เคล็ดลับทำข้อสอบ GED วิชาปราบเซียนให้ได้ Perfect Score จากน้องคลิ๊ก Harrow

สวัสดีค่ะน้องๆ วันนี้พี่หมิงพา น้องคลิ๊ก นักเรียนคนเก่งของพี่มาแชร์ เคล็ดลับทำคะแนนข้อสอบ GED Social Studies และ RLA ให้ได้คะแนนสูงกว่า 165 คะแนน รวมทั้งวิธีเตรียมตัวด้วย น้องคลิ๊กเป็นนักกีฬาที่มีเวลาเตรียมตัวน้อยมากแต่ก็ยังสามารถบริหารเวลาจนคว้า Perfect Score มาได้ พี่เชื่อว่าเรื่องราวของน้องคลิ๊กจะเป็นประโยชน์และแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ ที่เตรียมสอบ GED กันอยู่ ไปทำความรู้จักกับเขากันเลยค่ะ
Q: แนะนำตัวให้น้องๆ ignite รู้จักกันหน่อยค่ะ
น้องคลิ๊ก: สวัสดีครับ ชื่อคลิ๊กครับ ชนม์เสถียร พุลวงลักษณ์ ตอนนี้เรียนอยู่ Harrow International School Bangkok Year 13 ครับ กำลังเตรียมตัวเข้าคณะ Com Arts จุฬาฯ โดยใช้ GED ยื่นเข้าครับ ล่าสุดสอบ GED RLA ได้ 177 และ GED Social studies ได้ 167 ครับ

Q: ทำไมถึงเลือกสอบ GED
น้องคลิก: ตอนนี้ผมเป็นนักกีฬาอาชีพครับและต้องซ้อมบอลตอนเช้าทุกวัน กว่าจะซ้อมเสร็จก็ 11.00-12.00 น. แล้ว ทำให้ตามเพื่อนในห้องเรียนไม่ค่อยทันครับ ผมเลยมองหาวิธีการเรียนแบบอื่นที่จะทำให้ผมสามารถเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยไปด้วยและสามารถแบ่งเวลาซ้อมเตะบอลไปด้วยได้ ผมจึงตัดสินใจว่าจะสอบเทียบวุฒิด้วย GED และลงเรียนเสริมกับสถาบันข้างนอกเอาครับ ซึ่งคนรู้จักก็แนะนำ ignite มา พอได้มาเรียนก็ชอบมากครับ มีรูปแบบการเรียนให้เลือกหลายแบบ เหมาะกับคนที่มีเวลาจำกัดหรือต้องการจัดตารางเรียนเองครับ
Q: คลิ๊กว่าข้อดีของ GED มีอะไรบ้างคะ
น้องคลิ๊ก: สำหรับผมมองอย่างนี้ครับ
- GED มีสอบแค่ 4 วิชา คือ Reasoning through Language Arts (RLA), Social Studies, Math และ Science โดยเนื้อหาจะไม่ได้เจาะลึกมาก ทำให้ไม่ต้องใช้เวลานานในการเตรียมตัว สำหรับผมใช้เวลาเตรียมตัวในการสอบ GED RLA และ Soc ประมาณ 2 เดือนเท่านั้น คิดว่าถ้าเตรียมตัวดี ๆ ผมว่าใครก็สอบผ่านได้ครับ
- เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีเวลาเตรียมตัวน้อย หรืออยากมีทางลัดเข้ามหาลัยไวๆ เพราะเพื่อนผมบางคนก็ใช้ GED ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่ Year 12 แล้ว
- GED มีรอบสอบทุกวันครับสะดวกมากและคะแนนก็ออกไวมาก ผมสอบเสร็จ รอไม่เกิน 15 นาที ผลก็ออกแล้วครับ

Q: วางแผนการสอบยังไงและมีการเตรียมตัวยังไงบ้างคะ
