รีวิวสอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ด้วย SAT Subject Tests โดยน้องเกศ นานาชาติเปรม สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ UCL

สวัสดีน้องๆ ว่าที่หมอทุกคนนะครับ วันนี้พี่แอดมินขอพาพี่เกศ จากโรงเรียนนานาชาติเปรม ที่เพิ่งสอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ (PCCMS) – UCL ปีล่าสุด มาแนะนำการสอบเข้าแพทย์รอบ 1 (Portfolio) ด้วยคะแนน SAT Subject ซึ่งเป็นอีกวิธีที่น้องๆ โรงเรียนนานาชาติให้ความนิยมมากๆ เลย เพราะสามารถใช้ SAT Subject Tests แทนเกรดโรงเรียนที่ออกช้า หรือใช้แทนคะแนน BMAT ที่สอบได้แค่ปีละ 1 ครั้ง พี่มีรายชื่อคณะแพทย์ ที่สามารถใช้คะแนน SAT Subject Tests และการใช้คะแนนเพื่อยื่นเข้ามาให้น้องๆ ด้วยครับ
คณะแพทย์ TCAS รอบ 1 (Portfolio) ที่ใช้คะแนน SAT Subject Tests ยื่นเข้าได้
คณะที่ใช้ SAT Subject Tests เป็นคะแนนวิชาการ
- คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาภรณ์ (PCCMS) ร่วมกับ UCL
คณะที่ใช้ SAT Subject Tests แทนเกรดโรงเรียน
- คณะแพทย์รามาธิบดี หลักสูตรแพทยศาสตร์
- คณะแพทย์รามาธิบดี หลักสูตรแพทยศาสตร์ – วิศวกรรมชีวการแพทย์
- คณะแพทย์รามาธิบดี หลักสูตรแพทยศาสตร์ – การจัดการมหาบัณฑิต
- คณะแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
การใช้คะแนน SAT Subject Tests เพื่อยื่นเข้าแพทย์รอบ Portfolio

สำหรับการใช้คะแนน SAT Subject Tests เพื่อยื่นเข้าแพทย์รอบ Portfolio นั้น โดยส่วนใหญ่แล้วมหาวิทยาลัยมักจะกำหนดให้ใช้คะแนนใน 3 วิชา คือ
- SAT Subject Tests Biology
- SAT Subject Tests Chemistry
- SAT Subject Tests Math LV.2 หรือ SAT Subject Tests Physics
ทั้งนี้ SAT Subject Tests มีการจัดสอบมากกว่า 1 ครั้งใน 1 ปีและน้องๆ ยังสามารถคะแนนเก็บคะแนนไว้ใช้ได้นานถึง 2 ปีเลยนะครับ และในการสอบแต่ละครั้งน้องๆ ยังเลือกได้ว่าจะสอบกี่วิชา ซึ่งพี่เกศได้แนะนำว่าน้องๆ ควรเลือกสอบแค่ครั้งละ 2 วิชาจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะเราจะมีเวลาโฟกัสวิชาที่เราเลือกได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญน้องๆ ควรสอบ SAT Subject Tests ให้ครบทั้ง 4 วิชาเลย แล้วค่อยมาเลือกวิชาที่คะแนนดีที่สุด 3 วิชาเพื่อใช้ยื่นจริง
นอกจากนี้พี่เกศ ยังจะมาแชร์การเตรียมตัวสอบสอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ฉบับเด็กอินเตอร์และรีวิวขั้นตอนต่างๆ ที่จะทำให้น้องมั่นใจว่าจะสอบติดชัวร์ๆ บอกเลยว่าน้องๆ ว่าที่หมอ ห้ามพลาดบทความนี้เลยนะครับ พร้อมแล้วไปลุยกันเลย !!
