รีวิวสอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ด้วย SAT Subject Tests โดยน้องเกศ นานาชาติเปรม สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ UCL

สวัสดีน้องๆ ว่าที่หมอทุกคนนะครับ วันนี้พี่แอดมินขอพาพี่เกศ จากโรงเรียนนานาชาติเปรม ที่เพิ่งสอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ (PCCMS) – UCL ปีล่าสุด มาแนะนำการสอบเข้าแพทย์รอบ 1 (Portfolio) ด้วยคะแนน SAT Subject ซึ่งเป็นอีกวิธีที่น้องๆ โรงเรียนนานาชาติให้ความนิยมมากๆ เลย เพราะสามารถใช้ SAT Subject Tests แทนเกรดโรงเรียนที่ออกช้า หรือใช้แทนคะแนน BMAT ที่สอบได้แค่ปีละ 1 ครั้ง พี่มีรายชื่อคณะแพทย์ ที่สามารถใช้คะแนน SAT Subject Tests และการใช้คะแนนเพื่อยื่นเข้ามาให้น้องๆ ด้วยครับ
คณะแพทย์ TCAS รอบ 1 (Portfolio) ที่ใช้คะแนน SAT Subject Tests ยื่นเข้าได้
คณะที่ใช้ SAT Subject Tests เป็นคะแนนวิชาการ
- คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาภรณ์ (PCCMS) ร่วมกับ UCL
คณะที่ใช้ SAT Subject Tests แทนเกรดโรงเรียน
- คณะแพทย์รามาธิบดี หลักสูตรแพทยศาสตร์
- คณะแพทย์รามาธิบดี หลักสูตรแพทยศาสตร์ – วิศวกรรมชีวการแพทย์
- คณะแพทย์รามาธิบดี หลักสูตรแพทยศาสตร์ – การจัดการมหาบัณฑิต
- คณะแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
การใช้คะแนน SAT Subject Tests เพื่อยื่นเข้าแพทย์รอบ Portfolio

สำหรับการใช้คะแนน SAT Subject Tests เพื่อยื่นเข้าแพทย์รอบ Portfolio นั้น โดยส่วนใหญ่แล้วมหาวิทยาลัยมักจะกำหนดให้ใช้คะแนนใน 3 วิชา คือ
- SAT Subject Tests Biology
- SAT Subject Tests Chemistry
- SAT Subject Tests Math LV.2 หรือ SAT Subject Tests Physics
ทั้งนี้ SAT Subject Tests มีการจัดสอบมากกว่า 1 ครั้งใน 1 ปีและน้องๆ ยังสามารถคะแนนเก็บคะแนนไว้ใช้ได้นานถึง 2 ปีเลยนะครับ และในการสอบแต่ละครั้งน้องๆ ยังเลือกได้ว่าจะสอบกี่วิชา ซึ่งพี่เกศได้แนะนำว่าน้องๆ ควรเลือกสอบแค่ครั้งละ 2 วิชาจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะเราจะมีเวลาโฟกัสวิชาที่เราเลือกได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญน้องๆ ควรสอบ SAT Subject Tests ให้ครบทั้ง 4 วิชาเลย แล้วค่อยมาเลือกวิชาที่คะแนนดีที่สุด 3 วิชาเพื่อใช้ยื่นจริง
นอกจากนี้พี่เกศ ยังจะมาแชร์การเตรียมตัวสอบสอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ฉบับเด็กอินเตอร์และรีวิวขั้นตอนต่างๆ ที่จะทำให้น้องมั่นใจว่าจะสอบติดชัวร์ๆ บอกเลยว่าน้องๆ ว่าที่หมอ ห้ามพลาดบทความนี้เลยนะครับ พร้อมแล้วไปลุยกันเลย !!
