รีวิวสอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ด้วย SAT Subject Tests โดยน้องเกศ นานาชาติเปรม สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ UCL
สวัสดีน้องๆ ว่าที่หมอทุกคนนะครับ วันนี้พี่แอดมินขอพาพี่เกศ จากโรงเรียนนานาชาติเปรม ที่เพิ่งสอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ (PCCMS) – UCL ปีล่าสุด มาแนะนำการสอบเข้าแพทย์รอบ 1 (Portfolio) ด้วยคะแนน SAT Subject ซึ่งเป็นอีกวิธีที่น้องๆ โรงเรียนนานาชาติให้ความนิยมมากๆ เลย เพราะสามารถใช้ SAT Subject Tests แทนเกรดโรงเรียนที่ออกช้า หรือใช้แทนคะแนน BMAT ที่สอบได้แค่ปีละ 1 ครั้ง พี่มีรายชื่อคณะแพทย์ ที่สามารถใช้คะแนน SAT Subject Tests และการใช้คะแนนเพื่อยื่นเข้ามาให้น้องๆ ด้วยครับ
คณะแพทย์ TCAS รอบ 1 (Portfolio) ที่ใช้คะแนน SAT Subject Tests ยื่นเข้าได้
คณะที่ใช้ SAT Subject Tests เป็นคะแนนวิชาการ
- คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาภรณ์ (PCCMS) ร่วมกับ UCL
คณะที่ใช้ SAT Subject Tests แทนเกรดโรงเรียน
- คณะแพทย์รามาธิบดี หลักสูตรแพทยศาสตร์
- คณะแพทย์รามาธิบดี หลักสูตรแพทยศาสตร์ – วิศวกรรมชีวการแพทย์
- คณะแพทย์รามาธิบดี หลักสูตรแพทยศาสตร์ – การจัดการมหาบัณฑิต
- คณะแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
การใช้คะแนน SAT Subject Tests เพื่อยื่นเข้าแพทย์รอบ Portfolio
สำหรับการใช้คะแนน SAT Subject Tests เพื่อยื่นเข้าแพทย์รอบ Portfolio นั้น โดยส่วนใหญ่แล้วมหาวิทยาลัยมักจะกำหนดให้ใช้คะแนนใน 3 วิชา คือ
- SAT Subject Tests Biology
- SAT Subject Tests Chemistry
- SAT Subject Tests Math LV.2 หรือ SAT Subject Tests Physics
ทั้งนี้ SAT Subject Tests มีการจัดสอบมากกว่า 1 ครั้งใน 1 ปีและน้องๆ ยังสามารถคะแนนเก็บคะแนนไว้ใช้ได้นานถึง 2 ปีเลยนะครับ และในการสอบแต่ละครั้งน้องๆ ยังเลือกได้ว่าจะสอบกี่วิชา ซึ่งพี่เกศได้แนะนำว่าน้องๆ ควรเลือกสอบแค่ครั้งละ 2 วิชาจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะเราจะมีเวลาโฟกัสวิชาที่เราเลือกได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญน้องๆ ควรสอบ SAT Subject Tests ให้ครบทั้ง 4 วิชาเลย แล้วค่อยมาเลือกวิชาที่คะแนนดีที่สุด 3 วิชาเพื่อใช้ยื่นจริง
นอกจากนี้พี่เกศ ยังจะมาแชร์การเตรียมตัวสอบสอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ฉบับเด็กอินเตอร์และรีวิวขั้นตอนต่างๆ ที่จะทำให้น้องมั่นใจว่าจะสอบติดชัวร์ๆ บอกเลยว่าน้องๆ ว่าที่หมอ ห้ามพลาดบทความนี้เลยนะครับ พร้อมแล้วไปลุยกันเลย !!