น้องคลิ๊ก: มาวางแผนการเรียนกับพี่ Consultant และครูหมิง ในมุมของผมอยากรีบเก็บตัวยากไว้ก่อนด้วย พอผ่านแล้วจะได้ทำตัวอื่นสบายๆ ไม่เครียด ครูก็แนะนำให้ทำ Social Studies ก่อนเพราะเป็น US History ซึ่งผมไม่เคยเรียนมาก่อนเนื่องจากเรียนหลักสูตรอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก พอมาลองทำ Placement test กับ Ignite ดูแล้วเหมือนต้องเริ่มเรียนใหม่ทั้งหมดเลยครับ
ถัดมาก็เตรียมตัว RLA ครับ เพราะเรียนอินเตอร์มา ทำให้พอมีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่แล้ว จากที่ลองทำ Placement test มาก็คิดว่าไม่ยากขนาดนั้นแต่ต้องทบทวนความเข้าใจผิดในการใช้ Grammar และศึกษารูปแบบข้อสอบเพิ่มเติมครับ
พอเคลียร์สองตัวยากเสร็จผมจึงค่อยไปสอบ Math และ Science ครับ สองตัวนี้ก็สำคัญมากๆ ในการดึงคะแนนรวมของเราให้สูงขึ้นครับ ต้องเน้นทำโจทย์บ่อยๆ
และ สิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการเตรียมตัวคือการทำ GED Ready ครับ เพราะ

- GED Ready จะจำลองเหตุการณ์จริงเหมือนเราไปสอบจริงๆ ครับ ดังนั้นจึงถือเป็นสนามซ้อมมือที่ดีที่สุดแล้วสำหรับคนที่อยากสอบ GED
- GED Ready จะบอกละเอียดมากว่าเราพลาดตรงไหน ทำให้รู้ว่าเราต้องเรียนตรงไหนเพิ่ม ข้อไหนทำไม่ได้ก็มาทบทวนเพิ่ม
- ได้ฝึกบริหารเวลา พอได้ทำบ่อยๆ เข้า ตอนเจอข้อสอบจริงเราก็ไม่กังวลแล้วครับ
- มีข้อสอบที่ออกใน GED Ready บางข้อไปโผล่ในข้อสอบจริงด้วยครับ ถ้าเราจำได้ก็เก็บคะแนนไปได้สบาย ๆ เลย
อย่างคลิ๊กเองก็ทำ GED Ready ไป 4 ครั้งเลยครับกว่าจะไปสอบจริง ครั้งละ 6$ เท่านั้น คุ้มมากๆ ครับ
(สำหรับน้องๆ ที่อยากรู้จัก GED Ready มากขึ้น พี่หมิงเคยให้ข้อมูลไว้ที่นี่ค่ะ >> GED Ready เครื่องมือ(ไม่)ลับ อัพคะแนนตามเป้า! )

Q: มาถึงคำถามที่หลายๆ คนรอคอย น้องคลิ๊กมีวิธีทำข้อสอบยังไงให้ได้ Perfect Score คะ
น้องคลิ๊ก: ขอเริ่มจาก Social studies ก่อนนะครับ
ทุกครั้งหลังเรียนผมจะสรุปเนื้อหาไว้อ่านทบทวน โดยจดเฉพาะ Keyword สำคัญเพราะ Social studies เนื้อหาเยอะ การจดแบบนี้ทำให้เห็นความเชื่อมโยงของเนื้อหา ทบทวนง่ายและจำได้ดีขึ้นครับ
ในห้องสอบจะเน้นอ่าน Passage ที่เขาให้มาครับเพราะหลายข้อเขาจะแอบใบ้คำตอบมาอยู่แล้ว ดังนั้น ต้องอ่านและสรุปออกมาว่าแต่ละ Paragraph สื่ออะไร สุดท้ายเราก็จะเห็นภาพรวมของทั้ง Passage แล้วเลือกตอบได้ง่ายขึ้นครับ มีบางครั้งที่ต้องใช้ Common sense บ้างครับซึ่งก็ต้องสะสมมาจากการทำโจทย์เสริม อีกจุดที่ต้องเสริมคือคำศัพท์ครับเพราะข้อสอบจะใช้ Old English ซึ่งไม่ค่อยเจอในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่ท่องไปก็อาจจะงงได้
