เก็งข้อสอบ BMAT Chemistry Molecular Geometry

สวัสดีครับน้องๆ ใกล้กันเข้ามาทุกทีกับการสอบ BMAT รอบ September และ October นี้ สำหรับน้องคนไหนที่กำลังเตรียมตัว Part 2 ในส่วนของวิชา Chemistry อยู่ วันนี้ครูธง one on one ได้เอาเทคนิคการทำข้อสอบและการจำโครงสร้างโมเลกุลมาฝากน้องๆกัน ครูธงรับรองว่าเทคนิคนี้จะช่วยน้องๆ ในการทำข้อสอบ BMAT ได้แน่นอน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่าครับ

VSEPR (Valence-Shell Electron-Pair Repulsion Theory) หรือทฤษฎี VSEPR (เวสเปอร์) คือ ทฤษฎีแรงผลักระหว่างคู่อิเล็กตรอนในวงเวเลนซ์
ประโยชน์ของ VSEPR : ใช้ทำนายโครงสร้างของโมเลกุลแบบ Geometry จากโครงสร้างลิวอิส ซึ่งใช้ได้กับโมเลกุลทั้งที่อะตอม e– ครบ ไม่ครบ และเกินออกเตต
หลักการ : การจัดตัวของอะตอม (หรือกลุ่มอะตอม) รอบอะตอมกลาง จะขึ้นอยู่กับแรงผลักระหว่างคู่อิเล็กตรอนในวงเวเลนซ์ของอะตอมกลางเท่านั้น คู่อิเล็กตรอนเหล่านี้จะพยายามอยู่ห่างจากกันให้มากที่สุด เพื่อให้มีแรงผลักน้อยที่สุด การผลักกันของคู่อิเล็กตรอนเหล่านี้ จึงทำให้เกิดรูปร่างโมเลกุลที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนอะตอมที่อยู่รอบๆ และ lone pair electron ของอะตอมกลาง

ก่อนที่น้องๆจะจำแต่ละรูปร่างโมเลกุลกัน เราต้องทำตามขั้นตอนนี้กันก่อนครับ
1. วาดโครงสร้างลิวอิสก่อน (ถ้าใครยังวาดโครงสร้างลิวอิสไม่เป็น น้องๆต้องกลับไปทบทวนเรื่องโครงสร้างลิวอิสมาก่อนนะครับ) แล้วจะทำให้เรารู้ว่าโมเลกุลนั้นๆมีจำนวน Surrounding Atom และ Lone pair electron ของอะตอมกลางเหลืออยู่กี่คู่ 2. ต่อมาเมื่อทราบจำนวน Surrounding Atom และ Lone pair electron แล้ว ก็จะทำให้เราเขียน General Formula ได้ โดย
General Formula คือ AXnEm
Xn คือ จำนวน Surrounding Atom
Em คือ จำนวน Lone pair electron

**สำหรับ AX1E3 , AX1E4 และ AX1E5 เป็นการเขียนรูปร่างโมเลกุลทางทฤษฏีเท่านั้น มักไม่พบในทางปฎิบัติ
3. ตารางนี้คือ ตารางโครงสร้างโมเลกุลทั้งหมดนะครับ น้องๆ หลายคนคงคิดว่าจะจำหมดนี่ไหวได้ยังไง พี่ขอบอกเลยครับว่า น้องไม่ต้องจำหมดทั้งตารางครับ พี่จะให้น้องจำเฉพาะคอลัมน์ที่ 1 ที่พี่ไฮไลท์ไว้ให้ ซึ่งพี่ขอเรียกว่าเป็นตัวแม่ของโครงสร้างโมเลกุลทุกรูปแบบ ถ้าน้องจำได้เฉพาะตัวแม่ น้องจะสามารถทำโจทย์เรื่องโครงสร้างโมเลกุลได้ทุกข้อและทำได้ถูกต้องแน่นอน โดยรูปร่างโมเลกุลแต่ละแบบ จะมีชื่อเรียกตามพี่ที่เขียนไว้ให้ในแต่ละช่องเลยครับ
4. ข้อสุดท้าย คือ การใช้กฎบน-ล่าง ซึ่งหลักการของกฎนี้คือ ให้น้องนำ General Formula ที่เราได้จากข้อ 2 มาเทียบกับโครงสร้างตัวแม่ ว่าตรงกับตัวแม่ตัวไหน โดยนำ n+m จาก General Formula มารวมกัน แล้วเทียบดูกับตัวแม่ที่มีเลข n เท่ากับ n+m ของ General Formula หลังจากนั้นให้น้องค่อยๆหักขาของโครงสร้างโมเลกุลออกทีละขา โดยใช้กฎบน-ล่าง คือ เริ่มหักขาแรกจากด้านบน ต่อมาหักขาล่าง และสลับบน-ล่างไปเรื่อยๆ โดยจำนวนครั้งที่หักก็คือจำนวน lone pair นั่นเองครับ คราวนี้น้องก็จะได้รูปร่างโมเลกุลที่น้องต้องการ และนำความรู้นี้ไปทำข้อสอบกันได้แล้วครับ

