คู่มือสำหรับพ่อแม่ อยากให้ลูกติดหมอ ตั้งแต่ TCAS รอบแรก ต้องใช้อะไรบ้าง

คู่มือสำหรับพ่อแม่ อยากให้ลูกติดหมอ ตั้งแต่ TCAS รอบแรกต้องใช้อะไรบ้าง - Thumbnail

         สวัสดีคุณพ่อคุณแม่ทุกที่อยากให้ลูกๆเป็นหมอทุกท่านนะครับ…วันนี้ ignite จะขอมาแนะนำการ สอบเข้าคณะแพทย์ TCAS รอบ 1 หรือที่ผู้ปกครองหลายๆ ท่านจะคุ้นหูกับคำว่า “แพทย์รอบ Portfolio” ซึ่งมีมหาวิทยาลัยที่เปิดรับ เช่น แพทย์จุฬาฯ แพทย์รามาฯ แพทย์ม.ขอนแก่น แพทย์ม.เชียงใหม่และอีกมากมายโดยวันนี้ ignite จะมาแนะนำข้อมูลสำคัญที่จะทำให้ลูกๆ ของคุณพ่อคุณแม่สอบติดหมอก่อนใครตั้งแต่ TCAS รอบแรก…ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเลย !!

สอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ต้องใช้อะไรบ้าง

ติดหมอ รอบ1 ต้องใช้อะไรบ้าง - GPAX - IELTS - Bigcover2

GPAX หรือเกรดเฉลี่ยสะสม

         สิ่งที่จำเป็นต่อการ สอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio อย่างแรกคือ GPAX หรือเกรดเฉลี่ยสะสม โดยส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยจะกำหนดให้ใช้เกรดรวมทั้งหมด 4-5 เทอมด้วยกัน แต่จะมีเกณฑ์เกรดเฉลี่ยสะสมแตกต่างกันออกไปตามความต้องการของแต่ละคณะ แต่ต้องเรียนคุณพ่อคุณแม่ว่าหากลูกของท่านมี GPAX ตั้งแต่ 3.50 ขึ้นไป น้องๆ จะมีโอกาสในการยื่นเข้าคณะแพทย์รอบ 1 ได้ทุกมหาวิทยาลัย แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลนะครับเพราะมีมหาวิทยาลัยหลายที่กำหนดเกรดเฉลี่ยรวมต่ำกว่า 3.50 หรือยังมีบางที่ไม่กำหนด GPAX ขั้นต่ำเลยด้วยซ้ำนะครับ

ตัวอย่างเกณฑ์ขั้นต่ำเกรดเฉลี่ยสะสมในการยื่นแพทย์รอบ Portfolio

  • GPAX 3.50 ขึ้นไป : แพทย์ จุฬาฯ, แพทย์รามาฯ
  • GPAX ต่ำกว่า 3.50 : แพทย์อินเตอร์ มธ. และ แพทย์มศว โครงการร่วมนอตติงแฮม
  • ไม่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ เช่น แพทย์จุฬาภรณ์ โครงการร่วม UCL และแพทย์อินเตอร์ ลาดกระบัง

IELTS หรือคะแนนภาษาอังกฤษ

         ส่วนใหญ่แล้วคณะแพทย์ที่เปิดรับใน TCAS รอบ 1 มักต้องการนักศึกษาที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ทำให้เกือบทุกคณะกำหนดให้น้องๆ ใช้คะแนนภาษาอังกฤษในการยื่นเข้ารับพิจารณา โดยการสอบภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมมากทีสุดคือ “IELTS” เพราะคะแนนสามารถใช้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยที่เปิดรับ TCAS รอบ 1 ได้ทุกมหาวิทยาลัย ทุกคณะ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละที่จะกำหนดคะแนน IELTS แตกต่างกันออกไป แต่แนะนำให้ตั้งเป้าไว้ที่ IELTS Band 7.0 เลยครับ เพราะว่ามันเป็นคะแนนที่สามารถใช้ยื่นแพทย์รอบ Portfolio ได้ทุกคณะนะครับ ถ้าได้น้อยกว่านั้น ตัวเลือกของเราก็จะน้อยลง

ตัวอย่างเกณฑ์คะแนน IELTS ในการยื่นแพทย์รอบ Portfolio

  • IELTS ไม่ต่ำกว่า Band 7.0 : แพทย์ จุฬาฯ, แพทย์จุฬาภรณ์ โครงการร่วม UCL, แพทย์อินเตอร์ ลาดกระบัง และ แพทย์ มศว โครงการร่วมนอตติงแฮม
  • IELTS ไม่ต่ำกว่า Band 6.5 : แพทย์ รามาฯ, แพทย์อินเตอร์ มธ. และ แพทย์ ม.เชียงใหม่

IELTS ALL PARTS
https://bit.ly/2Sd19py

ติดหมอ รอบ1 ต้องใช้อะไรบ้าง - BMAT - SAT Subject Tests - Bigcover3

BMAT (BioMedical Admissions Test)