เคล็ดลับการเตรียมตัวสอบ SAT Subject Tests ให้สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ – UCL

สำหรับน้องๆ ที่ต้องการใช้ SAT Subject Tests เพื่อยื่นเข้าคณะแพทย์ พี่อยากแนะนำให้เริ่มเตรียมตัวจากวิชา Biology ก่อนค่ะ เพราะวิชานี้มีเนื้อหาค่อนข้างเยอะ ถ้าเริ่มเตรียมตั้งแต่ขึ้น ม.4 ได้จะยิ่งดีเลย หลังจากนั้นให้ไปเตรียมวิชา Math LV.2 และ Physics พร้อมๆ กันค่ะ เพราะทั้ง 2 วิชาเน้นการคำนวณคล้ายๆ กัน ถ้าเราเตรียมฝึก Part คำนวณมาแน่นพอก็จะช่วยให้ทำข้อสอบ 2 วิชานี้ได้ง่ายขึ้น หลังจากนั้นจึงเก็บวิชา Chemistry และมาตามอัพคะแนนทุกวิชาให้ได้ตามที่เราหวังไว้ค่ะ
พี่อยากให้น้องเริ่มสอบ SAT Subject Tests ตั้งแต่อยู่ ม.4 เลยนะคะ เพราะถ้าเราเริ่มสอบเร็ว เราก็จะมีเวลาฝึกมากขึ้น จัดสรรเวลาได้ทำให้ผ่อนคลาย ไม่ต้องเครียดมาอัดๆ สอบตอนม.5 – ม.6 และถ้าน้องยิ่งสอบบ่อยเท่าไหร่ น้องก็จะยิ่งมีโอกาสมากขึ้นเท่านั้น…1 ปีสอบได้หลายครั้งมาก อยากให้เราเต็มที่กับมันไปเลย การที่น้องสอบบ่อยๆ จะช่วยให้เราชินกับข้อสอบ รู้แพทเทิร์น เดาทางข้อสอบได้มากขึ้นและน้องก็จะชินกับบรรยากาศในห้องสอบด้วย ความตื่นเต้นและความประหม่าก็จะลดน้อยลงไปเลย ซึ่งอะไรพวกนี้เป็นตัวแปรที่ส่งผลให้คะแนนเราอัพสูงได้ทุกครั้งที่ไปสอบเลยค่ะ
แต่ถ้าน้องๆ ไม่สะดวกที่จะไปสอบหลายรอบ พี่แนะนำให้มา Mock Exam กับ ignite เลยค่ะ…มีให้เราสอบทุกวิชาเลย โดยการมา Mock Exam ก็เหมือนการได้ไปสอบที่ห้องสอบจริงๆ บรรยากาศ ข้อสอบและ ความตื่นเต้นจะเหมือนตอนเราไปสอบวันจริงเลยค่ะ ฉะนั้นการที่เราได้มา Mock Exam ก่อนสอบจริงๆ จะเป็นประโยชน์กับน้องมากๆ นะคะ
เคล็ดลับการเตรียมตัว IELTS ให้สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ - UCL

ถึงแม้ว่าจะเรียนโรงเรียนอินเตอร์แต่พี่ก็เลือกจะมาเตรียมตัวสอบ IELTS กับ ignite นะคะ เพราะเราอยากชัวร์ว่าเราจะได้ Band ที่ต้องการในเวลาที่จำกัด ไม่ต้องเสียเวลาไปหาแนวข้อสอบหรืออ่านหนังสือเยอะๆ โดยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว IELTS จะออกสอบอะไรกันแน่…พี่เลยเลือกจะมาเรียนพิเศษ แม้จะมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาแล้วก็ตามค่ะ
สำหรับพี่…พี่ เตรียม IELTS ก่อนเลยค่ะ ปกติคนอื่นเขาจะเก็บวิชาอื่นก่อนแล้วค่อยมาสนใจ IELTS แต่พี่ว่ามันจะเป็นพะวงค่ะ เหมือนมีอะไรติดค้างอยู่ตลอดเวลา…พี่เลยเลือกเก็บคะแนน IELTS ให้ได้ตามที่ต้องการก่อนแล้วค่อยไปลุยกับวิชาอื่นๆ ต่อ โดยคะแนน IELTS เก็บไว้ใช้ได้ถึง 2 ปี และรอบสอบยังเยอะมากๆ อีกค่ะ เยอะกว่า SAT Subject Tests อีก ดังนั้นถ้าน้องมีโอกาส พี่ก็อยากให้รีบสอบเพื่อจะเอาเวลาที่เหลือไปเตรียม SAT Subject Tests ที่เนื้อหาเยอะและยากกว่าอย่างเต็มที่แบบไม่มีอะไรติดค้างนะคะ