เคล็ดลับการเตรียมตัวสอบ SAT Subject Tests ให้สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ – UCL

สำหรับน้องๆ ที่ต้องการใช้ SAT Subject Tests เพื่อยื่นเข้าคณะแพทย์ พี่อยากแนะนำให้เริ่มเตรียมตัวจากวิชา Biology ก่อนค่ะ เพราะวิชานี้มีเนื้อหาค่อนข้างเยอะ ถ้าเริ่มเตรียมตั้งแต่ขึ้น ม.4 ได้จะยิ่งดีเลย หลังจากนั้นให้ไปเตรียมวิชา Math LV.2 และ Physics พร้อมๆ กันค่ะ เพราะทั้ง 2 วิชาเน้นการคำนวณคล้ายๆ กัน ถ้าเราเตรียมฝึก Part คำนวณมาแน่นพอก็จะช่วยให้ทำข้อสอบ 2 วิชานี้ได้ง่ายขึ้น หลังจากนั้นจึงเก็บวิชา Chemistry และมาตามอัพคะแนนทุกวิชาให้ได้ตามที่เราหวังไว้ค่ะ
พี่อยากให้น้องเริ่มสอบ SAT Subject Tests ตั้งแต่อยู่ ม.4 เลยนะคะ เพราะถ้าเราเริ่มสอบเร็ว เราก็จะมีเวลาฝึกมากขึ้น จัดสรรเวลาได้ทำให้ผ่อนคลาย ไม่ต้องเครียดมาอัดๆ สอบตอนม.5 – ม.6 และถ้าน้องยิ่งสอบบ่อยเท่าไหร่ น้องก็จะยิ่งมีโอกาสมากขึ้นเท่านั้น…1 ปีสอบได้หลายครั้งมาก อยากให้เราเต็มที่กับมันไปเลย การที่น้องสอบบ่อยๆ จะช่วยให้เราชินกับข้อสอบ รู้แพทเทิร์น เดาทางข้อสอบได้มากขึ้นและน้องก็จะชินกับบรรยากาศในห้องสอบด้วย ความตื่นเต้นและความประหม่าก็จะลดน้อยลงไปเลย ซึ่งอะไรพวกนี้เป็นตัวแปรที่ส่งผลให้คะแนนเราอัพสูงได้ทุกครั้งที่ไปสอบเลยค่ะ
แต่ถ้าน้องๆ ไม่สะดวกที่จะไปสอบหลายรอบ พี่แนะนำให้มา Mock Exam กับ ignite เลยค่ะ…มีให้เราสอบทุกวิชาเลย โดยการมา Mock Exam ก็เหมือนการได้ไปสอบที่ห้องสอบจริงๆ บรรยากาศ ข้อสอบและ ความตื่นเต้นจะเหมือนตอนเราไปสอบวันจริงเลยค่ะ ฉะนั้นการที่เราได้มา Mock Exam ก่อนสอบจริงๆ จะเป็นประโยชน์กับน้องมากๆ นะคะ
เคล็ดลับการเตรียมตัว IELTS ให้สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ - UCL

ถึงแม้ว่าจะเรียนโรงเรียนอินเตอร์แต่พี่ก็เลือกจะมาเตรียมตัวสอบ IELTS กับ ignite นะคะ เพราะเราอยากชัวร์ว่าเราจะได้ Band ที่ต้องการในเวลาที่จำกัด ไม่ต้องเสียเวลาไปหาแนวข้อสอบหรืออ่านหนังสือเยอะๆ โดยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว IELTS จะออกสอบอะไรกันแน่…พี่เลยเลือกจะมาเรียนพิเศษ แม้จะมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาแล้วก็ตามค่ะ
สำหรับพี่…พี่ เตรียม IELTS ก่อนเลยค่ะ ปกติคนอื่นเขาจะเก็บวิชาอื่นก่อนแล้วค่อยมาสนใจ IELTS แต่พี่ว่ามันจะเป็นพะวงค่ะ เหมือนมีอะไรติดค้างอยู่ตลอดเวลา…พี่เลยเลือกเก็บคะแนน IELTS ให้ได้ตามที่ต้องการก่อนแล้วค่อยไปลุยกับวิชาอื่นๆ ต่อ โดยคะแนน IELTS เก็บไว้ใช้ได้ถึง 2 ปี และรอบสอบยังเยอะมากๆ อีกค่ะ เยอะกว่า SAT Subject Tests อีก ดังนั้นถ้าน้องมีโอกาส พี่ก็อยากให้รีบสอบเพื่อจะเอาเวลาที่เหลือไปเตรียม SAT Subject Tests ที่เนื้อหาเยอะและยากกว่าอย่างเต็มที่แบบไม่มีอะไรติดค้างนะคะ
