เจาะลึกเทคนิคพิชิต ACT Science ข้อสอบเป็นยังไง? ต่างจากข้อสอบอื่นยังไงบ้าง?

สวัสดีครับน้องๆ หลังจากที่หลายคณะเริ่มประกาศรับคะแนนการสอบ ACT เพื่อคัดเลือกนิสิต นักศึกษาใหม่เข้าคณะ เช่น ISE CU หรือ SIIT น้องๆ หลายคนก็เริ่มหันมาสนใจการสอบนี้กันมากขึ้น แถมยังมีบางคนรีวิวอีกว่าข้อสอบ ACT ง่ายกว่าการสอบแบบอื่นๆ วันนี้พี่อิ๊งค์จะมาช่วยไขข้อสงสัยถึงรูปแบบของ ข้อสอบ ACT Science ว่าเป็นยังไง แล้วจะง่ายกว่าข้อสอบอื่นจริงหรือไม่กันครับ
ลักษณะข้อสอบ ACT Sciencee
ข้อสอบ ACT Science มีคำถาม 40 ข้อ โดยให้เวลาในการทำอยู่ที่ 35 นาทีเท่านั้น ถือว่าเป็นข้อสอบ Speed Testมากๆ น้องจะต้องฝึกฝนในการทำให้มาก และฝึกจัดการเวลาในการทำข้อสอบให้เชี่ยวชาญก่อนไปสอบ
ซึ่งรูปแบบของคำถาม จะมีการให้ Passage มาประมาณ 6 เรื่อง ในแต่ละเรื่องจะมีคำถาม 4-7 ข้อ โดยใน 6 เรื่องนี้จะมีทั้งที่เกี่ยวกับ
- Physics
- Chemistry
- Biology
- Earth&Space Science
คละกันไปในการสอบแต่ละครั้ง โดยคำถามจะไม่เน้นความรู้ทางวิชาการเชิงลึก แต่จะเน้นความรู้เชิงวิทยาศาสตร์ General Science เน้นการการคิดวิเคราะห์แบบมีหลักการเชิงวิทยาศาสตร์
แต่สิ่งที่จะมีเหมือนกันในทุกการสอบคือรูปแบบของ Passage ที่จะมีเพียง 3 ลักษณะ เพื่อวัดความรู้ ความเข้าใจที่ต่างกัน
รูปแบบ Passage ในข้อสอบ
- Data Representation : 2-3 passages
โดยมักจะให้มาเป็นกราฟ หรือตาราง เพื่อวัดความสามารถในการอ่านกราฟ และตีความข้อมูล - Research Summary : 2-3 passages
จะให้คำบรรยายการทดลอง 1 อย่างหรืออาจมากกว่านั้น โดยคำถามจะเน้นที่วิธีการทดลอง หรือการตีความจากผลการทดลอง - Conflicting viewpoint : 1 passage
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมุมมอง แนวคิด หรือ hypotheses หลายๆอัน ที่มีการถกเถียงกัน หรืออาจมีความไม่สมบูรณ์ของข้อมูลอยู่ คำถามจะเน้นการวิเคราะห์ และเปรียบเทียบมุมมองที่แตกต่าง

ซึ่ง Passage ทั้ง 6 เรื่องนี้ จะยาวมาก มีการให้ข้อมูลที่เยอะและซับซ้อน ถึงแม้เนื้อหาอาจไม่ต้องการความรู้เชิงลึกมาก แต่จำเป็นจะต้องฝึกอ่านและตีความให้ไว้ เนื่องจากมีเวลาในการตอบคำถามแต่ละข้อไม่ถึง 1 นาที
วันนี้พี่อิ๊งค์ เลยจะมาแชร์เทคนิคในการทำข้อสอบตามรูปแบบ Passage ที่ต่างกัน น้องๆ จะได้รู้ว่าเมื่อเจอข้อสอบจริงจะต้องเริ่มจากตรงไหน เพื่อให้ทำข้อสอบได้ถูกต้องและทันเวลาครับ

เริ่มด้วย Passage แบบ Data Representation ทริกในการทำข้อสอบคือ
- ให้น้องๆ โฟกัสที่ intro, head of table, axes, legend and trend เท่านั้น และไปตอบคำถามเลย ค่อยกลับมาดูข้อมูลอื่นๆ ที่เหลือเมื่อจำเป็นต้องใช้ในการตอบ
- จากนั้นต้องระบุความเหมือนและแตกต่างของตัวเลขหรือตารางต่างๆให้ได้
- สุดท้ายคือให้อ่านคำถามอย่างระมัดระวัง ตีโจทย์ให้ได้ว่าเขาต้องการรู้อะไรบ้าง