เคล็ดลับการเตรียมตัวสอบ SAT Subject Tests ให้สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ – UCL
สำหรับน้องๆ ที่ต้องการใช้ SAT Subject Tests เพื่อยื่นเข้าคณะแพทย์ พี่อยากแนะนำให้เริ่มเตรียมตัวจากวิชา Biology ก่อนค่ะ เพราะวิชานี้มีเนื้อหาค่อนข้างเยอะ ถ้าเริ่มเตรียมตั้งแต่ขึ้น ม.4 ได้จะยิ่งดีเลย หลังจากนั้นให้ไปเตรียมวิชา Math LV.2 และ Physics พร้อมๆ กันค่ะ เพราะทั้ง 2 วิชาเน้นการคำนวณคล้ายๆ กัน ถ้าเราเตรียมฝึก Part คำนวณมาแน่นพอก็จะช่วยให้ทำข้อสอบ 2 วิชานี้ได้ง่ายขึ้น หลังจากนั้นจึงเก็บวิชา Chemistry และมาตามอัพคะแนนทุกวิชาให้ได้ตามที่เราหวังไว้ค่ะ
พี่อยากให้น้องเริ่มสอบ SAT Subject Tests ตั้งแต่อยู่ ม.4 เลยนะคะ เพราะถ้าเราเริ่มสอบเร็ว เราก็จะมีเวลาฝึกมากขึ้น จัดสรรเวลาได้ทำให้ผ่อนคลาย ไม่ต้องเครียดมาอัดๆ สอบตอนม.5 – ม.6 และถ้าน้องยิ่งสอบบ่อยเท่าไหร่ น้องก็จะยิ่งมีโอกาสมากขึ้นเท่านั้น…1 ปีสอบได้หลายครั้งมาก อยากให้เราเต็มที่กับมันไปเลย การที่น้องสอบบ่อยๆ จะช่วยให้เราชินกับข้อสอบ รู้แพทเทิร์น เดาทางข้อสอบได้มากขึ้นและน้องก็จะชินกับบรรยากาศในห้องสอบด้วย ความตื่นเต้นและความประหม่าก็จะลดน้อยลงไปเลย ซึ่งอะไรพวกนี้เป็นตัวแปรที่ส่งผลให้คะแนนเราอัพสูงได้ทุกครั้งที่ไปสอบเลยค่ะ
แต่ถ้าน้องๆ ไม่สะดวกที่จะไปสอบหลายรอบ พี่แนะนำให้มา Mock Exam กับ ignite เลยค่ะ…มีให้เราสอบทุกวิชาเลย โดยการมา Mock Exam ก็เหมือนการได้ไปสอบที่ห้องสอบจริงๆ บรรยากาศ ข้อสอบและ ความตื่นเต้นจะเหมือนตอนเราไปสอบวันจริงเลยค่ะ ฉะนั้นการที่เราได้มา Mock Exam ก่อนสอบจริงๆ จะเป็นประโยชน์กับน้องมากๆ นะคะ
เคล็ดลับการเตรียมตัว IELTS ให้สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ - UCL
ถึงแม้ว่าจะเรียนโรงเรียนอินเตอร์แต่พี่ก็เลือกจะมาเตรียมตัวสอบ IELTS กับ ignite นะคะ เพราะเราอยากชัวร์ว่าเราจะได้ Band ที่ต้องการในเวลาที่จำกัด ไม่ต้องเสียเวลาไปหาแนวข้อสอบหรืออ่านหนังสือเยอะๆ โดยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว IELTS จะออกสอบอะไรกันแน่…พี่เลยเลือกจะมาเรียนพิเศษ แม้จะมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาแล้วก็ตามค่ะ