นอกจากมาเรียนพิเศษที่ ignite พี่ก็ฝึก IELTS เพิ่มเติมเหมือนกันค่ะ โดยจะฝึก Part Reading และ Listening ก่อนเพราะว่า 2 บทนี้มีคำตอบที่แน่ชัด สามารถหา Trick หรือเทคนิคต่างๆ จากในเน็ตได้เยอะเลยค่ะ บวกกับเทคนิคที่ ignite ให้อีก ยิ่งทำให้เราแม่น Part Reading และ Listening มากๆ เลยค่ะ และในส่วนของ Part Speaking และ Writing พี่อยากบอกว่าฝึกเองก็ได้แต่น้องต้องมีคนให้ Feedback ที่สามารถให้คำแนะนำตรงจุด มีประโยชน์และสามารถนำกลับมาพัฒนาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะ เพราะถ้าเราฝึกพูด ฝึกเขียนเองแล้วไม่มีคนตรวจหรือคนตรวจไม่เก่งพอ เราก็จะไม่สามารถได้คะแนน 2 Part นี้ตามที่ต้องการอย่างตัวพี่ ก็จะมาเรียนพิเศษที่ ignite ได้ฝึกพูด ฝึกเขียนแล้วมีครูคอย Feedback เพื่อนำคำแนะนำมาแก้ไขแล้วค่อยไปฝึกพูดกับเพื่อนๆเพิ่มเติมค่ะ จะได้ไม่เครียด สนุกแล้วก็มีกำลังใจอีก
เทคนิคการทำ Portfolio ให้สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ - UCL

การทำ Portfolio ของแพทย์จุฬาภรณ์ – UCL จะต้องใช้ฟอนต์ Cordia New ขนาดน้อยกว่า 16 เท่านั้นและมีจำนวนหน้าของ Portfolio อยู่ที่ 10-20 หน้า ทั้งนี้น้องๆ จะต้องเขียน Essay 1,000 คำ ซึ่งสามารถเขียนภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะ แต่พี่แนะนำให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษมากกว่านะ โดยในแต่ละปีทางมหาวิทยาลัยก็จะกำหนดหัวข้อในการเขียน Essay มาให้ค่ะ…ตามด้วยการใส่ Personal Statement
กิจกรรมที่พี่ใส่ไป Portfolio จะเน้นไปที่งานด้านการทำจิตอาสาและงานด้านการทำวิจัยเป็นส่วนใหญ่ เพราะทางมหาวิทยาลัยจะเด่นเรื่องการทำวิจัยค่ะ โดยพวกงานจิตอาสาไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับด้านการแพทย์อย่างเดียวก็ได้นะคะ อย่างพี่ใส่งานที่ไปติวภาษาอังกฤษให้น้องที่โรงเรียนต่างๆ หรือพวกงานที่เดินทางไปทาสีให้โรงเรียนตามต่างจังหวัดก็ใส่ไปได้เหมือนกัน แค่เราต้องบรรยายให้ได้ว่าเราได้เรียนรู้อะไรจากกิจกรรมที่เราได้ทำ การเขียน Portfolio แต่ละอย่างควรเชื่อมโยงกับการที่นักเรียนแพทย์ควรจะมีตัวอย่างเช่น การมี Time Management ที่ดีและอย่าลืมว่าสิ่งที่เราเขียนออกมาต้องแสดงถึงตัวตนเรามากที่สุด ต้องโชว์กรรมการผ่านกระดาษ 10-20 หน้าให้ได้ว่าตัวตนของเราเป็นอย่างไรค่ะ
