เรียน EP อยู่แล้วต้องเรียนภาษาอังกฤษเสริมอีกมั้ย ?

สวัสดีค่ะ พี่แนนจาก ignite นะคะ มีคำถามนึงที่ช่วงนี้พี่แนนได้ยินบ่อยมากๆ จากทั้งคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ ม.ต้นที่เรียน EP มาว่า “เรียน EP อยู่แล้ว ยังต้องเรียนภาษาอังกฤษเสริมอยู่มั้ย” เพราะตามที่คุณพ่อคุณแม่เข้าใจคือหลักสูตรนี้เน้นภาษาอังกฤษอยู่แล้วน่าจะไม่ต้องทำอะไรมากมาย
Academic English ปัญหาสำคัญของน้อง EP

EP หรือ English Program เป็นทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่นักเรียนทั้ง ม.ต้น และ ม.ปลาย เพราะเรารู้กันอยู่แล้วว่าภาษาอังกฤษมีความสำคัญขนาดไหนในปัจจุบัน ซึ่งขึ้นชื่อว่า English Program ความคาดหวังจากทั้งผู้ปกครองเองที่อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ หรือความคาดหวังของตัวผู้เรียนเองก็ย่อมสูงขึ้นเป็นธรรมดา แต่การจะบอกว่าเราเรียน EP แล้วไม่จำเป็นต้องฝึกหรือเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมนอกห้องเรียนเลย ถือว่ายังเป็นสิ่งที่เข้าใจผิดอยู่ค่ะ
โครงการ EP ในหลายโรงเรียนจะเน้นเสริมการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษลงไปก็จริง แต่โอกาสที่น้องๆ จะได้สื่อสารกับชาวต่างชาติก็มีน้อยกว่าการเรียนอินเตอร์ และอีกปัญหาที่พี่แนนมองว่าสำคัญมากๆ เลยคือเรื่องของ Academic English หรือการใช้ภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการที่มักถูกลดความสำคัญลง เพราะหลักสูตรหันไปโฟกัสที่การ “สื่อสารได้” มากกว่าการ “สื่อสารอย่างถูกหลักภาษา” ซึ่งจะมีผลมากเมื่อน้องๆ โตขึ้นและต้องทำการสอบวัด English Proficiency เพื่อเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไป เหมือนเคสของน้องที่พี่เจอนั่นเอง
แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ พี่แนนยังคงยืนยันว่าการเรียนโครงการ EP เป็นแต้มต่อของน้องๆ ในเรื่องของภาษาอังกฤษจริงค่ะ แต่ถ้าอยากใช้งานได้ดียิ่งขึ้นและเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนในระดับที่สูงขึ้นไป น้องๆ ต้องไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง พี่แนนเชื่อว่าไม่ว่าความฝันอะไรก็ไม่ยากเกินความสามารถของเราแน่นอนค่ะ และวันนี้พี่แนนมีเคล็ดลับฝึกภาษาง่ายๆ มาฝากด้วยนะ ไปดูกันเลยค่ะ
เคล็ดลับฝึกภาษาอังกฤษ สำหรับน้อง ม.ต้น EP

โดยพี่แนนขอให้เทคนิคเคล็ดลับให้น้องๆ ลองไปปรับใช้ฝึกภาษาอังกฤษกัน 3 วิธี
1. Choose English
เริ่มจากการปรับชีวิตประจำวันของเราให้คลุกคลีกับภาษาอังกฤษมากขึ้น เช่นจากที่ชอบดูซีรี่ย์แต่เปิดเสียงไทย ก็ให้เปลี่ยนมาเป็นการฟังเสียงอังกฤษ และเปิด Subtitle ภาษาอังกฤษดู เริ่มจากซีรี่ย์หรือหนังที่พล็อตไม่ซับซ้อนมาก แล้วค่อยๆ ขยับระดับความยากขึ้น เปลี่ยนมาฟังแนวเพลงสากลมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยในเรื่องของการฟัง การออกเสียง รวมทั้งสำนวนการพูดของเราให้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากขึ้น ใครที่ชอบอ่านอาจจะลองเปลี่ยนจากนิยายไทย มาเป็นนิยายภาษาอังกฤษเพื่อขยายคลังคำศัพท์ของตัวเองค่ะ
2. Learn the Basics
พูดถึงเบสิคแล้วอย่าเพิ่งหันหน้าหนีกันนะคะ พี่แนนอยากบอกว่า การเรียนรู้หลัก Grammar พื้นฐานเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะภาษาอังกฤษที่เราพูดกันด้วยความเคยชินก็ไม่ได้ถูกหลักภาษาเสมอไป เผลอเอาไปใช้ในห้องเรียนหรือสนามสอบขึ้นมาก็อาจถูกหักคะแนนไปได้ง่ายๆ เลยค่ะ ดังนั้น ถ้าเราอยากต่อยอดไปสู่ Academic English และการทำแบบทดสอบวัด English Proficiency ในระดับที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น TOEFL ITP, IELTS, SAT Reading and Writing หรือแม้แต่การสอบในห้องเรียนก็ตาม เรื่อง Grammar นี่พลาดไม่ได้เลยค่ะ