นอกจากมาเรียนพิเศษที่ ignite พี่ก็ฝึก IELTS เพิ่มเติมเหมือนกันค่ะ โดยจะฝึก Part Reading และ Listening ก่อนเพราะว่า 2 บทนี้มีคำตอบที่แน่ชัด สามารถหา Trick หรือเทคนิคต่างๆ จากในเน็ตได้เยอะเลยค่ะ บวกกับเทคนิคที่ ignite ให้อีก ยิ่งทำให้เราแม่น Part Reading และ Listening มากๆ เลยค่ะ และในส่วนของ Part Speaking และ Writing พี่อยากบอกว่าฝึกเองก็ได้แต่น้องต้องมีคนให้ Feedback ที่สามารถให้คำแนะนำตรงจุด มีประโยชน์และสามารถนำกลับมาพัฒนาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะ เพราะถ้าเราฝึกพูด ฝึกเขียนเองแล้วไม่มีคนตรวจหรือคนตรวจไม่เก่งพอ เราก็จะไม่สามารถได้คะแนน 2 Part นี้ตามที่ต้องการอย่างตัวพี่ ก็จะมาเรียนพิเศษที่ ignite ได้ฝึกพูด ฝึกเขียนแล้วมีครูคอย Feedback เพื่อนำคำแนะนำมาแก้ไขแล้วค่อยไปฝึกพูดกับเพื่อนๆเพิ่มเติมค่ะ จะได้ไม่เครียด สนุกแล้วก็มีกำลังใจอีก
เทคนิคการทำ Portfolio ให้สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ - UCL

การทำ Portfolio ของแพทย์จุฬาภรณ์ – UCL จะต้องใช้ฟอนต์ Cordia New ขนาดน้อยกว่า 16 เท่านั้นและมีจำนวนหน้าของ Portfolio อยู่ที่ 10-20 หน้า ทั้งนี้น้องๆ จะต้องเขียน Essay 1,000 คำ ซึ่งสามารถเขียนภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะ แต่พี่แนะนำให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษมากกว่านะ โดยในแต่ละปีทางมหาวิทยาลัยก็จะกำหนดหัวข้อในการเขียน Essay มาให้ค่ะ…ตามด้วยการใส่ Personal Statement
กิจกรรมที่พี่ใส่ไป Portfolio จะเน้นไปที่งานด้านการทำจิตอาสาและงานด้านการทำวิจัยเป็นส่วนใหญ่ เพราะทางมหาวิทยาลัยจะเด่นเรื่องการทำวิจัยค่ะ โดยพวกงานจิตอาสาไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับด้านการแพทย์อย่างเดียวก็ได้นะคะ อย่างพี่ใส่งานที่ไปติวภาษาอังกฤษให้น้องที่โรงเรียนต่างๆ หรือพวกงานที่เดินทางไปทาสีให้โรงเรียนตามต่างจังหวัดก็ใส่ไปได้เหมือนกัน แค่เราต้องบรรยายให้ได้ว่าเราได้เรียนรู้อะไรจากกิจกรรมที่เราได้ทำ การเขียน Portfolio แต่ละอย่างควรเชื่อมโยงกับการที่นักเรียนแพทย์ควรจะมีตัวอย่างเช่น การมี Time Management ที่ดีและอย่าลืมว่าสิ่งที่เราเขียนออกมาต้องแสดงถึงตัวตนเรามากที่สุด ต้องโชว์กรรมการผ่านกระดาษ 10-20 หน้าให้ได้ว่าตัวตนของเราเป็นอย่างไรค่ะ
ส่วนงานวิจัยนั้น ปกติพี่เป็นคนชอบทำ Lab ที่โรงเรียนอยู่แล้วค่ะ พี่เลยใส่งานด้านนี้ไปเยอะ…พี่ทำ Lab Biology และ Lab Chemistry ให้ทำเป็นกิจจะลักษณะ เป็นงานวิจัยทางการนะคะ เมื่อทำเสร็จให้เราแปลง Full paper มาอยู่ใน QR code และแนบไปใน Portfolio ที่ และขั้นตอนสุดท้ายคือการเขียนออกมาว่าเราทำออกมาได้ผลอย่างไรบ้างแล้วได้เรียนรู้อะไรจากมัน