ต่อกันด้วย Passage แบบ Research Summary
- ให้น้องๆ หาตัวแปรต่างๆ ของแต่ละการทดลองให้เจอ แล้วข้ามส่วนที่เหลือไปก่อน ค่อยกลับมาดูบางจุดเมื่อจำเป็นเท่านั้นเช่นกัน
- ต้องระบุความเหมือนและแตกต่างของแต่ละการทดลองให้ได้
- คอยถามตัวเองว่า “จุดประสงค์ของขั้นตอนนี้คืออะไร?” หรือ “ทำไมนักวิจัยถึงทำแบบนี้?”
- จากนั้นอ่านคำถามอย่างระมัดระวัง

สุดท้ายกับ Passage แบบ Conflicting viewpoint ที่เป็นการให้ข้อมูลมุมมอง หรือ hypotheses ที่แตกต่างกันมา
- น้องๆ ต้องจับ main concept หรือ Main idea ของแต่ละมุมมองให้ได้
- ระบุความเหมือนและแตกต่างของแต่ละมุมมองให้ได้
- ให้อ่านทั้ง Passage และลิสต์เหตุและผลที่มีให้ทั้งหมด
- และที่สำคัญเหมือนเดิม คือ อ่านคำถามอย่างระมัดระวัง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หวังว่าเทคนิคเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยในการฝึกทำข้อสอบ
ACT Science สำหรับน้องหลายๆ คนที่ไม่รู้ว่าควรเริ่มยังไง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหมั่นฝึกฝนทำข้อสอบให้ได้มากที่สุด และให้จับเวลาในการทำด้วย เพื่อความคุ้นเคยและฝึกทักษะการจัดการเวลาสำหรับทำข้อสอบด้วยครับ