ส่วนงานวิจัยนั้น ปกติพี่เป็นคนชอบทำ Lab ที่โรงเรียนอยู่แล้วค่ะ พี่เลยใส่งานด้านนี้ไปเยอะ…พี่ทำ Lab Biology และ Lab Chemistry ให้ทำเป็นกิจจะลักษณะ เป็นงานวิจัยทางการนะคะ เมื่อทำเสร็จให้เราแปลง Full paper มาอยู่ใน QR code และแนบไปใน Portfolio ที่ และขั้นตอนสุดท้ายคือการเขียนออกมาว่าเราทำออกมาได้ผลอย่างไรบ้างแล้วได้เรียนรู้อะไรจากมัน
บรรยากาศการสัมภาษณ์แพทย์จุฬาภรณ์ - UCL

การสัมภาษณ์แพทย์จุฬาภรณ์ – UCL จะแบ่งเป็น 9 ห้อง และมีห้องให้พัก 2 ห้อง โดยแต่ละห้องอาจารย์จะให้เลือกได้ว่าอยากที่จะพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าเลือกภาษาอังกฤษ อาจารย์จะถามตอบภาษาอังกฤษกับเราทันที แต่หากเลือกภาษาไทย อาจารย์อาจจะมีแทรกภาษาอังกฤษมาบ้างค่ะ
บรรยากาศการสัมภาษณ์ไม่เครียดมากนะคะ จะมีความผ่อนคลายอยู่ พี่ขอยกตัวอย่างห้องนึงที่มีอาจารย์จาก UCL มาสัมภาษณ์เราโดยตรงเลย ภายในห้องนั้นเขาจะให้เราแสดงเป็นแพทย์และให้อาจารย์เล่นเป็นคนไข้ เขาจะทดสอบเรื่องการพูดคุยกับคนไข้รวมถึงการใช้ภาษาอังกฤษ ว่าเราสื่อสารได้คล่องขนาดไหน หรือห้องที่ต้องคุยกับคณะบดี น้องก็ต้องเตรียมข้อมูลของคณะและมหาวิทยาลัยไปด้วยนะคะ แต่ก็จะมีห้องที่น่าสนใจมากสำหรับพี่ คือ ห้องที่มีการสร้างสถานการณ์ว่ามีการติดเชื้อในโรงพยาบาล เราจะต้องปกป้องตัวเองและปกป้องคนไข้ ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือการล้างมือนั้นเองค่ะ ในห้องนี้จะทดสอบการล้างมือของน้องๆ ด้วยนะ ว่าเรารู้ขั้นตอนการล้างมือที่ถูกสุขอนามัยมากน้อยแค่ไหน
สิ่งที่อยากฝากถึงน้องๆที่อยากสอบติดแพทย์รอบ Portfolio ทุกคน
พี่อยากให้พวกเราสู้ให้ถึงที่สุด เพราะว่าแพทยร์รอบ Portfolio ไม่ได้ต้องการนักเรียนที่ดีที่สุดหรือเก่งที่สุด แต่เขาต้องการคนที่เหมาะสมที่สุดกับคณะมากที่สุด เพราะฉะนั้นน้องคนไหนที่คะแนนยังไม่ถึง ค้นหาตัวเองแล้วพยายามให้มากขึ้น แสดงให้เขาเห็นว่าเราสามารถเป็นนิสิตแพทย์ที่ดีได้ อยากให้น้องๆ วางแผนให้ดี มีเวลาพักผ่อนและดูแลตัวเองบ้าง หาคนที่คอยรับฟังและแชร์ความเครียด ถ้าเหนื่อยจากการอ่านหนังสือก็แค่พักและกลับมาลุยกับมันต่อนะคะน้องๆ
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ รีวิวสอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ด้วย SAT Subject Tests โดยน้องเกศ นานาชาติเปรม สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์- UCL …พี่แอดมินเชื่อว่าบทความนี้จะช่วยให้น้องๆ ที่อยากเรียนแพทย์ได้แนวทางและเพิ่มโอกาสในการสอบเข้ามากขึ้นอย่างแน่นอนครับ
น้องๆ คนไหนที่อยากสอบติดแพทย์รอบ Portfolio ด้วย SAT Subject Tests สามารถเข้ามาปรึกษาและวางแผนกับพี่ๆผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ignite by OnDemand เราเตรียมคอร์สสด, Mini Class, One on One และ คอร์สเรียนออนไลน์ในระบบ Learn Anywhere ให้ทุกคนมั่นใจว่าจะสอบติดคณะในฝันชัวร์ๆ