บรรยากาศการสัมภาษณ์แพทย์จุฬาภรณ์ - UCL

การสัมภาษณ์แพทย์จุฬาภรณ์ – UCL จะแบ่งเป็น 9 ห้อง และมีห้องให้พัก 2 ห้อง โดยแต่ละห้องอาจารย์จะให้เลือกได้ว่าอยากที่จะพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าเลือกภาษาอังกฤษ อาจารย์จะถามตอบภาษาอังกฤษกับเราทันที แต่หากเลือกภาษาไทย อาจารย์อาจจะมีแทรกภาษาอังกฤษมาบ้างค่ะ
บรรยากาศการสัมภาษณ์ไม่เครียดมากนะคะ จะมีความผ่อนคลายอยู่ พี่ขอยกตัวอย่างห้องนึงที่มีอาจารย์จาก UCL มาสัมภาษณ์เราโดยตรงเลย ภายในห้องนั้นเขาจะให้เราแสดงเป็นแพทย์และให้อาจารย์เล่นเป็นคนไข้ เขาจะทดสอบเรื่องการพูดคุยกับคนไข้รวมถึงการใช้ภาษาอังกฤษ ว่าเราสื่อสารได้คล่องขนาดไหน หรือห้องที่ต้องคุยกับคณะบดี น้องก็ต้องเตรียมข้อมูลของคณะและมหาวิทยาลัยไปด้วยนะคะ แต่ก็จะมีห้องที่น่าสนใจมากสำหรับพี่ คือ ห้องที่มีการสร้างสถานการณ์ว่ามีการติดเชื้อในโรงพยาบาล เราจะต้องปกป้องตัวเองและปกป้องคนไข้ ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือการล้างมือนั้นเองค่ะ ในห้องนี้จะทดสอบการล้างมือของน้องๆ ด้วยนะ ว่าเรารู้ขั้นตอนการล้างมือที่ถูกสุขอนามัยมากน้อยแค่ไหน
สิ่งที่อยากฝากถึงน้องๆที่อยากสอบติดแพทย์รอบ Portfolio ทุกคน
พี่อยากให้พวกเราสู้ให้ถึงที่สุด เพราะว่าแพทยร์รอบ Portfolio ไม่ได้ต้องการนักเรียนที่ดีที่สุดหรือเก่งที่สุด แต่เขาต้องการคนที่เหมาะสมที่สุดกับคณะมากที่สุด เพราะฉะนั้นน้องคนไหนที่คะแนนยังไม่ถึง ค้นหาตัวเองแล้วพยายามให้มากขึ้น แสดงให้เขาเห็นว่าเราสามารถเป็นนิสิตแพทย์ที่ดีได้ อยากให้น้องๆ วางแผนให้ดี มีเวลาพักผ่อนและดูแลตัวเองบ้าง หาคนที่คอยรับฟังและแชร์ความเครียด ถ้าเหนื่อยจากการอ่านหนังสือก็แค่พักและกลับมาลุยกับมันต่อนะคะน้องๆ
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ รีวิวสอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ด้วย SAT Subject Tests โดยน้องเกศ นานาชาติเปรม สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์- UCL …พี่แอดมินเชื่อว่าบทความนี้จะช่วยให้น้องๆ ที่อยากเรียนแพทย์ได้แนวทางและเพิ่มโอกาสในการสอบเข้ามากขึ้นอย่างแน่นอนครับ
น้องๆ คนไหนที่อยากสอบติดแพทย์รอบ Portfolio ด้วย SAT Subject Tests สามารถเข้ามาปรึกษาและวางแผนกับพี่ๆผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ignite by OnDemand เราเตรียมคอร์สสด, Mini Class, One on One และ คอร์สเรียนออนไลน์ในระบบ Learn Anywhere ให้ทุกคนมั่นใจว่าจะสอบติดคณะในฝันชัวร์ๆ