เรามาดูตัวอย่างกันดีกว่าครับ
Example 1 จากโจทย์ให้หา Molecular Geometry ของ NF3
- Step 1 ให้น้องวาดโครงสร้างลิวอิสของ NF3 จะได้โครงสร้างตามภาพ
- Step 2 เขียน General Formula โดยดูจากโครงสร้างลิวอิสที่เราวาดมา จะได้ n= 3 นั่นคือจำนวนอะตอมรอบๆอะตอมกลาง ซึ่งก็คือ F ทั้ง 3 ตัวนั่นเองครับ และ m=1 นั่นคือจำนวน lone pair electron 1 คู่ ที่เหลืออยู่ของอะตอมกลาง (N) ดังนั้นจะได้ General Formula คือ AX3E1
- Step 3 เมื่อ AX3 E1 ให้เรากลับไปดูตัวแม่ที่ AX4 ซึ่งมีโครงสร้างเป็นรูป tetrahedral ตามภาพ
- Step 4 ให้หักขาของโครงสร้าง tetrahedral ออก 1 ขา เนื่องจาก Em=1 ซึ่งต้องเริ่มหักจากขาบนก่อน ตามกฎบน-ล่าง แล้วเราจะได้ trigonal pyramidal ตามภาพเป็นคำตอบ
Example 2 จากโจทย์ให้หา Molecular Geometry ของ XeCl4
- Step 1 ให้น้องวาดโครงสร้างลิวอิสของ XeCl4 จะได้โครงสร้างตามภาพ
- Step 2 เขียน General Formula โดยดูจากโครงสร้างลิวอิสที่เราวาดมา จะได้ n= 4 นั่นคือจำนวนอะตอมรอบๆอะตอมกลาง ซึ่งก็คือ Cl ทั้ง 4 ตัวนั่นเองครับ และ m=2 นั่นคือจำนวน lone pair electron 2 คู่ ที่เหลืออยู่ของอะตอมกลาง (Xe)
- ดังนั้นจะได้ General Formula คือAX4E2
- Step 3 เมื่อ AX4E2 ให้เรากลับไปดูตัวแม่ที่ AX6 ซึ่งมีโครงสร้างเป็นรูป octahedral ตามภาพ
- Step 4 ให้หักขาของโครงสร้าง octahedral ออก 2 ขา เนื่องจาก Em=2 ซึ่งต้องเริ่มหักจากขาบน 1 ขาก่อน แล้วตามด้วยขาล่าง 1 ขา ตามกฎบน-ล่าง แล้วเราจะได้ square planar ตามภาพเป็นคำตอบ

คราวนี้ เรามาลองทำโจทย์กันดีกว่าครับ ซึ่งครูธงขอเก็งว่าข้อสอบเรื่อง Molecular Geometry แบบนี้น่าจะออกสอบ BMAT ในครั้งหน้า เนื่องจากข้อสอบแบบนี้ยังไม่เคยออกใน BMAT มาก่อน และ BMAT ไม่ค่อยออกข้อสอบซ้ำแนวเดิมครับ น้องๆค่อยๆอ่านโจทย์แล้วลองทำไปพร้อมๆกันครับ

