สรุปทุกข้อสงสัยเลือกสอบแบบไหนดี ระหว่าง CU TEST Paper – Based Test VS CU TEST E-Testing
สวัสดีครับว่าที่น้องๆ ISE วิศวะอินเตอร์ จุฬา ทุกคน พี่เชื่อว่าหลายคนใช้คะแนน CU-ATS & CU-AAT ในการยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่คงมีข้อสงสัยว่า แล้วมันต่างกันอย่างไร จะเลือกสอบ CU TEST แบบไหนดี วันนี้ พี่อิ้งค์ เลยมารีวิวและสรุปความแตกต่างของการสอบทั้ง 2 แบบ ว่ามีความเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้น้องๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะ เลือกสอบ CU TEST แบบ Paper – Based Test หรือแบบ E-Testing แบบไหนที่เหมาะสมกับเราและตอบโจทย์มากที่สุดครับ
สรุปสิ่งที่เหมือนกันของการสอบ CU-TEST ทั้งแบบ Paper - Based Test VS E-Testing
อย่างแรก เรามาพิจารณากันที่ความเหมือนกันของการสอบทั้ง 2 แบบก่อนนะครับ ไม่ว่าน้องๆ จะเลือกสอบ CU-TEST แบบกระดาษ หรือ สอบแบบคอมพิวเตอร์ ตัวชุดข้อสอบ รูปแบบคำถาม เรื่องที่ออกสอบ รวมถึงระดับความยากของข้อสอบ เหมือนกันแน่นอน 100 % ครับ ในส่วนนี้น้องๆ หายห่วงได้เลยว่าชุดข้อสอบจะไม่ตรงกัน นอกจากนี้ ในเรื่องของเวลาที่ใช้ในการทำข้อสอบ หรือ การคิดคะแนนสอบก็อิงตามระเบียบการของทางจุฬาเหมือนกันทั้งสองแบบเลยครับ คือ ใช้เวลาในการสอบ 2 ชั่วโมง และคะแนนเต็มอยู่ที่ 1600 คะแนน ตอบถูกได้คะแนน ตอบผิดไม่มีการหักคะแนนครับ
สรุปสิ่งที่แตกต่างของการสอบ CU-TEST ทั้งแบบ Paper - Based Test VS E-Testing
เมื่อเรารู้สิ่งที่เหมือนกันแล้ว ต่อมาเรามาดูความแตกต่าง ของการสอบทั้ง 2 ประเภท กันครับ เริ่มที่
- ราคา: การสอบ CU-TEST แบบ Paper-Based Test จะมีราคาถูกกว่าการสอบแบบ E-Testing เกือบเท่าตัว คือ
จะอยู่ที่ราคา 1000 บาท สำหรับสอบ CU-ATS และ 1300 บาท สำหรับสอบ CU-AAT ในขณะที่การสอบแบบ
E-Testing จะอยู่ที่ 2600 บาท สำหรับสอบ CU-ATS และ 2900 บาท สำหรับสอบ CU-AAT น้องๆ จะเห็นได้เลยว่า ราคาต่างกันแบบชัดเจน จะเลือกสอบแบบไหนพิจารณาดีๆนะครับ - ผลการสอบ: ข้อดีของการสอบ แบบ E-Testing คือ ผลสอบจะออกทันทีหลังจากที่กด submit คำตอบ หรือพูดง่ายๆว่า รู้หลังจากที่สอบเสร็จเลยครับ แต่ถ้าสอบ แบบ Paper – Based Test ผลการสอบจะออกหลังสอบไม่เกิน 2 อาทิตย์นับจากวันที่สอบ ดังนั้นถ้าน้องคนไหน จำเป็นต้องใช้คะแนนแบบเร่งด่วน พี่ก็แนะนำให้เลือกสอบแบบ E-Testing ครับ
- สิ่งแวดล้อมอื่นๆ: สิ่งที่ต่างแบบแน่นอนคือ ความคุ้นชินของการทำข้อสอบ แบบกระดาษ และแบบคอมพิวเตอร์ แน่นอนว่า experience ของทั้งสอบแบบย่อมต่างกัน อย่างเช่น ถ้าน้องๆเป็นสายเน้น ขีดเขียนลงบนข้อสอบ การสอบแบบ Paper-Based Test น่าจะตอบโจทย์มากกว่า เนื่องจาก ถ้าสอบแบบ E–Testing เราจะไม่สามารถทดลงบนตัวโจทย์ได้ แต่ทางศูนย์สอบ จะแจกกระดาษทดและดินสอมาให้ เราสามารถทดและขีดเขียนเองได้ น้องๆสบายใจได้เลยครับ
3 Factors ช่วยตัดสินใจว่าจะเลือกสอบแบบไหนดี
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้แล้ว น้องๆ คนไหนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกสอบแบบไหนดี พี่อิ้งค์ขอแนะนำให้น้องๆ ลองพิจารณา 3 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้ครับ
- Budget: หากน้องๆ ไม่ได้กังวลในเรื่องของค่าสอบที่ต่างกันเท่าตัว ก็เลือกสอบแบบ E–Testing ได้เลยครับ