สามารถซื้อคอร์สเรียนออนไลน์ ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ผ่าน Shop Online ของ ignite …พร้อมแล้วลุยเลย >> https://shop.ignitebyondemand.com/
ดูรายละเอียดคอร์สเรียน SAT Subject Tests, IELTS ทั้งหมดได้ทาง >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/
ปรึกษาสอบถามรายละเอียดการเรียนต่อในคณะแพทย์ รอบ 1 (Portfolio) หรือทุกคณะอินเตอร์ยอดฮิตได้ทาง Line : @ignitebyondemand หรือโทร 02-6580023 , 091-5761475
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, SAT Subject Tests
รีวิวสอบเข้า ISE จุฬาฯ ด้วย SAT Subject Tests จากน้องโน้ต กรุงเทพคริสเตียน
สวัสดีน้องๆ ที่อยากสอบเข้า ISE หรือ คณะวิศวะอินเตอร์ จุฬาฯ ทุกคนนะครับ!! วันนี้พี่แอดมินพาพี่โน้ต รุ่นพี่ ignite ที่สอบติด ISE จุฬาฯ ปีล่าสุด มารีวิวการสอบเข้าวิศวะอินเตอร์ ด้วยคะแนน SAT Subject Tests เพื่อให้น้องๆ ได้ทราบว่าข้อสอบแต่ละวิชามีความยากง่ายอย่างไร ควรเตรียมตัววิชาไหนก่อนและเคล็ดลับการสอบติดจากพี่โน้ต เพื่อให้น้องๆ ทุกคนใช้เป็นแนวทางการเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องนะครับ เคล็ดลับเตรียมตัวให้สอบติด ISE จุฬาฯ สำหรับพี่คิดว่าการเริ่มเตรียมตัวสอบเข้า ISE ตอน ม.5 เทอม 1 เป็นการเริ่มต้นที่ดีนะครับ ไม่ช้าเกินไป ยังพอมีเวลาเหลือให้เราสามารถไปทำกิจกรรมอย่างอื่นได้อีกด้วย ถ้าเริ่มต้นเตรียมตัวตอน ม.6 อาจจะทำให้เราเหนื่อยจนไม่ค่อยมีเวลาไปทำอย่างอื่นและถ้ายังไม่ได้คะแนนที่ต้องการในรอบแรก ก็จะมีเวลาแก้ตัวน้อยลงอีกด้วยนะครับ ยิ่งถ้าน้องๆ รู้ตัวและตั้งป้าหมายว่าจะเข้า ISE ตั้งแต่ ม.4 ยิ่งจะทำให้เราเตรียมตัวได้ไว เผลอๆ […]
Comments (0)
-
Blog
เทคนิคการเลือกวิชา IGCSE, A-Level ให้ได้คณะในฝัน
การเลือกวิชาใน IGCSE และ A-Level นั้นถือว่าสำคัญมากๆ เพราะเป็นการกำหนดอนาคตที่ใช้ยื่นคะแนนเข้าคณะในฝันของนักเรียนทุกคนที่เรียนหลักสูตรอังกฤษ เพราะหลักสูตรนี้ถือว่าได้รับการยอมรับในสากลจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก นักเรียนหลายคนมักจะสับสนว่าควรเลือกวิชาที่ชอบ หรือวิชาที่จำเป็นดีกว่า ดังนั้นวันนี้พี่ๆ ignite จะมาแนะนำเทคนิคการเลือกแบบเข้าใจง่ายๆ ให้น้องๆ กันครับ ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย !! ทำความรู้จักหลักสูตร IGCSE vs A-Level จากภาพด้านบน กล่าวได้ว่า IGCSE นั้นคือหลักสูตร 2 ปีสำหรับน้องๆ Year 10-11 ที่เป็นการเตรียมปูพื้นฐานวิชาให้มีองค์ความรู้รอบด้านและแน่นพอที่จะเลือกเรียนวิชาในขั้นสูงกว่า หรือการทำ A-Level อีกสองปี เพื่อยื่นคะแนนทั้ง 3 วิชานี้เข้ามหาวิทยาลัยที่น้องๆ ต้องการ ต่อมาเรามาดูกันว่าเราควรเลือกเรียนวิชาอะไรให้ตรงกับคณะที่เราต้องการเข้าศึกษาต่อ มาเริ่มกันที่หลักสูตรแรกนั้นก็คือ IGCSE เทคนิคการเลือกวิชา IGCSE โดยวิชาที่น้องๆ สามารถสอบได้ใน IGCSE นั้นแบ่งออกเป็น […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
