เจาะลึกความต่าง LLBel CU vs LL.B. TU หลักสูตรกฎหมายอินเตอร์ยอดฮิต

สวัสดีครับน้องๆ ก่อนขึ้นปี Admission ใหม่ พี่ๆ ignite เชื่อว่ามีน้องๆ หลายคนไม่น้อยที่กำลังสนใจข้อมูลของ หลักสูตรกฎหมายอินเตอร์ในไทย และแน่นอนว่าจะไม่พูดถึง 2 คณะยอดฮิตนี้ก็คงจะไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็น LLBel CU หรือ LL.B. TU คือต่างก็เป็นคณะกฎหมายที่มีชื่อเสียงโดดเด่นทั้งคู่ ส่วนใครที่อยากรู้ว่าทั้งสองคณะนี้ เรียนอะไรบ้างและมีความแตกต่างกันอย่างไร ลองมาฟังข้อมูลทั้งสองหลักสูตรนี้กันได้เลยครับ
จุดเด่นของหลักสูตรกฎหมาย LLBel CU & LL.B. TU คือ

LLBel CU คือ
สำหรับคณะ LLBel CU หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต สาขากฎหมายธุรกิจและเทคโนโลยี (หลักสูตรนานาชาติ) คือ หลักสูตรนิติศาสตร์ที่ผสมผสานหลายศาสตร์ โดยมีความตั้งใจผลิต นักฎหมายสายพันธุ์ใหม่ ที่ต้องเข้าใจทั้ง Business , Tech and Law ไปพร้อมๆกัน ดังนั้นหลักสูตรคณะนี้จึงไม่เพียงแต่ปลุกปลั้นให้นักกฎหมายมีแค่ความรู้กฎหมายพื้นฐานภาคบังคับเท่านั้น แต่ยังตั้งใจผลักดันให้เป็นนักกฎหมายที่มีความรู้ความเข้าใจ ทั้งเรื่องเทคโนโลยี Data Privacy , Cyber Security ไปจนถึงเรื่องบัญชี เศรษฐศาสตร์ และ Data Science ที่สำคัญทคณะนี้ยังเน้นที่การลงมือทำปฏิบัติจริง เป็น Experiential Learning ที่มี Legal Skill ทุกชั้นปี และมีโอกาสได้ทำ Externship กับ Law Firm ชั้นนำจริงๆ เป็นเวลา 1 ภาคการศึกษาเต็มๆ
LL.B. TU คือ
คณะ LL.B. TU หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต สาขากฎหมายธุรกิจ (หลักสูตรนานาชาติ) คือ หลักสูตรนิติศาสตร์ ที่ตั้งใจผลิตนักกฎหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านวิชาชีพกับนักกฎหมายต่างชาติที่กำลังจะเข้ามาทำงานในประเทศไทย ตั้งใจให้นักกฎหมายมีความรู้ความสามารถเข้าไปแข่งขันในตลาดแรงงานด้านกฎหมายในประเทศอื่นๆ ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่จำเป็นต้องมีความรู้ทั้งกฎหมายและวัฒนธรรมของประเทศที่น้องๆ จะเข้าไปแข่งขันในตลาดแรงงาน รวมถึงมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายธุรกิจ อย่างมีจริยธรรม คุณธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม และที่สุดของการเรียนหลักสูตรนี้คือมีโปรแกรมการเเลกเปลี่ยนระหว่างโรงเรียนกฏหมายในต่างประเทศ และจัดสัมมนาวิชาการความรู้เรื่องกฏหมายระหว่างประเทศอยู่เป็นประจำอีกด้วย เรียกได้ว่ามีทั้งการเรียนรู้และเจาะลึกการทำงานในสายวิชาชีพกฎหมายได้เป็นอย่างดี ไม่แพ้กันเลย
ความน่าสนใจของหลักสูตรกฎหมาย LLBel CU & LL.B. TU

คณะ LLBel CU จะแบ่งเป็น 3 หมวดหมู่หลักๆ ได้แก่