สำหรับพี่…พี่ เตรียม IELTS ก่อนเลยค่ะ ปกติคนอื่นเขาจะเก็บวิชาอื่นก่อนแล้วค่อยมาสนใจ IELTS แต่พี่ว่ามันจะเป็นพะวงค่ะ เหมือนมีอะไรติดค้างอยู่ตลอดเวลา…พี่เลยเลือกเก็บคะแนน IELTS ให้ได้ตามที่ต้องการก่อนแล้วค่อยไปลุยกับวิชาอื่นๆ ต่อ โดยคะแนน IELTS เก็บไว้ใช้ได้ถึง 2 ปี และรอบสอบยังเยอะมากๆ อีกค่ะ เยอะกว่า SAT Subject Tests อีก ดังนั้นถ้าน้องมีโอกาส พี่ก็อยากให้รีบสอบเพื่อจะเอาเวลาที่เหลือไปเตรียม SAT Subject Tests ที่เนื้อหาเยอะและยากกว่าอย่างเต็มที่แบบไม่มีอะไรติดค้างนะคะ
นอกจากมาเรียนพิเศษที่ ignite พี่ก็ฝึก IELTS เพิ่มเติมเหมือนกันค่ะ โดยจะฝึก Part Reading และ Listening ก่อนเพราะว่า 2 บทนี้มีคำตอบที่แน่ชัด สามารถหา Trick หรือเทคนิคต่างๆ จากในเน็ตได้เยอะเลยค่ะ บวกกับเทคนิคที่ ignite ให้อีก ยิ่งทำให้เราแม่น Part Reading และ Listening มากๆ เลยค่ะ และในส่วนของ Part Speaking และ Writing พี่อยากบอกว่าฝึกเองก็ได้แต่น้องต้องมีคนให้ Feedback ที่สามารถให้คำแนะนำตรงจุด มีประโยชน์และสามารถนำกลับมาพัฒนาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะ เพราะถ้าเราฝึกพูด ฝึกเขียนเองแล้วไม่มีคนตรวจหรือคนตรวจไม่เก่งพอ เราก็จะไม่สามารถได้คะแนน 2 Part นี้ตามที่ต้องการอย่างตัวพี่ ก็จะมาเรียนพิเศษที่ ignite ได้ฝึกพูด ฝึกเขียนแล้วมีครูคอย Feedback เพื่อนำคำแนะนำมาแก้ไขแล้วค่อยไปฝึกพูดกับเพื่อนๆเพิ่มเติมค่ะ จะได้ไม่เครียด สนุกแล้วก็มีกำลังใจอีก
เทคนิคการทำ Portfolio ให้สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ - UCL
การทำ Portfolio ของแพทย์จุฬาภรณ์ – UCL จะต้องใช้ฟอนต์ Cordia New ขนาดน้อยกว่า 16 เท่านั้นและมีจำนวนหน้าของ Portfolio อยู่ที่ 10-20 หน้า ทั้งนี้น้องๆ จะต้องเขียน Essay 1,000 คำ ซึ่งสามารถเขียนภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะ แต่พี่แนะนำให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษมากกว่านะ โดยในแต่ละปีทางมหาวิทยาลัยก็จะกำหนดหัวข้อในการเขียน Essay มาให้ค่ะ…ตามด้วยการใส่ Personal Statement
กิจกรรมที่พี่ใส่ไป Portfolio จะเน้นไปที่งานด้านการทำจิตอาสาและงานด้านการทำวิจัยเป็นส่วนใหญ่ เพราะทางมหาวิทยาลัยจะเด่นเรื่องการทำวิจัยค่ะ โดยพวกงานจิตอาสาไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับด้านการแพทย์อย่างเดียวก็ได้นะคะ อย่างพี่ใส่งานที่ไปติวภาษาอังกฤษให้น้องที่โรงเรียนต่างๆ หรือพวกงานที่เดินทางไปทาสีให้โรงเรียนตามต่างจังหวัดก็ใส่ไปได้เหมือนกัน แค่เราต้องบรรยายให้ได้ว่าเราได้เรียนรู้อะไรจากกิจกรรมที่เราได้ทำ การเขียน Portfolio แต่ละอย่างควรเชื่อมโยงกับการที่นักเรียนแพทย์ควรจะมีตัวอย่างเช่น การมี Time Management ที่ดีและอย่าลืมว่าสิ่งที่เราเขียนออกมาต้องแสดงถึงตัวตนเรามากที่สุด ต้องโชว์กรรมการผ่านกระดาษ 10-20 หน้าให้ได้ว่าตัวตนของเราเป็นอย่างไรค่ะ