- ความคุ้นชินในการสอบ: หากน้องๆ มีความชอบขีดเขียนหรือทดในตัวข้อสอบ หรือไม่ชอบนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ พี่ก็จะแนะนำให้สอบแบบ Paper-Based Test มากกว่า หรือหากใคร ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของการที่ต้องทดลงไปในข้อสอบและถนัดการใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า ก็เลือกสอบแบบ E-Testing ได้เลยครับ
- ระยะเวลาที่ใช้ผลสอบ: หากน้องๆคนไหนมีความจำเป็นที่ต้องใช้คะแนนสอบแบบเร่งด่วน ก็แนะนำให้สอบ แบบ E-Testing เลยครับ
จาก 3 Factors ที่ได้กล่าวไป ส่วนตัวพี่อิ้งค์ค่อนข้างให้น้ำหนักกับข้อสุดท้ายมากที่สุด คือการสอบไม่ต่างกันมาก ระบบคอมเข้าใจไม่ยาก เลือกสอบแบบไหนก็ได้ แต่ถ้าใครอยากรู้คะแนนเพื่อใช้ยื่นทันที ก็แนะนำสอบแบบคอมพิวเตอร์เลยครับ
ตารางสอบ CU-ATS & CU-AAT
โดยปกติแล้วรอบสอบของทั้ง CU-ATS & CU-AAT จะมีการจัดสอบประมาณ 5-6 ครั้งต่อปี ได้แก่ช่วงต้นปี
มกราคม – มีนาคม ช่วงกลางปีในเดือนกรกฏาคม และช่วงปลายปีในเดือนตุลาคมและธันวาคม แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ในปีนี้จะเหลือรอบสอบติดกันในช่วง ธันวาคมสองรอบ คือ 11 ธันวา และ 18 ธันวาคม 2564
น้องๆสามารถติดตามปฏิทินการจัดสอบประจำปีได้ที่ : http://www.atc.chula.ac.th/th_html/th_tep.html
รวมคอร์สสด CU-ATS & CU-AAT 2022
หวังว่าบทความนี้จะสามารถตอบข้อสงสัยและทำให้น้องตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าเราเหมาะกับการสอบแบบไหนมากกว่ากันนะครับ
สำหรับน้องๆ คนไหนที่แพลนว่าจะสอบปีหน้าทาง ignite by OnDemand ของเรามีคอร์สสดปี 2022 มาอัพเดทก่อนใคร ไม่ว่าจะสายทบทวนเนื้อหาอัดแน่น หรือจับเวลา ตะลุยโจทย์ข้อสอบอัพเดทล่าสุด เรียนจบพร้อมสอบแน่นอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มทางได้ทาง Line @ignitebyondemand หรือโทร 091-576-1475
สามารถเข้าดูรายละเอียดคอร์สเรียน CU-ATS & CU-AAT เพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/cu-aat-cu-ats/
ช้อปคอร์สเรียน CU-ATS & CU-AAT ออนไลน์ ด้วยตัวเองผ่าน Shop Online >> https://shop.ignitebyondemand.com/catalog/category/view/s/cu-test/id/628/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
คู่มือสำหรับพ่อแม่ อยากให้ลูกติดหมอ ตั้งแต่ TCAS รอบแรก ต้องใช้อะไรบ้าง
สวัสดีคุณพ่อคุณแม่ทุกที่อยากให้ลูกๆเป็นหมอทุกท่านนะครับ…วันนี้ ignite จะขอมาแนะนำการ สอบเข้าคณะแพทย์ TCAS รอบ 1 หรือที่ผู้ปกครองหลายๆ ท่านจะคุ้นหูกับคำว่า “แพทย์รอบ Portfolio” ซึ่งมีมหาวิทยาลัยที่เปิดรับ เช่น แพทย์จุฬาฯ แพทย์รามาฯ แพทย์ม.ขอนแก่น แพทย์ม.เชียงใหม่และอีกมากมายโดยวันนี้ ignite จะมาแนะนำข้อมูลสำคัญที่จะทำให้ลูกๆ ของคุณพ่อคุณแม่สอบติดหมอก่อนใครตั้งแต่ TCAS รอบแรก…ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเลย !! สอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ต้องใช้อะไรบ้าง GPAX หรือเกรดเฉลี่ยสะสม สิ่งที่จำเป็นต่อการ สอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio อย่างแรกคือ GPAX หรือเกรดเฉลี่ยสะสม โดยส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยจะกำหนดให้ใช้เกรดรวมทั้งหมด 4-5 เทอมด้วยกัน แต่จะมีเกณฑ์เกรดเฉลี่ยสะสมแตกต่างกันออกไปตามความต้องการของแต่ละคณะ แต่ต้องเรียนคุณพ่อคุณแม่ว่าหากลูกของท่านมี GPAX ตั้งแต่ 3.50 ขึ้นไป น้องๆ จะมีโอกาสในการยื่นเข้าคณะแพทย์รอบ 1 ได้ทุกมหาวิทยาลัย […]
Comments (0)
-
Blog, GED