- Interdisciplinary Courses : การเรียนความรู้เฉพาะทาง ที่นักกฎหมายจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเพื่อนำไปปรับใช้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น บัญชี, เศรษฐศาตร์ หรือ Data Science
- Skill Practice & Experiential Learning : การลงมือปฏิบัติจริง มีการฝึกเขียน Essay ของ Legal Research & Writing , Legal Skill Lab สามารถต่อยอดเจาะลึกไปทางสาย Law & Business หรือ Law & Technology และวิชาหลากหลายต่อได้
- Fundamental Law Courses : Theory & Practice : วิชากฎหมายวิชาพื้นฐานทั้งหมดครบ
คณะ LL.B. TU จะแบ่งเป็น 3 หมวดหมู่หลักๆ เช่นกัน ได้แก่
- General Education Courses : วิชาทั่วไปที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในสังคมและพัฒนาทักษะที่จำเป็นในด้านกฎหมาย
- Specialized Courses : เรียนรู้กฎหมายในทุกสาขา รวมถึงกฎหมายเฉพาะทางที่ลึกซึ้งขึ้น
- Elective Courses : เลือกวิชากฎหมายตามความถนัดที่ต้องการ เช่น กฎหมายภาษี กฎหมายกรรมสิทธิ์ที่ดิน กฎหมายสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
Requirements LLBel CU & LL.B. TU ปีการศึกษา 2568

เกณฑ์คะแนนหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต นานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (LLBel CU)
คุณสมบัติของผู้สมัครและคะแนนที่ใช้ยื่น
- สําเร็จการศึกษา หรือกําลังศึกษาชั้นปีสุดท้ายของชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า จากสถาบันการศึกษาในประเทศ หรือต่างประเทศ
- มีผลคะแนนสอบวัดความรู้ความสามารถภาษาอังกฤษ (ผลคะแนนสอบย้อนหลังได้ไม่เกิน 2 ปี นับถึงวัน สุดท้ายของการรับสมัคร) ดังนี้
– IELTS ≥ 6.5
– TOEFL (Internet Based) ≥ 79
– CU-TEP (Chulalongkorn University Test of English Proficiency) ≥ 88 - มีผลคะแนนสอบวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ หรือผลคะแนนรวมของการ สอบวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษและวัดความถนัดทางคณิตศาสตร์ ตามที่กําหนด อย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
– SAT (Evidence-Based Reading and Writing) ≥ 500
– SAT (Evidence-Based Reading and Writing and Math) ≥ 1200
ดูรายละเอียดการรับเข้าเพิ่มเติม >> https://www.law.chula.ac.th/en/study-at-law-chula/bachelor-of-laws-in-business-and-tech-law/
เกณฑ์คะแนนหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต นานาชาติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (LL.B. TU)
คุณสมบัติของผู้สมัครและคะแนนที่ใช้ยื่น
- สําเร็จการศึกษาหรือกําลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 หรือ เทียบเท่าจากสถาบันการศึกษาในประเทศไทยหรือต่างประเทศ