ส่วนงานวิจัยนั้น ปกติพี่เป็นคนชอบทำ Lab ที่โรงเรียนอยู่แล้วค่ะ พี่เลยใส่งานด้านนี้ไปเยอะ…พี่ทำ Lab Biology และ Lab Chemistry ให้ทำเป็นกิจจะลักษณะ เป็นงานวิจัยทางการนะคะ เมื่อทำเสร็จให้เราแปลง Full paper มาอยู่ใน QR code และแนบไปใน Portfolio ที่ และขั้นตอนสุดท้ายคือการเขียนออกมาว่าเราทำออกมาได้ผลอย่างไรบ้างแล้วได้เรียนรู้อะไรจากมัน
บรรยากาศการสัมภาษณ์แพทย์จุฬาภรณ์ - UCL
การสัมภาษณ์แพทย์จุฬาภรณ์ – UCL จะแบ่งเป็น 9 ห้อง และมีห้องให้พัก 2 ห้อง โดยแต่ละห้องอาจารย์จะให้เลือกได้ว่าอยากที่จะพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าเลือกภาษาอังกฤษ อาจารย์จะถามตอบภาษาอังกฤษกับเราทันที แต่หากเลือกภาษาไทย อาจารย์อาจจะมีแทรกภาษาอังกฤษมาบ้างค่ะ
บรรยากาศการสัมภาษณ์ไม่เครียดมากนะคะ จะมีความผ่อนคลายอยู่ พี่ขอยกตัวอย่างห้องนึงที่มีอาจารย์จาก UCL มาสัมภาษณ์เราโดยตรงเลย ภายในห้องนั้นเขาจะให้เราแสดงเป็นแพทย์และให้อาจารย์เล่นเป็นคนไข้ เขาจะทดสอบเรื่องการพูดคุยกับคนไข้รวมถึงการใช้ภาษาอังกฤษ ว่าเราสื่อสารได้คล่องขนาดไหน หรือห้องที่ต้องคุยกับคณะบดี น้องก็ต้องเตรียมข้อมูลของคณะและมหาวิทยาลัยไปด้วยนะคะ แต่ก็จะมีห้องที่น่าสนใจมากสำหรับพี่ คือ ห้องที่มีการสร้างสถานการณ์ว่ามีการติดเชื้อในโรงพยาบาล เราจะต้องปกป้องตัวเองและปกป้องคนไข้ ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือการล้างมือนั้นเองค่ะ ในห้องนี้จะทดสอบการล้างมือของน้องๆ ด้วยนะ ว่าเรารู้ขั้นตอนการล้างมือที่ถูกสุขอนามัยมากน้อยแค่ไหน
สิ่งที่อยากฝากถึงน้องๆที่อยากสอบติดแพทย์รอบ Portfolio ทุกคน
พี่อยากให้พวกเราสู้ให้ถึงที่สุด เพราะว่าแพทยร์รอบ Portfolio ไม่ได้ต้องการนักเรียนที่ดีที่สุดหรือเก่งที่สุด แต่เขาต้องการคนที่เหมาะสมที่สุดกับคณะมากที่สุด เพราะฉะนั้นน้องคนไหนที่คะแนนยังไม่ถึง ค้นหาตัวเองแล้วพยายามให้มากขึ้น แสดงให้เขาเห็นว่าเราสามารถเป็นนิสิตแพทย์ที่ดีได้ อยากให้น้องๆ วางแผนให้ดี มีเวลาพักผ่อนและดูแลตัวเองบ้าง หาคนที่คอยรับฟังและแชร์ความเครียด ถ้าเหนื่อยจากการอ่านหนังสือก็แค่พักและกลับมาลุยกับมันต่อนะคะน้องๆ