ข้อสอบ ACT คืออะไร? มารู้จักอีกหนึ่งโอกาส สอบติดคณะอินเตอร์
ข้อสอบ ACT คืออะไร? คงเป็นคำถามที่น้องๆ ทีมอินเตอร์สงสัยกันมากที่สุดตอนนี้ !!! หลังจากที่ข้อสอบ SAT Subject tests ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ ทำให้มหาวิทยาลัยในไทยที่เปิดสอนหลักสูตรอินเตอร์ต่างพากันเบนเข็มมาเปิดรับคะแนน ACT กันมากขึ้น ไม่ว่าจะคณะวิศวะหรือวิทยาศาสตร์ ดังนั้นใครที่อยากสอบติด TCAS รอบ1 ต้องมารู้จักกับข้อสอบ ACT ที่เป็นอีกหนึ่งโอกาสทำให้น้องๆสอบติดคณะอินเตอร์ยอดฮิตนะครับ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านพร้อมกันได้เลย…ignite เตรียมข้อมูลพร้อมเสิร์ฟให้น้องๆ แล้วครับผม ข้อสอบ ACT คือ ACT หรือ American College Testing Assessment คือ ข้อสอบมาตรฐานจากประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาใช้วัดระดับทักษะด้านการใช้เหตุผล การคิดวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหา และการสื่อสารที่จำเป็นในการเรียนต่อมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยหลักสูตรอินเตอร์ที่เปิดรับนักศึกษาจากระบบ TCAS รอบ1 มักจัดหมวดหมู่คะแนน ACT ให้อยู่ประเภทเดียวกับคะแนน SAT หรือ SAT […]
Comments (0)
-
Blog, GED
เรียน Homeschool คืออะไร? เรียนยังไงให้ได้วุฒิ ด้วย GED
สวัสดีน้องๆและผู้ปกครองทุกคนนะคะ พี่เชื่อว่าหลายๆ คน คงจะรู้จัก GED หรือการสอบเทียบวุฒิมาบ้าง ไม่มากก็น้อย และก็คงจะเคยได้ยินคำว่า การเรียนแบบ Home School กันมาบ้าง วันนี้พี่จะมาคลายทุกข้อสงสัย ว่าการเรียนแบบ Homeschool คืออะไร? มีความแตกต่างกับการเรียนในโรงเรียนอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง และการเรียนแบบ Homeschool จะยื่นเข้ามหาวิทยาลัยในฝันได้อย่างไร ก่อนอื่นอยากจะมากระซิบก่อนเลยว่า การสอบ GED เป็นการเพิ่มโอกาสในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับน้องๆ ที่เรียนแบบ Homeschool มากๆ น่าสนใจขนาดนี้แล้ว งั้นไปดูกันทีละหัวข้อเลยค่า การเรียนแบบ Homeschool คืออะไร ? Home School นั้นถูกจัดว่าเป็นประเภทหนึ่งของการจัดการศึกษาให้เด็กในวัยเรียน โดยอิงตามมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ซึ่งครอบครัว พ่อแม่ สามารถจัดการการศึกษาพื้นฐานให้แก่เด็กเอง โดยที่ไม่ต้องเข้าเรียนในโรงเรียนของรัฐ หรือเอกชน หรือถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ […]
Comments (0)
Comments