น้องคนไหนที่สนใจและอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ข้อสอบ ACT Science หรือเรียนกับกูรูที่จะช่วยแนะนำเทคนิคการคิดวิเคราะห์ ตีความต่างๆ สามารถมาพบกับพี่อิ๊งค์ได้ใน ACT Science Ultimate Prep คอร์สที่จะช่วยให้น้องๆ เข้าใจลักษณะข้อสอบ ACT Science มากขึ้น ทำความเข้าใจลักษณะคำถาม ฝึกทำโจทย์ตามลักษณะข้อสอบจริง
หรือน้องๆ คนไหนที่พอเข้าใจลักษณะข้อสอบ ACT Science แล้ว และต้องการฝึกทำโจทย์ โดยมีครูคอยแนะนำจุดที่อาจผิดบ่อยๆ เพื่อลดข้อผิดพลาดเมื่อต้องไปสอบจริง เพื่อให้ได้ Full score 36 เต็ม ก็สามารถเจอกับพี่อิ๊งค์คนเดิม ใน ACT Science 7days – 11tests
สามารถเข้าดูรายละเอียดคอร์สเรียน ACT เพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/cu-aat-cu-ats/
เลือกช้อปคอร์สเรียน ACT ออนไลน์ ด้วยตัวเองง่ายๆ ผ่านทาง >> SHOP ONLINE IGNITE
ผู้ปกครองและน้องๆ สามารถสอบถามรายละเอียด วางแผนการเรียน personal consult ในการเตรียมตัวสอบเข้าคณะวิศวะอินเตอร์ ได้ที่ Line@ : @Ignitebyondemand พี่ๆ ทุกคนพร้อมช่วยเหลือน้องๆ ทุกคน
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog
PATHWAY TO SUCCESS กิจกรรมที่จะพาลูกของคุณพ่อคุณแม่ไปสู่คณะในฝันที่ ignite by OnDemand
สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ อย่างที่ทราบกันว่าการเตรียมตัวสอบเข้าคณะอินเตอร์ หรือคณะที่เปิดรับใน TCAS รอบ 1 นอกจากการเรียนที่เข้มข้นแล้ว กิจกรรมต่างๆ ระหว่างการเตรียมตัวสอบก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้ลูกๆ ของท่านมีโอกาสสอบติดมากขึ้น เพราะหลักสูตรต่างๆ ที่เปิดรับใน TCAS รอบ 1 มักมองหานักศึกษาที่มีทักษะและประสบการณ์ที่มากกว่าแค่ความรู้ในห้องเรียน ignite เล็งเห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้ เราจึงจัดสรรกิจกรรมมากมายเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจว่าลูกของท่านจะสอบติด…วันนี้แอดมินขอพาผู้ปกครองทุกท่านไปทำความรู้จักกับ “PATHWAY TO SUCCESS” กิจกรรมที่จะพาลูกของคุณพ่อคุณแม่ไปสู่คณะในฝันที่ ignite by OnDemand กิจกรรมแนะแนวและค้นหาตัวตนที่ ignite เริ่มต้นที่การค้นหาตัวตน เพราะการได้เรียนสิ่งที่น้องๆชอบและเป็นตัวเองคือสิ่งสำคัญ ignite จึงจัดกิจกรรมแนะแนวหลากหลายงานตามสายอาชีพในฝัน ไม่ว่าจะแพทย์ วิศวะ บริหารและอื่นๆ อีกมากมายให้น้องๆ ได้ค้นหาตัวเองว่าตนเหมาะจะเข้าไปเรียนในคณะนั้นๆ หรือไม่ IGNITE FAIR & IGNITE DAY งานแนะแนวเข้ามหาวิทยาลัยหลักสูตรอินเตอร์กว่า 50 หลักสูตร น้องๆ และผู้ปกครองจะได้พบกับบูธรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศที่พร้อมตอบข้อสงสัยและให้ปรึกษาน้องๆ อย่างใกล้ชิด โดยน้องๆ สามารถเข้ามาสอบถามทั้งเรื่องเรียน สังคมในคณะและเคล็ดลับการเตรียมตัวสอบแบบ Exclusive และนอกจากบูธจากรุ่นพี่กว่า 50 […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
CU-AAT คืออะไร? ครบทุกข้อมูลที่ต้องรู้เกี่ยวกับข้อสอบ CU-AAT
สวัสดีน้องๆ ทุกคนครับ พี่แอดมินเชื่อว่าตอนนี้น้องๆ หลายคนคงกำลังสงสัยกันใช่มั้ยว่าข้อสอบ “CU-AAT คืออะไร” วันนี้เราจะมาตอบทุกคำถามเกี่ยวกับการสอบ CU-AAT ตั้งแต่เนื้อหาข้อสอบเป็นอย่างไร มีกี่วิชา ใช้ยื่นคณะไหนได้บ้าง ค่าสมัครสอบและตารางสอบ…ไม่พูดพร่ำทำเพลง พร้อมแล้วไปอ่านกันเลย !! CU-AAT คืออะไร ข้อสอบ CU-AAT (Chulalongkorn University Academic Aptitude Test) คือ ข้อสอบที่ใช้วัดความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ (Mathematics) และภาษาอังกฤษ (Verbal) ใช้ในการพิจารณาผู้ยื่นเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี ของหลักสูตรนานาชาติ จุฬาฯ โดยลักษณะข้อสอบคล้ายกับข้อสอบ SAT ธรรมดาทั้ง Part Mathematics และ Part Verbal แต่ความยากของเนื้อหาข้อสอบจะแตกต่างกันออกไป คณะที่สามารถใช้คะแนน CU-AAT เพื่อยื่นพิจารณาศึกษาต่อ เช่น MEDICAL คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ISE คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อินเตอร์) EBA คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อินเตอร์) BALAC คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
ความแตกต่างของ CU-ATS vs SAT Subject Tests
สวัสดีครับชาว igniter ทุกคน ตั้งแต่ต้นปี 2021 มานี้ น้องๆ ทุกคนต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงมากมายทั้ง การยกเลิกข้อสอบ SAT Subject Tests, สนานสอบ SAT ยกเลิกการสอบเพราะพิษโควิด, Requirement ที่ไม่แน่นอนของทางมหาวิทยาลัยว่าจะใช้คะแนนสอบใดแทนได้บ้าง ทำเอาน้องๆ หลายๆ คนถึงกับตั้งตัวไม่ทันเลย พี่ๆ ignite ทุกคนขอเป็นกำลังใจให้ครับ อย่างไรก็ตาม สำหรับน้องๆ ทีม ISE CU เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า จะสามารถยื่นคะแนน CU-ATS และ CU-AAT แทน SAT Subject Tests ได้ ดังนั้น พี่ๆ จึงไม่รอช้า มาแชร์แบบหมดเปลือกว่าข้อสอบ CU-ATS มีอะไรที่เหมือนหรือต่างไปจากข้อสอบ SAT Subject Test บ้าง […]
Comments (0)
-
Blog, GED
เคลียร์ทุกข้อสงสัย GED Rescore ทำยังไง ครูหมิง GED Guru มีคำตอบ!
สวัสดีค่ะน้องๆ ทุกคนกลับมาพบกับพี่หมิง GED Guru จาก Ignite กันอีกครั้งนะคะ วันนี้พี่ก็มีข้อมูลเจาะลึกเกี่ยวกับการ Rescore GED มาฝาก เนื่องจากช่วงนี้ก็เข้าใกล้การยื่นคะแนนเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว น้องๆ ทีม GED ก็ทักมาถามพี่หมิงกันเยอะมากว่า “อยากเพิ่มคะแนน อยาก Rescore คะแนน GED ต้องยังไงบ้าง” Blog นี้พี่มีคำตอบให้ค่ะ! GED Rescore คืออะไร ทำไมต้องทำ? สำหรับน้องๆ ที่ยังไม่เคยสอบ GED อาจจะงงว่า Rescore คืออะไร ทำไมต้องทำ? พี่ต้องบอกก่อนค่ะว่าหลายๆ คณะ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่การแข่งขันสูง เช่น CU, TU, MUIC มีการกำหนดเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำ บางคณะกำหนดสูงถึง 660+ ถึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัครเข้าเรียนได้ จึงเป็นที่มาว่าทำไมน้องๆ ที่ตั้งเป้าคณะเหล่านี้มักจะสอบถามเรื่อง […]
Comments (0)
Comments