ในส่วนของ Reasoning through Language Arts หรือ RLA ข้อสอบจะแบ่งเป็น 3 Parts ครับ ส่วนแรกคือ Reading ประมาณ 60% ถัดมาคือ Grammar ประมาณ10% และการเขียนที่เรียกว่า Extended Response อีกประมาณ 30% ครับ
สำหรับ Reading หรือการอ่าน เป็นส่วนที่ออกเยอะมากครับ ความยากคือเรื่องคำศัพท์ โดยเฉพาะคำศัพท์ในส่วน Fiction เพราะบางคำก็ไม่ได้แปลตรงตัว ต้องแบ่งเวลาท่องศัพท์และอ่านเพิ่มบ่อย ๆ ครับให้คุ้นเคยกับการอ่านและตีความ
ส่วน Grammar คือต้องบอกก่อนว่าผมมีพื้นฐานจากการเรียนนานาชาติมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็มีงงกับพวก Grammar rules บ้างเพราะ RLA จะเป็นเนื้อหาของอเมริกาซึ่งต่างจากหลักสูตรอังกฤษที่ผมเรียน ต้องมาอ่านเพิ่มระดับนึงครับ
และส่วนสุดท้ายซึ่งเป็นส่วนที่ผมมองว่ายากที่สุด นั่นคือการเขียน Extended Response ครับ จะเป็นการเขียนเชิงวิเคราะห์ โดยข้อสอบจะให้ Passage จากคน 2 กลุ่มที่มีความเห็นขัดแย้งกัน แล้วเราต้องมาอ่านและตีความว่าใครต้องการสื่ออะไรและคนไหนดูน่าเชื่อถือกว่ากัน สิ่งสำคัญคือห้ามใส่ความคิดเห็นของตัวเองต้องอ้างอิงจากข้อมูลที่เขาให้มาเท่านั้น ซึ่งตรงนี้พี่หมิงจะเน้นย้ำตลอดว่า Structure การตอบควรเขียนแบบไหนไม่ให้โดนหักคะแนน ผมก็จะฝึกอ่านและฝึกเขียนมาตามที่พี่หมิงสอนบ่อยๆ จนสุดท้ายก็ทำคะแนนเต็มในส่วนนี้มาได้ครับ
Q: แล้ว ignite มีส่วนช่วยให้น้องคลิ๊กประสบความสำเร็จตามเป้ายังไงบ้างคะ
น้องคลิ๊ก: อย่างแรกเลยคือพี่ๆ ทีม Consultant ดูแลดีมากครับ ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาผมยังไม่ค่อยเห็นภาพอะไร พี่ๆ ก็ช่วยวางแผนให้เห็นภาพชัดว่าควรทำอะไร เรียนยังไง เพื่อให้สอบได้คะแนนตามเป้าและเข้าคณะที่ต้องการได้ ดูเป็น specialist เรื่องการเข้าคณะอินเตอร์จริงๆ ครับ
ส่วนครูหมิงก็สอนแบบจัดเต็มมากๆ ให้ทั้งเทคนิคและแนวข้อสอบ นอกจากนี้ยังให้คำแนะนำเพิ่มเติม ช่วยวางแผน back-up plan ให้ด้วย พอคุยแล้วผมก็รู้สึกสบายใจและเห็นเป้าหมายในมุมที่กว้างขึ้นครับ
อีกส่วนสำคัญเลยคือ ที่นี่มีรูปแบบการเรียนให้เลือกได้หลายแบบ มีทั้งคอร์สสด คอร์สออนไลน์ Anywhere หรืออย่างผมเรียน 1ON1 ก็เลือกได้ว่าจะมาที่สาขาหรือผ่าน Zoom รู้สึกสะดวกมากๆ เหมาะมากกับคนที่อยากจัดเวลาด้วยตัวเองครับ

Q: สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงเพื่อน ๆ ที่กำลังเตรียมตัว GED อยู่คะ