มาดูเฉลยกันเลยครับ
CCl4
General Formula คือ AX4 เนื่องจาก CCl4 ไม่มี lone pair electron เหลืออยู่เลย ดังนั้นจึงไม่ต้องมีการหักขาออก ดังนั้นโครงสร้างของ CCl4 คือ tetrahedral ตามภาพเป็นคำตอบ
XeF4
General Formula คือ AX4E2 ต่อมาต้องกลับไปดูโครงสร้างตัวแม่ คือ AX6 ซึ่งมีโครงสร้างเป็น octahedral และให้หักขาของโครงสร้าง octahedral ออก 2 ขา เนื่องจาก Em=2 ซึ่งต้องเริ่มหักจากขาบนก่อน ตามกฎบน-ล่าง แล้วเราจะได้ square planar ตามภาพเป็นคำตอบ
BH3
General Formula คือ AX3เนื่องจาก BH3 ไม่มี lone pair electron เหลืออยู่เลย ดังนั้นจึงไม่ต้องมีการหักขาออก ดังนั้นโครงสร้างของ BH3 คือ trigonal planar ตามภาพเป็นคำตอบ
SF4
General Formula คือ AX4E1 ต่อมาต้องกลับไปดูโครงสร้างตัวแม่ คือ AX5 ซึ่งมีโครงสร้างเป็น trigonal bipyramidal และให้หักขาของโครงสร้าง trigonal bipyramidal ออก 1 ขา เนื่องจาก Em=1 ซึ่งต้องเริ่มหักจากขาบนก่อน ตามกฎบน-ล่าง แล้วเราจะได้ seesaw ตามภาพเป็นคำตอบ
CH2O
General Formula คือ AX3 เนื่องจาก CH2O ไม่มี lone pair electron เหลืออยู่เลย ดังนั้นจึงไม่ต้องมีการหักขาออก ดังนั้นโครงสร้างของ CH2O คือ trigonal planar ตามภาพเป็นคำตอบ
CCl2O
General Formula คือ AX3 เนื่องจาก CCl2O ไม่มี lone pair electron เหลืออยู่เลย ดังนั้นจึงไม่ต้องมีการหักขาออก ดังนั้นโครงสร้างของ CCl2O คือ trigonal planar ตามภาพเป็นคำตอบ
ดังนั้น สารประกอบที่มีรูปร่างโมเลกุลเป็น trigonal planar มีทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่ BH3 , CH2O และ CCl2O ตอบข้อ D