- มีผลคะแนนสอบวัดความรู้ความสามารถภาษาอังกฤษ (ผลคะแนนสอบย้อนหลังได้ไม่เกิน 2 ปี นับถึงวัน สุดท้ายของการรับสมัคร) ดังนี้
– IELTS ≥ 6.0
– TOEFL (Internet Based) ≥ 61
– TU-GET (Thammasat University General English Test) Paper Based ≥ 500
– TU-GET (Thammasat University General English Test) Computer Based ≥ 61 - มีคะแนนสอบวัดความถนัดทางภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ ดังนี้ – SAT (Evidence-Based Reading and Writing and Math) ≥ 1200 **โดย SAT Reading and Writing ≥ 550
- สําเร็จการศึกษาหรือกําลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 หรือ เทียบเท่าจากสถาบันการศึกษาในประเทศไทยหรือต่างประเทศ
ดูรายละเอียดการรับเข้าเพิ่มเติม >> https://interprograms.law.tu.ac.th/llb-admission/
เป็นอย่างไรกันบ้างครับน้องๆ ดูความแตกต่างทั้งสองหลักสูตรนี้แล้ว น่าเรียนทั้งคู่เลยใช่ไหมครับ ทั้งนี้ในการเลือกเรียนคณะอินเตอร์หลักสูตรที่น้องสนใจ สามารถเลือกได้จากความชอบ ความถนัด และเป้าหมายในการเรียนของน้องๆ ได้เลยนะครับ
และถ้าน้องๆ คนไหน สนใจต้องการเตรียมความพร้อมเข้าคณะสายอินเตอร์ สามารถวางแผน จัดสรรตารางเรียนได้ตามความต้องการ กับพี่ๆ Education Consult แบบส่วนตัวโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทักเข้ามาคุยกันได้ตลอดที่ Line: @ignitebyondemand หรือคลิก https://bit.ly/47lxe4i และ โทร 091-5761475
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, SAT Subject Tests
รีวิวสอบเข้า ISE จุฬาฯ ด้วย SAT Subject Tests จากน้องโน้ต กรุงเทพคริสเตียน
สวัสดีน้องๆ ที่อยากสอบเข้า ISE หรือ คณะวิศวะอินเตอร์ จุฬาฯ ทุกคนนะครับ!! วันนี้พี่แอดมินพาพี่โน้ต รุ่นพี่ ignite ที่สอบติด ISE จุฬาฯ ปีล่าสุด มารีวิวการสอบเข้าวิศวะอินเตอร์ ด้วยคะแนน SAT Subject Tests เพื่อให้น้องๆ ได้ทราบว่าข้อสอบแต่ละวิชามีความยากง่ายอย่างไร ควรเตรียมตัววิชาไหนก่อนและเคล็ดลับการสอบติดจากพี่โน้ต เพื่อให้น้องๆ ทุกคนใช้เป็นแนวทางการเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องนะครับ เคล็ดลับเตรียมตัวให้สอบติด ISE จุฬาฯ สำหรับพี่คิดว่าการเริ่มเตรียมตัวสอบเข้า ISE ตอน ม.5 เทอม 1 เป็นการเริ่มต้นที่ดีนะครับ ไม่ช้าเกินไป ยังพอมีเวลาเหลือให้เราสามารถไปทำกิจกรรมอย่างอื่นได้อีกด้วย ถ้าเริ่มต้นเตรียมตัวตอน ม.6 อาจจะทำให้เราเหนื่อยจนไม่ค่อยมีเวลาไปทำอย่างอื่นและถ้ายังไม่ได้คะแนนที่ต้องการในรอบแรก ก็จะมีเวลาแก้ตัวน้อยลงอีกด้วยนะครับ ยิ่งถ้าน้องๆ รู้ตัวและตั้งป้าหมายว่าจะเข้า ISE ตั้งแต่ ม.4 ยิ่งจะทำให้เราเตรียมตัวได้ไว เผลอๆ […]
Comments (0)
-
Blog, SAT Subject Tests
สรุปทางเลือกเมื่อ SAT Subject Tests ยกเลิก วิชาไหนบ้างที่ยื่นแทนได้?