น้องคลิก: เริ่มจากวางแผนเตรียมตัวก่อนเลยครับ มีเป้าหมายให้ชัดว่าเราจะยื่นคะแนนอะไรช่วงไหน จากนั้นแบ่งเวลาเรียนเสริม อ่านหนังสือและฝึกทำโจทย์ย้อนหลังเยอะๆ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างเลยคือการทำ GED Ready สัก 2-3 ครั้งขึ้นไปจะช่วยเรื่องการบริหารเวลาในห้องสอบของเราได้ดีและลดความกดดันตอนสอบจริงลงไปมากเลยครับ พลาดตรงไหนก็มาทบทวนซ้ำ สุดท้ายก็อยากให้เพื่อนๆ ทำให้เต็มที่นะครับ ไม่มีเป้าหมายไหนไกลเกินเอื้อมแน่นอน
ทำความรู้จักกับ "น้องคลิก" ยิ่งขึ้นกับเคล็ดลับในการเตรียมตัวสอบ GED
สำหรับใครที่อยากเข้ากลุ่มแนะแนวและวางแผนการเรียนเตรียมตัวในการสอบ GED กับ Ignite คลิกที่นี่ได้เลย >> https://bit.ly/2Lt6pWq พี่หมิงและทีมพี่ๆ ignite จะคอยอัพเดต ข้อมูลพร้อมตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อสอบ GED ในกลุ่มให้น้องๆ และผู้ปกครองทุกคนนะคะ
คอร์สเรียน GED ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่ใช่!

น้องๆ สามารถเตรียมตัวสอบ GED ด้วยตัวเองได้แล้ววันนี้! ผ่านคอร์สเรียน GED ออนไลน์ ในระบบ Anywhere ผ่านมือถือ ไอแพด หรือคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คของน้องๆ ที่ช่วยให้เราสามารถจัดสรรเวลาเรียนเองได้ สามารถสอบถามรายละเอียดคอร์สเรียนเพิ่มเติมผ่านทาง Line @ignitebyondemand หรือคลิกปุ่มด้านล่างได้เลย!
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio), SAT Subject Tests
เปิดเส้นทางเด็กนานาชาติสู่แพทย์รอบ Portfolio ติดหมอเป็น 10 คนแบบยกแก๊ง! Ruamrudee International School Bangkok
สวัสดีน้องๆ ว่าที่หมอทุกคนนะครับ !! วันนี้พี่แอดมินพาน้องๆ จาก โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี หรือ Ruamrudee International School Bangkok (RIS) ที่สอบติด แพทย์ รอบ Portfolio ปีล่าสุด มาพูดคุยและเล่าเรื่องราวการเตรียมตัวตั้งแต่การสอบเก็บคะแนน การทำพอร์ตไปจนถึงการสัมภาษณ์ เพื่อให้น้องๆ ว่าที่หมอได้ข้อมูลอย่างถูกต้อง และสามารถเตรียมตัวสอบเข้า แพทย์ รอบ 1 อย่างมั่นใจกันนะครับ หลายคนชอบคิดว่าเด็กนานาชาติโอกาสสอบติดหมอน้อยกว่าเด็กภาคไทย ขอบอกเลยว่า ไม่จริงเพราะน้องๆ RIS ที่เรียนกับ ignite สอบติดแพทย์และทันตะรอบ Portfolio กว่า 10 คน ไม่ว่าจะสอบติดแพทย์จุฬาฯ, แพทย์รามา, แพทย์จุฬาภรณ์ (PCCMS UCL), แพทย์อินเตอร์ มธ. (CICM) หรือทันตะอินเตอร์มหิดล (MIDS), ทันตะจุฬาฯ และอื่นๆ […]
Comments (0)
-
ไม่มีหมวดหมู่, Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
MMI คืออะไร? รูปแบบการสอบสัมภาษณ์เข้าคณะแพทย์ชั้นนำ