GED Math & Science สองวิชาสำคัญ ช่วยอัพ Total Score
สวัสดีค่ะน้องๆ กลับมาพบกับพี่หมิง Ignite อีกครั้ง วันนี้พี่หมิงก็มีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับ GED มาฝากอีกเช่นเคยค่ะ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากใช้คะแนน GED เทียบวุฒิเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยก็คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าหลายๆ คณะมักจะกำหนดคะแนนรวม (Total Score) ขั้นต่ำที่น้องๆ ต้องทำได้ถึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัครเข้าคณะนั้นๆ เช่น CU-TU กำหนดคะแนน GED ขั้นต่ำที่ 660 คะแนน, MUIC กำหนดที่ 600 คะแนน เป็นต้น ดังนั้น นอกจากน้องๆ จะโฟกัสที่การสอบรายวิชาแล้ว อีกเรื่องที่ต้องคำนึงคือคะแนนรวม และสองวิชาที่ครูหมิงขอบอกเลยว่าเป็นตัวช่วยดึงคะแนนรวมที่ดีมากๆ ให้กับน้องๆ ก็คือ GED Mathematical Reasoning และ GED Science ค่ะ ก่อนอื่นเรามาเจาะลึกดูรายละเอียดของแต่ละวิชากันก่อนนะคะ GED Mathematical Reasoning ข้อมูลที่ต้องรู้ GED Mathematical Reasoning 1.ข้อสอบมี […]
Comments (0)
-
Blog
เจาะลึก 2 วิชายาก IGCSE Chemistry & Biology กับครูเกมและครูเวิลด์
นับถอยหลังอีกเพียง 4 เดือนสู่การสอบ IGCSE รอบตุลาคมสำหรับน้องๆ ระบบการศึกษานานาชาติ การสอบครั้งนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญเลยทีเดียว เพราะน้องๆ ต้องนำคะแนนเหล่านี้ไปใช้ศึกษาต่อวิชาที่ต้องการในระดับ A-Level และอาจต้องใช้ยื่นควบคู่กันในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในอนาคตอีกด้วย วันนี้พี่ๆ Ignite เลยจะพาน้องๆ มาเจาะลึก 2 วิชายาก IGCSE Chemistry & Biology กับครูพี่เกมและครูพี่เวิลด์ ผู้ที่มีประสบการณ์แน่นในการสอนน้องๆ หลักสูตรอินเตอร์ เพื่อที่จะได้รีบเตรียมตัวคว้าคะแนน A* กันถ้วนหน้า เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า! เจาะลึกข้อสอบ IGCSE Chemistry จุดไหนยากสุด? ครูพี่เกมต้องขออธิบายก่อนว่า ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงความยากของ IGCSE Chemistry นั้น น้องๆ อาจจะต้องดูก่อนว่าข้อสอบที่น้องๆ จะเจอนั้นมาจากบอร์ดไหน CIE (Cambridge) หรือ Pearson Edexcel ถึงเเม้ว่าทั้ง 2 […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
เตรียมตัวอย่างไรให้พิชิต BMAT Biology โดย ครูเคนจิ
สวัสดีครับน้องๆ ว่าที่น้องหมอทุกๆ คน พี่เคนจิ สอนวิชา BMAT Biology ให้ครับ ignite by OnDemand อยากมาแชร์เทคนิคที่หลายๆคนสงสัยว่าจะ เตรียมตัวทำข้อสอบ BMAT Biology ยังไง? ให้ทำได้ครบ ทำได้ทัน และมั่นใจในทุกคำตอบ พี่เคนจิ ได้ไกด์แนวทางในการเตรียมตัวให้น้องๆ ไว้แล้วเริ่มอ่านกันได้เลย เทคนิคเตรียมตัวสอบ BMAT Biology โดยครูเคนจิ 1. ทำความเข้าใจ specification ทำความเข้าใจ specification ให้ดีว่าเราต้องรู้อะไรบ้าง เพราะสิ่งที่เราต้องรู้ในแต่ละปีอาจจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ใช้ตัว specification เป็น checklist ดูว่าเรารู้ทุกอย่างครบถ้วนดีแล้วหรือยัง ข้อสอบจะชอบออกเนื้อหาใหม่ที่เพิ่งเพิ่มเข้าไป 2. ทำโจทย์ BMAT เยอะๆ ทำโจทย์เยอะ ๆ เพื่อให้คุ้นเคยกับแนวคำถาม เพราะโจทย์ทั้งยาวและชอบดักทางเรา โดยการใช้คำที่มักทำให้ความหมายของประโยคเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง อย่างเช่น only, could be กับ must […]
Comments (0)
Comments