3. Meet the Experts
สุดท้ายนี้ ถ้าใครที่รู้สึกว่าการฝึกฝนด้วยตัวเองไม่ค่อยได้ผล ก็อาจจะหาตัวช่วยที่จะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษของเราง่ายขึ้นและสนุกขึ้น การเรียนพิเศษจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้น้องๆ มุ่งสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้เร็วและง่ายชึ้น ไม่มีใครบอกว่าเราจะ “ต้อง” เรียน แต่จากประสบการณ์พี่แนน การเรียนเสริมคือการมาต่อยอดและติดอาวุธเพิ่มเติม มาเจอผู้สอนที่ผ่านสนามสอบมาก่อนก็จะช่วยให้พัฒนาไปได้ไวขึ้นและเรียนเน้นเฉพาะส่วนที่จำเป็นต้องรู้จริงๆ แบบทดสอบในปัจจุบันมักต้องการวัดความสามารถในการใช้ภาษาในภาพรวม ซึ่งสิ่งนี้ต้องอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝน โรงเรียนกวดวิชาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น้องหลายคนเลือกเป็นตัวช่วย เพื่อให้สามารถทำคะแนนสอบได้ดีและทำตามฝันในอนาคตได้
เพราะฉะนั้นสำหรับผู้ปกครองคนไหน ที่ยังลังเลว่าเราจะต้องให้ลูกหลานเราเรียนพิเศษภาษาอังกฤษอยู่มั้ย หรือน้องๆ คนไหนที่กำลังไม่แน่ใจว่าจะต้องเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมมั้ย พี่แนนให้คำตอบตรงนี้เลยว่า การฝึกฝนภาษาอังกฤษเสริมนอกห้องเรียนเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว การเรียนพิเศษก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาทักษะภาษาของน้องๆ แบบก้าวกระโดดเหมือนจรวดที่จะช่วยพาน้องๆ ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้ง่ายขึ้นและมั่นใจได้มากขึ้นค่ะ
คอร์สเรียน English Level Up ออนไลน์
คอร์สเรียน English Level-Up สำหรับน้อง ม.ต้น EP ออนไลน์ ที่สามารถเข้าเรียนได้ผ่านระบบ Anywhere ให้น้องๆ สามารถเตรียมตัวได้เองผ่านมือถือ ไอแพด หรือคอมพิวเตอร์ของน้องๆ เองได้เลย พร้อมถ้าคุณพ่อคุณแม่ หรือน้องมีข้อสงสัยอยากให้ช่วยแนะแนวก็สามารถเข้ากลุ่ม Line EP/Inter ม.ต้น หรือคลิก https://bit.ly/2MHVbNW มาพูดคุยกันได้เลยค่ะ
สามารถดูรายละเอียดคอร์สเรียน ม.ต้น EP เพิ่มเติมได้ที่ >> https://bit.ly/3oofX37
ซื้อคอร์สเรียน ม.ต้น EP ออนไลน์ ได้ที่ >> https://bit.ly/3hOHFDA
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
คู่มือสำหรับพ่อแม่ อยากให้ลูกติดหมอ ตั้งแต่ TCAS รอบแรก ต้องใช้อะไรบ้าง
สวัสดีคุณพ่อคุณแม่ทุกที่อยากให้ลูกๆเป็นหมอทุกท่านนะครับ…วันนี้ ignite จะขอมาแนะนำการ สอบเข้าคณะแพทย์ TCAS รอบ 1 หรือที่ผู้ปกครองหลายๆ ท่านจะคุ้นหูกับคำว่า “แพทย์รอบ Portfolio” ซึ่งมีมหาวิทยาลัยที่เปิดรับ เช่น แพทย์จุฬาฯ แพทย์รามาฯ แพทย์ม.ขอนแก่น แพทย์ม.เชียงใหม่และอีกมากมายโดยวันนี้ ignite จะมาแนะนำข้อมูลสำคัญที่จะทำให้ลูกๆ ของคุณพ่อคุณแม่สอบติดหมอก่อนใครตั้งแต่ TCAS รอบแรก…ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเลย !! สอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ต้องใช้อะไรบ้าง GPAX หรือเกรดเฉลี่ยสะสม สิ่งที่จำเป็นต่อการ สอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio อย่างแรกคือ GPAX หรือเกรดเฉลี่ยสะสม โดยส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยจะกำหนดให้ใช้เกรดรวมทั้งหมด 4-5 เทอมด้วยกัน แต่จะมีเกณฑ์เกรดเฉลี่ยสะสมแตกต่างกันออกไปตามความต้องการของแต่ละคณะ แต่ต้องเรียนคุณพ่อคุณแม่ว่าหากลูกของท่านมี GPAX ตั้งแต่ 3.50 ขึ้นไป น้องๆ จะมีโอกาสในการยื่นเข้าคณะแพทย์รอบ 1 ได้ทุกมหาวิทยาลัย […]