สุดท้ายนี้ ครูธงขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนในการเตรียมตัวสอบ BMAT และทำตามฝันให้สำเร็จ ส่วนน้องๆคนไหนที่ยังมีข้อสงสัยในวิชา Chemistry อยู่ สามารถเข้ามาที่ Ignite by Ondemand เพื่อพูดคุยปรึกษากับครูธงได้ตลอดเลยนะครับ แล้วเจอกันครับ
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
ไขความลับ BMAT Writing เขียนยังไงให้ปัง!
สวัสดีครับน้องๆ วันนี้พี่กั๊ก Ignite by OnDemand จะขอมาแชร์สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็น Pain ของหลายคนมากๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ BMAT ใน Part3 : Writing Task มีคนถามพี่มาว่า พี่! จะเอายังไงดี เพราะว่า BMAT Writing กับเวลาที่มีอยู่มันยากเหลือเกิน ขอคำแนะนำหน่อย น้องครับหลายๆ คนคงรู้ว่าปัญหาของ BMAT นอกจากการเขียนแล้ว ยังเป็นเรื่องของเวลาที่จำกัด เพราะเรามีเวลาแค่ 30 นาทีในการเขียน BMAT 1 คำถามของ Writing ให้เสร็จครับ ดังนั้น วันนี้พี่กั๊กขอมาแนะนำนะครับว่า เราจะจัดการกับ 30 นาทีนั้นยังไง ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับข้อสอบ BMAT Writing กันก่อนครับ ทำความเข้าใจกับข้อสอบ BMAT Writing Task (Part3) BMAT Writing เป็นหนึ่งใน 3 Part […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
UCAT คืออะไร? ชวนรู้จักข้อสอบวัดความถนัด สู่คณะแพทย์-ทันตะใน UK
UCAT ข้อสอบวัดความถนัด คณะแพทย์-ทันตะใน UK วันนี้พี่แอดมินจะชวนน้องๆ มาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งข้อสอบเฉพาะทางสัญชาติ UK ที่ปัจจุบันถูกใช้ในการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อคณะแพทย์และทันตแพทย์ในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ต้องบอกว่าข้อสอบ UCAT เป็น 1 ใน 2 การทดสอบหลักที่ได้รับการยอมรับจากสมาคมมหาวิทยาลัย UK แต่น่าเสียดายที่ BMAT กำลังจะถูกยกเลิกการสอบในช่วงปลายปี 2023 UCAT คืออะไร? UCAT ย่อมาจาก University Clinical Aptitude Test ซึ่งเป็นชื่อที่ถูกเปลี่ยนใหม่เมื่อปี 2019 จากเดิมนั้นใช้ชื่อว่า UKCAT หรือ UK Clinical Aptitude Test เป็นการทดสอบความถนัดทางคลินิก ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการศึกษาต่อในหลักสูตรที่เกี่ยวกับการแพทย์และทันตแพทย์ แม้จะมีการปรับชื่อการทดสอบใหม่ แต่เนื้อหาการสอบนั้นยังคงเดิม รูปแบบของข้อสอบ UCAT ข้อสอบ UCAT เป็นข้อสอบแบบปรนัยทั้งหมด แบ่งออกเป็น 4 parts (Update 2025) 1.Verbal Reasoning […]
Comments (0)
-
Blog, SAT Subject Tests
รีวิวสอบเข้า ISE จุฬาฯ ด้วย SAT Subject Tests จากน้องโน้ต กรุงเทพคริสเตียน
สวัสดีน้องๆ ที่อยากสอบเข้า ISE หรือ คณะวิศวะอินเตอร์ จุฬาฯ ทุกคนนะครับ!! วันนี้พี่แอดมินพาพี่โน้ต รุ่นพี่ ignite ที่สอบติด ISE จุฬาฯ ปีล่าสุด มารีวิวการสอบเข้าวิศวะอินเตอร์ ด้วยคะแนน SAT Subject Tests เพื่อให้น้องๆ ได้ทราบว่าข้อสอบแต่ละวิชามีความยากง่ายอย่างไร ควรเตรียมตัววิชาไหนก่อนและเคล็ดลับการสอบติดจากพี่โน้ต เพื่อให้น้องๆ ทุกคนใช้เป็นแนวทางการเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องนะครับ เคล็ดลับเตรียมตัวให้สอบติด ISE จุฬาฯ สำหรับพี่คิดว่าการเริ่มเตรียมตัวสอบเข้า ISE ตอน ม.5 เทอม 1 เป็นการเริ่มต้นที่ดีนะครับ ไม่ช้าเกินไป ยังพอมีเวลาเหลือให้เราสามารถไปทำกิจกรรมอย่างอื่นได้อีกด้วย ถ้าเริ่มต้นเตรียมตัวตอน ม.6 อาจจะทำให้เราเหนื่อยจนไม่ค่อยมีเวลาไปทำอย่างอื่นและถ้ายังไม่ได้คะแนนที่ต้องการในรอบแรก ก็จะมีเวลาแก้ตัวน้อยลงอีกด้วยนะครับ ยิ่งถ้าน้องๆ รู้ตัวและตั้งป้าหมายว่าจะเข้า ISE ตั้งแต่ ม.4 ยิ่งจะทำให้เราเตรียมตัวได้ไว เผลอๆ […]
Comments (0)
-
Blog
เทคนิคการเลือกวิชา IGCSE, A-Level ให้ได้คณะในฝัน
การเลือกวิชาใน IGCSE และ A-Level นั้นถือว่าสำคัญมากๆ เพราะเป็นการกำหนดอนาคตที่ใช้ยื่นคะแนนเข้าคณะในฝันของนักเรียนทุกคนที่เรียนหลักสูตรอังกฤษ เพราะหลักสูตรนี้ถือว่าได้รับการยอมรับในสากลจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก นักเรียนหลายคนมักจะสับสนว่าควรเลือกวิชาที่ชอบ หรือวิชาที่จำเป็นดีกว่า ดังนั้นวันนี้พี่ๆ ignite จะมาแนะนำเทคนิคการเลือกแบบเข้าใจง่ายๆ ให้น้องๆ กันครับ ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย !! ทำความรู้จักหลักสูตร IGCSE vs A-Level จากภาพด้านบน กล่าวได้ว่า IGCSE นั้นคือหลักสูตร 2 ปีสำหรับน้องๆ Year 10-11 ที่เป็นการเตรียมปูพื้นฐานวิชาให้มีองค์ความรู้รอบด้านและแน่นพอที่จะเลือกเรียนวิชาในขั้นสูงกว่า หรือการทำ A-Level อีกสองปี เพื่อยื่นคะแนนทั้ง 3 วิชานี้เข้ามหาวิทยาลัยที่น้องๆ ต้องการ ต่อมาเรามาดูกันว่าเราควรเลือกเรียนวิชาอะไรให้ตรงกับคณะที่เราต้องการเข้าศึกษาต่อ มาเริ่มกันที่หลักสูตรแรกนั้นก็คือ IGCSE เทคนิคการเลือกวิชา IGCSE โดยวิชาที่น้องๆ สามารถสอบได้ใน IGCSE นั้นแบ่งออกเป็น […]
Comments (0)
Comments