น้องๆ ที่มีเป้าหมายสอบเข้า “คณะแพทย์” คงเคยได้ยิน หรือเห็น Requirements ที่ระบุรูปแบบการสอบสัมภาษณ์ แบบ MMI กันมาบ้าง ซึ่งบอกเลยว่าเป็นอีกด่านสุดหินของการคัดตัวจริงแพทย์รอบพอร์ต งานนี้พี่แอดมินเลยอดใจไม่ไหว ที่จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ MMI มาให้น้องๆ ทำความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมกันแบบ ครบ จบ ในบทความเดียว MMI คืออะไร? MMI หรือ Multiple Mini Interview คือ การสัมภาษณ์ ที่นิยมใช้ในการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยชั้นนำ โดยเป็นการสัมภาษณ์ แบบแยก Station หรือ แยกเป็นฐานย่อยๆ ซึ่งจะมีการจำกัดเวลาในการเข้าสัมภาษณ์แต่ละ Station ไว้อย่างชัดเจน เมื่อครบตามเวลาที่กำหนด ก็จะต้องเปลี่ยน Staion วนไปเรื่อยๆ หมายความว่าผู้เข้าสัมภาษณ์ทุกคนจะได้วนครบทุก Station […]
Comments (0)
-
Blog, GED
เผยวิธีเตรียมสอบ GED ยังไง ให้ได้ 660+ จากครูหมิง GED Guru
สวัสดีค่ะ พี่หมิง GED Guru จาก ignite นะคะ ช่วงนี้มีน้องๆ ถามกันมาเยอะมากว่า ทำยังไงให้ได้คะแนน GED สูงกว่า 660 คะแนน เพื่อให้มีสิทธิ์ยื่นเรียนต่อมหาวิทยาลัยชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นจุฬาฯ, มธ., MUIC และอีกหลายๆ ที่ เดี๋ยววันนี้พี่หมิงจะมาแชร์วิธีการที่พี่ใช้โค้ชน้องๆ คลาส GED ให้พวกเขาได้คะแนนตามเป้าหมาย ก่อนอื่นพี่ขอแบ่งทักษะออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ Skillset และ Mindset Skillset – ทักษะที่ใช้ในการเตรียมตัวสอบ GED 1. รู้กติกาการสอบ GED อย่างละเอียด ข้อนี้สำคัญมากนะคะ พี่หมิงเจอน้องๆ หลายคนมากที่ไม่รู้ว่ากติกาของ GED (บางคนไม่รู้ว่า GED สอบได้ครั้งเดียว!) ไปสอบจริงแล้วคะแนนไม่ตามเป้า กว่าจะ rescore […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
รวมข้อสอบ BMAT Past papers , IMAT และ TSA ย้อนหลัง 10 ปี พร้อมเฉลย
สวัสดีครับน้องๆ ว่าที่คุณหมอที่กำลังเตรียมตัวเพื่อสอบเข้าคณะแพทย์ รอบ Portfolio กันทุกๆ คน วันนี้พี่ๆ ignite ได้รวบรวม ข้อสอบ BMAT Past papers , practice papers พร้อมพิเศษข้อสอบ IMAT และข้อสอบ TSA ย้อนหลังให้ถึง 10 ปี พร้อมเฉลย ให้น้องๆ ฝึกทำโจทย์ให้มั่นใจกันอย่างจุใจ เตรียมพร้อมก่อนไปสอบกันนะครับ ก่อนจะเริ่มฝึกทำโจทย์ เรามาดูแผนเตรียมตัวสอบ BMAT ปี 2020 กันก่อนดีกว่า เพราะสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้การสอบปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากทุกครั้งที่ผ่านมา โดยทาง Cambridge ได้ยกเลิกการสอบ BMAT ในรอบ SEP ทำให้ปีนี้ๆ น้องเหลือรอบสอบแค่รอบ NOV ! เท่านั้น […]
Comments (0)
Comments