Test | Time | # | Contents | Subscore | |
Reading | 65 mins | 52 | 4 passages 1 paired passages | Literature Science Social science Historical documents Social studies | •Words in Context (10 questions from Reading Test, 8 questions from Writing and Language Test) •Command of Evidence (10 questions from Reading Test, 8 questions from Writing and Language Test) •Standard English Conventions (20 questions from Writing and Language Test) •Expression of Ideas (24 questions from Writing and Language Test) |
Break | 10 mins | ||||
Writing and Language | 35 mins | 44 | 4 passages | Careers Humanities Science History/Social studies | |
Total | 1:40 hrs | 96 | 10 passages, 4 infographics (2 for each part) |

THE READING TEST IN OVERVIEW
หากน้องๆเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ และมีความรู้ในเรื่องทั่วๆไปเป็นพื้นฐานอยู่บ้าง จะช่วยในการทำข้อสอบ Reading ได้ดีขึ้น
และหากน้องๆมีเข้าใจลักษณะของข้อสอบ SAT Reading ในภาพรวมว่ามีกี่เรื่อง และแต่ละเรื่องจะเกี่ยวข้องกับหัวข้อไหนบ้าง จะทำให้น้องๆสามารถเตรียมตัวสอบ และแบ่งเวลาในการทำข้อสอบได้ดียิ่งขึ้น
SAT READING
- มีทั้งหมด 52 ข้อ
- เวลาทั้งหมด 65 นาที (เวลาในการทำข้อสอบเฉลี่ย 1 ข้ออยู่ที่ 1.15 นาที ซึ่งรวมเวลาในการอ่านบทความแล้ว)
- มีบทความทั้งหมด 5 เรื่อง 6 บทความ โดยแบ่งเป็น 4 บทความเดี่ยว 1 บทความคู่ (1 เรื่อง 2 บทความ)
- ใน 1 บทความ จะมีอยู่ประมาณ 500 – 700 คำ ซึ่งรวมทั้งหมดใน Part Reading จะอยู่ที่ประมาณ 3,250 คำ
- เนื้อหาในบทความที่จะต้องเจอ
- วรรณกรรมอเมริกาและวรรณกรรมโลก 1 บทความ
- บทความทางประวัติศาสตร์และสังคม (สังคมศาสตร์ 1 บทความ และเอกสารหรือหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสหรัฐฯ หรือสุนทรพจน์ของบุคคลสำคัญของโลก 1 บทความ)
- วิทยศาสตร์ 2 บทความ
- ระดับความยากของบทความ มีตั้งแต่ระดับความยากประมาณเกรด 9-10 (ม.3-4) ไปจนถึงบทความที่มีความซับซ้อนมาก
- คำถามต่อหนึ่งบทความอยู่ที่ 10-11 ข้อ

คำถามในข้อสอบ SAT READING ที่น้องๆจะต้องเจอแบ่งเป็น 3 หัวข้อใหญ่ๆ ได้แก่
1. Information and Ideas (อ่านเอาเนื้อเรื่อง) : เป็นคำถามประเภทความเข้าใจ ว่าบทความนั้นต้องการจะสื่อข้อมูลหรือแนวคิดอะไร นักเขียนมีความคิดเห็นอย่างไร กำลังเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับใคร และมีหลักฐานอะไรมาสนับสนุนแนวคิดของเขาบ้าง
2. Rhetoric (อ่านหาเทคนิค) : เป็นคำถามประเภทคิดวิเคราะห์ ว่านักเขียนใช้วิธีการใดบ้างในการจูงใจผู้อ่าน อาจจะเป็นการเลือกใช้คำ โครงสร้าง หรือน้ำเสียงเฉพาะบางอย่างเพื่อให้งานเขียนนั้นสัมฤทธิ์ผลตามที่เขาตั้งใจ