Comments (0)
-
Blog
ไขข้อสงสัย ความแตกต่างระหว่างหลักสูตร A-Level, IB, AP ในระบบการศึกษาแบบนานาชาติ
ในยุคที่โรงเรียนนานาชาติในไทยพากันผุดเป็นดอกเห็ด บรรดาผู้ปกครองและน้องๆ ก็อาจจะสับสนกับระบบและหลักสูตรต่างๆ ของ โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย ทำไมคนนั้นเรียน A-Level แล้ว ระบบ IB ละคืออะไร ทำไมบางโรงเรียนถึงเลือกได้ทั้งสองแบบ ในขณะที่บางโรงเรียนมีแค่ AP แล้วต้องสอบ SAT ด้วย ?? วันนี้พี่เอมี่และพี่แทนจะมาเล่าให้ฟังคร่าวๆ เกี่ยวกับความต่างของแต่ระบบวิชาในโรงเรียนกันค่ะ โดยหลักสูตรที่ popular ที่สุดในประเทศไทยคงจะหนีไม่พ้นหลักสูตรอังกฤษ ตามด้วยหลักสูตรอเมริกัน และ หลักสูตร IB ตามลำดับ ความแตกต่างระหว่างระบบการศึกษานานาชาติ หลักสูตรอังกฤษ – หลักสูตรอเมริกัน – หลักสูตร IB พอจะเห็นภาพความแตกต่างของระบบการศึกษาต่างๆ กันแล้วใช่ไหมคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ปกครองที่กำลังเลือกโรงเรียนให้บุตรหลาน หรือน้องๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ในระบบโรงเรียนนานาชาติต่างๆ ควรจะศึกษาหลักสูตรที่เหมาะกับความถนัดและความต้องการในการเรียนต่อในอนาคตมากที่สุดค่ะ […]
Comments (0)
-
Blog, SAT
รวมคำถามที่พบบ่อย การสมัครสอบ SAT ปี 2021
สวัสดีครับวันนี้พี่แอดมินพาพี่ภัทร์และพี่ข้าว #กูรูSAT มาเคลียร์ข้อสงสัยใน การสมัครสอบ SAT แบบใหม่ ที่จะใช้ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป เพื่อไม่ให้น้องๆ กังวลในการสมัครสอบ พวกเราเลยขอรวบรวมคำถามและปัญหาที่พบบ่อยๆ ไว้ที่นี่ที่เดียวกันไปเลย…พร้อมแล้วไปดูคำถามแรกสุดฮิตที่เป็นปัญหาของน้องๆ หลายคนจากพี่ภัทร์ กันก่อนเลยว่าเราควรสมัครสอบ SAT ที่ไหนถึงจะไม่โดนยกเลิก สมัครสอบ SAT ที่ไหนถึงจะไม่โดนยกเลิก by พี่ภัทร์ รวมคำถามที่พบบ่อย ในการสมัครสอบ SAT ปี 2021 Q : วิธีเปลี่ยนสนามสอบ SAT หลังจากที่สมัครทุกอย่างไปเรียบร้อยแล้ว A : เข้าไปที่ my sat > my registration> เลือกรอบที่ต้องการจะเปลี่ยน > กด I would like to…. > change registration (แต่ตอนนี้เหมือนระบบการเปลี่ยนสนามสอบจะเกิดขัดข้อง น้องๆอาจต้องลอง […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
เตรียมตัวอย่างไรให้พิชิต BMAT Biology โดย ครูเคนจิ
สวัสดีครับน้องๆ ว่าที่น้องหมอทุกๆ คน พี่เคนจิ สอนวิชา BMAT Biology ให้ครับ ignite by OnDemand อยากมาแชร์เทคนิคที่หลายๆคนสงสัยว่าจะ เตรียมตัวทำข้อสอบ BMAT Biology ยังไง? ให้ทำได้ครบ ทำได้ทัน และมั่นใจในทุกคำตอบ พี่เคนจิ ได้ไกด์แนวทางในการเตรียมตัวให้น้องๆ ไว้แล้วเริ่มอ่านกันได้เลย เทคนิคเตรียมตัวสอบ BMAT Biology โดยครูเคนจิ 1. ทำความเข้าใจ specification ทำความเข้าใจ specification ให้ดีว่าเราต้องรู้อะไรบ้าง เพราะสิ่งที่เราต้องรู้ในแต่ละปีอาจจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ใช้ตัว specification เป็น checklist ดูว่าเรารู้ทุกอย่างครบถ้วนดีแล้วหรือยัง ข้อสอบจะชอบออกเนื้อหาใหม่ที่เพิ่งเพิ่มเข้าไป 2. ทำโจทย์ BMAT เยอะๆ ทำโจทย์เยอะ ๆ เพื่อให้คุ้นเคยกับแนวคำถาม เพราะโจทย์ทั้งยาวและชอบดักทางเรา โดยการใช้คำที่มักทำให้ความหมายของประโยคเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง อย่างเช่น only, could be กับ must […]
Comments (0)
Comments