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ รีวิวสอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ด้วย SAT Subject Tests โดยน้องเกศ นานาชาติเปรม สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์- UCL …พี่แอดมินเชื่อว่าบทความนี้จะช่วยให้น้องๆ ที่อยากเรียนแพทย์ได้แนวทางและเพิ่มโอกาสในการสอบเข้ามากขึ้นอย่างแน่นอนครับ
น้องๆ คนไหนที่อยากสอบติดแพทย์รอบ Portfolio ด้วย SAT Subject Tests สามารถเข้ามาปรึกษาและวางแผนกับพี่ๆผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ignite by OnDemand เราเตรียมคอร์สสด, Mini Class, One on One และ คอร์สเรียนออนไลน์ในระบบ Learn Anywhere ให้ทุกคนมั่นใจว่าจะสอบติดคณะในฝันชัวร์ๆ
สามารถซื้อคอร์สเรียนออนไลน์ ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ผ่าน Shop Online ของ ignite …พร้อมแล้วลุยเลย >> https://shop.ignitebyondemand.com/
ดูรายละเอียดคอร์สเรียน SAT Subject Tests, IELTS ทั้งหมดได้ทาง >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/
ปรึกษาสอบถามรายละเอียดการเรียนต่อในคณะแพทย์ รอบ 1 (Portfolio) หรือทุกคณะอินเตอร์ยอดฮิตได้ทาง Line : @ignitebyondemand หรือโทร 02-6580023 , 091-5761475
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, SAT Reading and Writing, SAT
แชร์เทคนิคพิชิตข้อสอบ SAT Reading and Writing ประเภท Vocabulary in Context
สวัสดีครับน้องๆ ทุกคน เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย เตรียมตัวในการสอบ SAT ไปถึงไหนกันแล้วบ้างครับ หลายๆ คนคงเริ่มเรียนและฝึกฝนทำโจทย์ SAT กันอยู่เพื่อพิชิตคณะในฝัน วันนี้พี่แพททริคจึงขอมาให้กำลังใจพร้อมทั้งแชร์เทคนิคพิชิต ข้อสอบ SAT Reading and Writing กันครับ น้องๆ รู้มั้ยเอ่ยว่าข้อสอบประเภท Vocabulary in Context เนี่ย ก็เป็นข้อสอบอีกประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญมากๆ และสามารถช่วยเราเพิ่มคะแนนสอบได้ เพราะว่ามีข้อสอบประเภทนี้ถึง 8-9 ข้อต่อชุด (อ้างอิงจาก Official SAT Practice Tests ชุดที่ 8-9 โดย College Board) นับว่าเกือบจะเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนข้อสอบทั้งหมดเลยทีเดียว (ข้อสอบพาร์ท Reading มีทั้งหมด 52 ข้อ) ดังนั้น หากน้องๆ สามารถเก็บคะแนนในส่วนนี้ได้ทั้งหมด โอกาสในการพิชิต Perfect Score ก็จะเพิ่มขึ้นด้วยครับ หลังจากรู้ถึงความสำคัญที่จะต้องพิชิตข้อสอบ Vocabulary […]
Comments (0)
-
Blog, GED
รวมคำถามยอดฮิต GED อยากสอบติดม.ดังต้องได้คะแนนเท่าไหร่ถึง SAFE!