3. Synthesis (อ่านเชื่อมโยง) : คำถามประเภทนี้จะมีอยู่ในบางเรื่องเท่านั้น คือ เรื่องที่เป็นบทความคู่กับบทความ หรือบทความคู่กับแผนภาพ การจะตอบคำถามในกลุ่มนี้ให้ถูกต้อง น้องๆจะต้องสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลของบทความทั้งสองเรื่อง ว่านักเขียนกำลังเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกันในเรื่องอะไร และสามารถอ่านแผนภาพได้ว่ามันสนับสนุนบทความอย่างไร

THE WRITING AND LANGUAGE TEST IN OVERVIEW
เป็นข้อสอบที่วัดระดับพื้นฐานการเขียนและไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ การทำความคุ้นเคยกับภาพรวมของข้อสอบนั้นจะช่วยให้น้องสามารถเตรียมตัวสอบได้ดีขึ้นและจะทำสามารถทำคะแนนได้ดีขึ้น
- คำถามมีทั้งหมด 44 ข้อ
- บทความ 4 เรื่อง (เรื่องละ 11 ข้อ)
- มีเวลาให้ทั้งหมด 35 นาที(แต่ละข้อในการทำมีเวลาไม่ถึง 1 นาที ซึ่งรวมเวลาในการอ่านบทความแล้ว)
- ในแต่ละบทความจะมีประมาณ 400 – 450 คำ รวมแล้วประมาณ 1,700 คำ
- เนื้อหาในเรื่องที่ต้องเจอในแบ่งเป็น 4 หัวข้อ ได้แก่
- บทความเกี่ยวกับอาชีพ
- บทความเกี่ยวกับมนุษยศาสตร์
- บทความเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือสังคมศาสตร์
- บทความเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
- ความยากของบทความ เริ่มตั้งแต่เกรด 9-10 ไปจนถึงบทความที่มีความซับซ้อนมาก

แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
Expression of Ideas: 24 ข้อ (ประมาณเรื่องละ 6 ข้อ) เป็นคำถามที่น้องๆจะต้องดูความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อหา ว่าข้อมูลที่เป็นคำถามนั้นเกี่ยวข้องและสนับสนุนสิ่งที่นักเขียนต้องการจะสื่อหรือเปล่า ถ้าไม่เกี่ยวข้องหรือไม่สนับสนุน น้องๆต้องเลือกคำตอบที่ดีที่สุดมาเพื่อมาแก้ไขปรับปรุงข้อมูลนั้นให้สัมพันธ์กับงานเขียนมากที่สุด
Standard English Conventions: 20 ข้อ (ประมาณเรื่องละ 5 ข้อ) เป็นคำถามเกี่ยวกับการใช้หลักภาษาและไวยากรณ์พื้นฐานภาษาอังกฤษ รวมทั้งเครื่องหมายวรรคตอนต่างๆให้ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนของภาษา น้องๆต้องแก้ไขข้อที่ใช้ภาษาผิดๆให้ถูกต้องโดยการเลือกคำตอบที่ดีที่สุดมาแทนที่ในส่วนที่ขีดเส้นใต้ไว้ในบทความ
ใครที่กำลังเตรียมตัวสอบ SAT Verbal อยู่ พี่แนะนำบทความใหม่ถึงพี่ข้าว ครู One on One ของเราพึ่งปล่อยมาให้เลย นั้นก็คือ รีวิวข้อสอบ SAT Verbal ปี 2018

นอกจากครูแพททริคที่เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษเป็นผู้ถ่ายทอดเทคนิคต่างๆแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญของคอร์ส SAT Reading and Writing นี้คือตำราทั้ง 2เล่มของคอร์ส เล่มแรกรวบรวมทุกเทคนิคที่จำเป็นในการทำข้อสอบให้เร็ว วิธีการตัดตัวเลือกที่ไม่จำเป็น รวมถึงการวิเคราะห์ข้อสอบแบบเจาะลึกทั้งไวยากรณ์ภาษาอังกฤษและวิธีลัดการหาคำตอบทั้งพาร์ท Reading และ Writing