สามารถซื้อคอร์สเรียนออนไลน์ ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ผ่าน Shop Online ของ ignite …พร้อมแล้วลุยเลย >> https://shop.ignitebyondemand.com/
ดูรายละเอียดคอร์สเรียน SAT Subject Tests, IELTS ทั้งหมดได้ทาง >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/
ปรึกษาสอบถามรายละเอียดการเรียนต่อในคณะแพทย์ รอบ 1 (Portfolio) หรือทุกคณะอินเตอร์ยอดฮิตได้ทาง Line : @ignitebyondemand หรือโทร 02-6580023 , 091-5761475
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, SAT
รีวิวเตรียมตัวสอบและสัมภาษณ์จนติด BBA TU โดยน้องภูมิ – ก๊อต คู่หู คู่ฮาจากรั้ว BBA TU ปีล่าสุด!
สวัสดีครับน้องๆ สำหรับหลายคนที่อยากเข้าเรียน BBA หรือหลักสูตรบริหารอินเตอร์นั้น อาจจะคิดว่าการสอบเข้า BBA เป็นเรื่องง่ายๆ ชิวๆ แต่เดี๋ยวก่อน!! วันนี้รุ่นพี่ ignite 2 คน ซึ่งตอนนี้เพิ่งเป็นนักศึกษา BBA TU (หลักสูตรการบริหารธุรกิจ ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ไปหมาดๆ จะมาเล่าให้น้องฟังว่า การสอบเข้า BBA ไม่ได้ง่ายอย่างที่น้องคิด!! ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันดีกว่าครับว่าพี่ๆ เค้าพยายามกันมากแค่ไหน และมีวิธีเตรียมตัวสอบเข้ากันยังไงให้ติดคณะในฝัน? Q : แนะนำตัวให้น้องๆ ignite รู้จักกันหน่อยครับ ก๊อต : สวัสดีน้องๆ ครับ พี่ชื่อ ก๊อต-พจนารท จบจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศรังสิตครับ ตอนนี้สอบติด BBA (หลักสูตรการบริหารธุรกิจ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ครับ ภูมิ : พี่ชื่อ ภูมิ-จารุภูมิ จบจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยมครับ ตอนนี้สอบติด BBA ธรรมศาสตร์ คณะเดียวกันกับก๊อตเลยครับ Q […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
CU-ATS คืออะไร? รู้จัก CU-ATS โอกาสสำคัญในการสอบติดคณะอินเตอร์ยอดฮิต
สวัสดีทุกคนนะครับ วันนี้พี่แอดมินนำข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับข้อสอบ CU-ATS ซึ่งเป็นข้อสอบที่ช่วงนี้กำลังเป็นกระแสและน้องๆ กำลังค้นหาข้อมูลว่ามันคืออะไรกันแน่ พี่แอดมินเลยขอพาทุกคนไปทำความรู้จักว่าข้อสอบ “CU-ATS คืออะไร” พร้อมตอบทุกข้อสงสัยตั้งแต่เนื้อหาข้อสอบเป็นอย่างไร ใช้ยื่นคณะไหนได้บ้าง ค่าสมัครสอบและตารางสอบ อย่ารอช้า…พร้อมแล้วไปอ่านกันเลย !! ข้อสอบ CU-ATS คือ ข้อสอบ CU-ATS (Chulalongkorn University Aptitude Test for Science) คือ ข้อสอบที่ใช้วัดความถนัดทางวิทยาศาสตร์เพื่อใช้ในการพิจารณาผู้ยื่นเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี ของหลักสูตรนานาชาติ จุฬาฯ โดยลักษณะข้อสอบคล้ายกับข้อสอบ SAT Subject Tests แต่ความยากของเนื้อหาจะแตกต่างกันออกไป คณะที่สามารถใช้คะแนน CU-ATS เพื่อยื่นพิจารณาศึกษาต่อ คือ ISE คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อินเตอร์) BSAC คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมีประยุกต์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อินเตอร์) ข้อควรรู้เกี่ยวกับการสอบ CU-ATS ข้อสอบ CU-ATS คะแนนรวม 1,600 คะแนน ประกอบด้วย 2 วิชา […]
Comments (0)
-
Blog, SAT
BBA คืออะไร? อยากสอบติดต้องทำอย่างไรบ้าง?
สวัสดีครับน้องๆ ทุกคน วันนี้พี่แอดมินกลับมาอีกแล้วกลับบทความดีๆ สำหรับชาวอินเตอร์โดยเฉพาะ…พี่เชื่อว่าเด็กสายศิลป์หลายๆ คนคงกำลังมองหาข้อมูล “คณะ BBA” อยู่แน่นอน !!! วันนี้ ignite ขอแชร์ข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับคณะ BBA ในมหาวิทยาลัยไทยให้พวกเราทุกคนได้ศึกษารายละเอียดที่ถูกต้องกันนะครับ BBA คืออะไร? เรียนอะไร? BBA คือ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (Bachelor of Business Administration) ซึ่งเป็นคณะยอดฮิตของเด็กมัธยมที่ต้องการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี โดยมีมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย เปิดสอนหลักสูตรนี้ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเน้นการเรียนการสอนเกี่ยวกับ การบริหาร การบัญชี การเงินและการตลาด โดยวิชาที่เปิดสอนจะขึ้นอยู่กับหลักสูตรของแต่ละมหาวิทยาลัยอีกที น้องๆ อย่าลืมเช็คเพิ่มเติมนะครับ มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตร BBA ในประเทศไทย อย่างที่ทราบกันดีว่าคณะ BBA คือ […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างข้อสอบ CU-AAT Math VS ACT Math
สวัสดีครับว่าที่น้องๆ ทีมวิทยา วิศวะอินเตอร์ หรือน้องทีมคณะสายศิลป์ อินเตอร์ หลายๆ คน คงสงสัยว่า หน้าตาข้อสอบของ CU-AAT Math และ ACT Math เป็นอย่างไร เหมือนหรือแตกต่างกันตรงจุดไหนบ้าง และเราควรจะเลือกสอบตัวไหนดี วันนี้พี่ภัทร์มา เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างข้อสอบ CU-AAT MATH และ ACT Math จับทั้งสองข้อสอบมาเปรียบเทียบกันในทุกแง่มุม เพื่อเป็นอีกแนวทางในการช่วยน้องๆ ตัดสินใจครับ ทำความรู้จักข้อสอบ CU-AAT Math VS ACT Math เมื่อเรารู้จักข้อสอบ CU-AAT และ ข้อสอบ ACT TEST กันแล้ว.. ก็มาดูกันว่าเมื่อมีคะแนน CU-AAT Math และ ACT Math สามารถยื่นเข้าคณะไหน มหาลัยไหนได้บ้าง คะแนน […]
Comments (0)
Comments