         BMAT คือ กุญแจสำคัญสำหรับการสอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio เพราะเกือบทุกมหาวิทยาลัยกำหนดให้ยื่นคะแนน BMAT และใช้เป็นเกณฑ์สำคัญในการคัดเลือกนักเรียนเพื่อเข้าศึกษา เพราะมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักคะแนน BMAT มากกว่าเกรดเฉลี่ยรวมหรือการสอบภาษาอังกฤษ โดยจะนำคะแนนข้อสอบทั้ง 3 Part มาคิดเป็นคะแนนรวมนะครับ

ข้อสอบ BMAT แบ่งออกเป็น 3 Part ดังนี้

  • Part 1 : Thinking skills เป็นข้อสอบแนว Problem solving (หรือที่เรียกกันว่า Aptitude) และเป็นข้อสอบแนว Critical thinking (หรือที่เรียกกันว่า Critical analysis) โดยมีคะแนนเต็ม 9
  • Part 2 : Scientific Knowledge and Applications เป็นข้อสอบที่มีเนื้อหาที่ครอบคลุมวิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ และคณิตศาสตร์ โดยมีคะแนนเต็ม 9
  • Part 3 : Writing Task เป็นข้อสอบที่ใช้วัดความสามารถในการจัดการความคิดและสื่อสารด้วยการเขียนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีคะแนนเต็ม 5

     

         ทั้งนี้ถ้าน้องๆ ได้คะแนน BMAT รวมกันเฉลี่ยอยู่ที่ 14 ก็สามารถสอบติดแพทย์รอบ Portfolio ที่แพทย์ รามาฯ, แพทย์ ม.ขอนแก่น, แพทย์ ม.เชียงใหม่ ฯลฯ ได้แล้ว แต่หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้น้องๆ สอบติด แพทย์ จุฬาฯ อาจต้องอัพคะแนนให้เฉลี่ยอยู่ที่ 16 นะครับ

SAT Subject Tests

         สำหรับการยื่นเข้าแพทย์รอบ Portfolio นอกจาก BMAT แล้ว ในบางมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ได้กำหนดให้ใช้คะแนนสอบ SAT Subject Tests ในวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และ ชีววิทยายื่นเข้าแพทย์รอบ 1 ได้เหมือนกัน เช่น แพทย์จุฬาภรณ์ โครงการร่วม UCL หรือแม้แต่บางคณะยังให้โอกาสน้องๆใช้คะแนน SAT Subject Tests แทนเกรดเฉลี่ยจากโรงเรียนด้วยนะครับ เช่น แพทย์ รามา ฯ โดยเกณฑ์ทั่วไปการสอบเข้าแพทย์จะกำหนดให้น้องๆ สอบได้มากกว่า 700 คะแนน แต่สถิติที่นักเรียนส่วนมากสอบติดจะอยู่ที่ 750 คะแนนและควรจะต้องมีวิชาใดวิชาหนึ่งเต็ม 800 นะครับ

ติดหมอ รอบ1 ต้องใช้อะไรบ้าง - Portfolio - Interview - Bigcover4

Portfolio

         มหาวิทยาลัยที่เปิดรับคณะแพทย์ ใน TCAS รอบ 1 มักกำหนดให้น้องๆ มี Portfolio หรือแฟ้มสะสมผลงานที่แสดงตัวตน ความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรมหรือรางวัลที่ได้รับ ทั้งนี้น้องๆ ควรมีกิจกรรม 15 อย่าง โดยอิงตามเกณฑ์ของคณะแพทย์ รามาฯ เนื่องจากเป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่กำหนดจำนวนกิจกรรม ซึ่งหากน้องๆ ทำตามเกณฑ์นี้ก็จะสามารถปรับใช้ยื่นที่อื่นได้ และผลงานที่ควรมีใน Portfolio คือ งานจิตอาสา งานวิชาการ งานวิจัย หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เราอยากนำเสนอ

Interview

         ด่านสุดท้ายในการสอบเข้าแพทย์รอบแรก คือการสัมภาษณ์แบบ MMI (Multiple Mini Interview) โดยจะแบ่งออกเป็นสถานีย่อยๆ ให้น้องๆ ตอบคำถามที่แสดงถึงทัศนคติ การตัดสินใจหรืออาจให้แสดงบทบาทสมมติประกอบสถานการณ์ต่างๆ

อยากรู้เรื่องราวการสอบสัมภาษณ์ เพิ่มเติมพี่มีบทความจากพี่ๆ RIS ที่สอบติดคณะแพทย์กันยกแก๊ง! มาแนะนำ

Thai Version : เปิดเส้นทางเด็กนานาชาติสู่แพทย์รอบ Portfolio ติดหมอเป็น 10 คนแบบยกแก๊ง! Ruamrudee International School Bangkok

English Version : Unveiling the pathway to the portfolio interview for reputable medical degrees of Ignite RIS students

         ครบแล้วครับสำหรับคู่มือการสอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio อยากให้คุณพ่อคุณแม่ได้พูดคุยกับน้องๆ ว่ามีเป้าหมายในการสอบเข้าหมออย่างไร เพราะแต่ละที่มีเกณฑ์ในการรับเข้าศึกษาที่ต่างกัน หากยังไม่แน่ใจ หรือยังไม่มีข้อมูลสามารถติดต่อสอบถาม หรือให้ช่วยวางแผนการเรียนได้ที่ Line: @ignitebyondemand หรือโทร 091-5761475,02-6580023

Shop online

Related Blog & News

ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

Comments

Comment Write a comment...