เพื่อให้น้องๆ ทำข้อสอบได้ไวขึ้น แม่นยำขึ้น อีกทั้งตำราเล่มแรกนี้ยังมีแบบฝึกหัดในแยกแต่ละส่วนเพื่อให้น้องๆได้ฝึกฝนไปทีละส่วน ส่วนตำราเล่มที่ 2ของคอร์สเป็นเล่มตะลุยโจทย์ที่อัดแน่นด้วยข้อสอบเสมือนจริงครบทุกหัวข้อของ SAT Reading and Writing (Science, literature, History and Social studies) เมื่อน้องๆได้เจอกับข้อสอบและได้ลองฝึกทำบ่อยๆ ก็จะเห็นแนวข้อสอบมากขึ้น ได้สะสมเทคนิคการทำโจทย์มากขึ้นเพื่ออัพคะแนน SAT Reading and Writing
คอร์สนี้เหมาะสำหรับ
- น้องๆมัธยมปลายที่ต้องสอบและใช้คะแนน SAT Reading and Writing เพื่อยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย
- น้องๆมัธยมปลายที่เคยสอบ SAT Reading and Writing มาแล้ว และอยากอัพคะแนนขึ้นอีกเป็น 600 อัพ
คอร์ส SAT ของเรามีให้น้องสามารถเลือกเรียนได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น แบบ SELF, One on One และเร็วๆนี้เรากำลังจะเปิดคอร์สสด หากต้องการดูข้อมูลคอร์สเรียนหรือคอร์สเรียนอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่http://bit.ly/2qq0wLu
แต่หากต้องการสมัครเรียนหรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ Ignite by ondemand สาขา สยามพิวรรธน์ หรือ Line@ :@ignitebyondemand แล้วมาเจอกันนะครับ
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, SAT
แจกเทคนิคเตรียมตัวสอบ SAT ภายใน 1 เดือน ให้ได้ 1,420 คะแนน โดยพราว จากเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์
สำหรับใครที่กำลัง เตรียมตัวสอบ SAT ไม่ว่าจะเป็น SAT Math หรือ SAT Reading & Writing วันนี้แอดมินเราก็มีบทสัมภาษณ์ พี่พราว จากโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ มาฝากกัน ซึ่งในบทความนี้มีเทคนิคดีๆ หลายอย่างที่พี่พราวจะมาแบ่งปันและบอกต่อให้กับเพื่อนๆ มีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกับเลยครับ ก่อนอื่นช่วยแนะนำตัวหน่อยครับ… สวัสดีค่ะชื่อ ณิชกานต์ ปูนพันธุ์ฉาย ชื่อเล่นชื่อพราวค่ะ มาจากโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.6 ค่ะ อยากเข้าคณะ BBA ค่ะ แน่นอนนะครับว่าน้องๆ สายศิลป์จำนวนมากที่อยากจะเข้าคณะ BBA ในปัจจุบัน ทำให้มีการแข่งขันที่สูงมากดังนั้น ใครที่อยากเข้าคณะ BBA เหมือนพราวก็อย่าลืมที่จะวางแผนตารางสอบกันดีๆ เพื่อให้สามารถทำข้อสอบและมี Perfect Score กันนะครับ พี่พราวได้คะแนน SAT เท่าไหร่บ้างเอ่ย… พราวได้คะแนน SAT MATH เต็ม 800 […]
Comments (0)
-
Blog, SAT
Digital SAT คืออะไร? มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง..พร้อมเปิดเกณฑ์การคิดคะแนน Adaptive Test