เป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศเลยทีเดียวสำหรับน้องๆ มัธยมที่อยากเข้าคณะอินเตอร์ เมื่อ College board ประกาศว่าต่อไปจะไม่มี Sat Subject test อีกแล้ว น้องๆ หลายคนที่วางแผนไว้ว่าจะสอบในอนาคตตอนนี้คงมีคำถามในใจกันเต็มไปหมด ว่า อ้าว แล้วคณะที่เราอยากเข้าจะทำยังไงละ มันจะส่งผลอะไรยังไงกับเราแค่ไหน ignite ก็เลยเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะเสนอแนวทางในการหาวิชาสอบทดแทนสำหรับน้องๆ ที่ยังมุ่งมั่นว่าจะเข้าคณะอินเตอร์ หรือ หมอในไทย โดยต้องบอกว่าสถานการณ์ตอนนี้ น้องๆ อินเตอร์อาจจะได้เปรียบกว่านิดหน่อย เพราะหลายคณะยังคงรับการยื่นคะแนน IB, A-Level ที่น้องๆ โรงเรียนนานาชาติต้องสอบกันในโรงเรียนอยู่แล้ว แต่น้องๆ ภาคไทยอย่าเพิ่งน้อยใจกันไป เพราะบางคณะยังคงเปิดให้ยื่นวิชาอื่นแทนด้วย จะเป็นอะไรนั้นตามดูกันได้เลยครับ เมื่อ SAT Subject test ยกเลิก เราจะใช้วิชาไหนสอบแทนได้บ้าง มาดูกันเลย ! #ทีมเด็กไทย เริ่มกันก่อนกับคณะยอดฮิต […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
ถอดรหัสข้อสอบ BMAT ตาม Specification 2021
สวัสดีครับว่าที่น้องหมอทุกๆ คน สำหรับปีนี้ทาง Cambridge Assessment ได้ประกาศอัพเดท BMAT Specification ปี 2021 มาแล้ว ทางทีมครู ignite ไม่รอช้า ขอมาเล่าสรุปให้น้องๆ ฟังกันครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม แอบบอกข่าวดีกับน้องๆ ก่อนครับว่าปีนี้โครงสร้างและหัวข้อที่ออกสอบใน BMAT โดยส่วนใหญ่จะคล้ายคลึงกับ BMAT Specification ปีที่แล้วเลยครับผม และไม่ต้องกังวลไปเลยครับ สำหรับในส่วนที่ต่าง ทางคุณครู ignite ก็จะอัพเดทในคอร์สเรียนของปีนี้ด้วยครับ ทำความรู้จักโครงสร้างข้อสอบ BMAT ก่อนอื่น เรามาทบทวนโครงสร้างข้อสอบ BMAT กันอีกครั้งครับ ข้อสอบ BMAT ยังคงมีทั้งหมด 3 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ 1. Thinking Skills, 2. Scientific Knowledge and Applications, และ 3. Writing Task โดยแต่ละส่วนจะประเมินผู้เข้าสอบดังนี้ Thinking […]
Comments (0)
-
Blog, EP ม.ต้น
คุณพ่อคุณแม่ห้ามพลาด! พี่โน้ตชวนดูเปิดหลักสูตร Math EP ม.ต้น เรียนเนื้อหาอะไรบ้าง?
สวัสดีคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ ทุกคนนะครับ พี่โน๊ต จาก ignite เองนะครับ ในปัจจุบันยุคนี้ พี่เชื่อว่ามีผู้ปกครองหลายๆท่าน ได้เริ่มวางแผนการเรียนของลูกตั้งแต่ระดับประถม มัธยม เพื่อให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและวางเส้นทางให้น้องๆ ไปถึงฝั่งฝัน และเชื่อว่า โครงการ EP หรือหลักสูตร English Program เป็นอีก 1 หลักสูตรที่ผู้ปกครองหลายท่านให้ความสนใจ แต่หลายๆ ท่านคงยังมีข้อสงสัยไม่น้อยว่าจริงๆ แล้ว หลักสูตรนี้มันคืออะไร? และในแต่ละวิชาต้องเรียนเนื้อหาอะไรบ้าง? วันนี้พี่โน๊ตจะมากาง syllabus วิชาคณิตศาสตร์ Math หลักสูตร EP ว่าในแต่ละระดับชั้น ม.1-ม.3 ต้องเรียนอะไรบ้าง? เพื่อช่วยตอบทุกข้อสงสัยก่อนที่ผู้ปกครองจะวางแผนการเรียนให้กับลูกๆ นะครับ ทำความรู้จักกับหลักสูตร English Program (EP) หลักสูตร EP หรือ English Program คือ หลักสูตรที่มุ่งเน้นที่จะเสริมสร้างทักษะด้านภาษาอังกฤษให้แก่นักเรียน โดยใช้หลักสูตรการเรียนการสอนและสาระการเรียนรู้ต่างๆ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ โดยนักเรียนในหลักสูตรนี้จะเรียนภาษาอังกฤษที่เข้มข้นกว่าภาคปกติ สำหรับหลักสูตร EP นอกจากจะเรียนวิชาภาษาอังกฤษมากกว่าหลักสูตรไทยปกติแล้ว ยังเรียนบางวิชาเป็นภาษาอังกฤษด้วย เช่น […]
Comments (0)
Comments