สวัสดีค่าน้องๆ ตั้งแต่ ignite เริ่มให้คำแนะนำเรื่องการวางแผน เตรียมตัวสอบ GED ก็มีน้องๆ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบข้อสอบตัวนี้หลายอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็น GED ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยไหน คณะไหนได้บ้าง? แล้วต้องมีคะแนน GED เท่าไรถึงจะ SAFE? วันนี้พี่หมิงเลยรวบรวมคำถามที่โดนถามบ่อยๆ พร้อมมาให้คำแนะนำดีๆ อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้น้องๆ เตรียมตัวสำหรับการสอบ GED ได้อย่างไม่พลาดเป้า แถมยังได้ Perfect score ด้วยนะคะ ไปดูกันเลยค่า! 1. อยากเข้าอินเตอร์ ม.ดัง คะแนน GED เท่าไหร่ถึง SAFE! คณะส่วนใหญ่ของกลุ่ม มหาวิทยาลัย จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์อินเตอร์ จะตั้งเกณฑ์รับนักเรียน GED ตามเกณฑ์ที่ ทปอ. กำหนด นั่นก็คือ คะแนนรวม […]
Comments (0)
-
Blog, IELTS
คุยกับอดีต IELTS Examiner คนไทยในต่างแดน P’Patrick Oxford
น้องๆ หลายๆ คนอาจจะคุ้นหน้าหรือเคยเรียนกับพี่แพททริคกันมาบ้างแล้วไม่ว่าจะเป็นคอร์ส IELTS หรือ SAT Reading & Writing แต่ทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วพี่แพททริคเคยเป็นอดีต IELTS Examiner คนไทย ในต่างประเทศมาก่อน!!! ถ้าน้องๆ อยากรู้จักกับพี่แพททริคมากขึ้นไปอ่านกันต่อได้เลย Q: ช่วยแนะนำตัวหน่อยครับ A: สวัสดีครับ ชื่อพี่แพททริคครับ จบ Postgraduate Diploma ด้าน English for Academic Purposes จาก The University of Waikato ที่ New Zealand ปริญญาโทด้าน Digital Language and Literacies จาก Lancaster University แล้วก็ปริญญาโทอีกใบด้าน Teaching English Language […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT, SAT Subject Tests
คณะวิศวะ SIIT คืออะไร? เรียนอะไรบ้าง? อยากสอบติดต้องทำอย่างไร?
สวัสดีว่าที่น้องๆ วิศวะทุกคนนะครับ พี่แอดมินขอพามาทำความรู้จักกับคณะวิศวะอินเตอร์ “SIIT” หลักสูตรยอดฮิตที่เชื่อว่าน้องๆ ต้องเคยได้ยินชื่อมาแล้วแน่นอน เรียกว่าเป็นคณะที่เด็กมัธยมปลายหลายๆ คนใฝ่ฝันที่จะเข้าเรียนกันเลยทีเดียว แต่แค่เคยได้ยินชื่ออย่างเดียวคงไม่พอ วันนี้พี่แอดมินจะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับคณะวิศวะอินเตอร์ SIIT คืออะไร? เรียนอะไรบ้าง? อยากสอบติดต้องทำอย่างไร? ให้พวกเราไม่พลาดทุกประเด็นเกี่ยวกับคณะนี้เลยนะครับ ถ้าพร้อมแล้วไปทำความรู้จักวิศวะ SIIT พร้อมกันเลยจ้า วิศวะ SIIT คืออะไร? เรียนอะไร? SIIT (Sirindhorn International Institute of Technology) หรือ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือ คณะวิศวะอินเตอร์ที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติ โดยมีทั้งหมด 9 สาขาวิชา ซึ่งเป็นหลักสูตรด้านวิศวกรรมศาสตร์ 7 สาขาและหลักสูตรการจัดการ 2 สาขา ทั้งนี้ SIIT จะเน้นการเรียนการสอนกับอาจารย์ที่มีคุณภาพ ด้วยความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในห้องแล็บที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ครบครัน ซึ่งการเรียนการสอนของ SIIT จะเป็นภาษาอังกฤษทั้งเนื้อหาการเรียน แบบฝึกหัด การพรีเซนต์ต่างๆ และยังได้เรียนร่วมกับนักเรียนแลกเปลี่ยนหลากหลายเชื้อชาติอีกด้วย SIIT เป็นคณะที่มีทุนการศึกษาในแต่ละปีกว่า 200 […]
Comments (0)
Comments