หลังจากที่ทาง College Board ได้ออกมาประกาศแล้วว่า ข้อสอบ SAT จะเปลี่ยนเป็นการสอบแบบ “Digital SAT” ตั้งแต่เดือนมีนาคมของปี 2023 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากการสอบในกระดาษด้วยดินสอ 2B มาเป็นการสอบผ่าน Application บนช่องทางออนไลน์แทน รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวข้อสอบ ระยะเวลาจำนวนข้อ ตลอดจนเกณฑ์การคิดคะแนนแบบ Adaptive Test แบบใหม่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างมากสำหรับการทำข้อสอบ Digital SAT ครั้งนี้ Digital SAT คืออะไร ? Digital SAT คือ การสอบที่เปลี่ยนจากการสอบ Papers-Based SAT โดยการใช้กระดาษดินสอ 2B เปลี่ยนมาเป็นการทำข้อสอบบนออนไลน์ ผ่านอุปกรณ์ เช่น Tablet , Notebook แทน ซึ่ง College Board มองว่าการทำข้อสอบแบบ Digital SAT จะเป็นข้อสอบที่ทำให้ผู้สอบ “เครียดน้อยลง” และ “สอบง่ายขึ้น” รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนหลายจุดเพื่อทำให้ข้อสอบ “สะดวกแก่ผู้สอบ” อาทิ ตัวข้อสอบที่มี […]
Comments (0)
-
SAT Math, Blog, SAT Verbal, SAT Reading and Writing, SAT
สรุปแนวข้อสอบ Digital SAT 2023 ทั้ง 2 Parts Math and Reading&Writing
ช่วงนี้น้อง ๆ คงกำลังเตรียมสอบ Digital SAT กันอย่างขยันขันแข็ง วันนี้พี่ข้าวและพี่ภัทรเลยช่วยกันรวบรวมแนวข้อสอบที่ออกใน Digital SAT มาสรุปเป็น Content Domains ของทั้ง 2 Parts พาร์ท Reading & Writing และ พาร์ท Math มาฝากกันแบบเจาะลึก ใครจะสอบ Digital SAT บอกเลยว่าห้ามพลาด…ไปดูกันเลย Let’s go! Content Domains : Digital SAT Reading and Writing เริ่มจากพาร์ท Verbal แน่นอนว่าอย่างแรกที่เปลี่ยนไปจากข้อสอบ SAT แบบเก่าก็คือเนื้อหา Reading & Writing ในข้อสอบ Digital SAT Reading & Writing จะถูกรวมอยู่ในพาร์ทเดียวกัน […]
Comments (0)
-
Blog, SAT Reading and Writing, SAT
แชร์เทคนิคพิชิตข้อสอบ SAT Reading and Writing ประเภท Vocabulary in Context
สวัสดีครับน้องๆ ทุกคน เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย เตรียมตัวในการสอบ SAT ไปถึงไหนกันแล้วบ้างครับ หลายๆ คนคงเริ่มเรียนและฝึกฝนทำโจทย์ SAT กันอยู่เพื่อพิชิตคณะในฝัน วันนี้พี่แพททริคจึงขอมาให้กำลังใจพร้อมทั้งแชร์เทคนิคพิชิต ข้อสอบ SAT Reading and Writing กันครับ น้องๆ รู้มั้ยเอ่ยว่าข้อสอบประเภท Vocabulary in Context เนี่ย ก็เป็นข้อสอบอีกประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญมากๆ และสามารถช่วยเราเพิ่มคะแนนสอบได้ เพราะว่ามีข้อสอบประเภทนี้ถึง 8-9 ข้อต่อชุด (อ้างอิงจาก Official SAT Practice Tests ชุดที่ 8-9 โดย College Board) นับว่าเกือบจะเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนข้อสอบทั้งหมดเลยทีเดียว (ข้อสอบพาร์ท Reading มีทั้งหมด 52 ข้อ) ดังนั้น หากน้องๆ สามารถเก็บคะแนนในส่วนนี้ได้ทั้งหมด โอกาสในการพิชิต Perfect Score ก็จะเพิ่มขึ้นด้วยครับ หลังจากรู้ถึงความสำคัญที่จะต้องพิชิตข้อสอบ Vocabulary […]
Comments (0)
Comments