รีวิวการสอบ IELTS แบบ Computer-delivered โดยน้องนโม เจ้าของคะแนน IELTS 8.0

หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่น้องๆ ถามกันเข้ามาเยอะที่สุดคือ การสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์ เป็นอย่างไร และการสอบแบบคอมหรือแบบกระดาษดีกว่ากัน วันนี้พี่เลยขอพาหนุ่มหล่อคนเก่งที่เพิ่งคว้าคะแนน IELTS 8.0 จากการสอบ Computer-delivered IELTS อย่างน้องนโม ภาคภพ เลขวัต จากโรงเรียนสาธิตมศว. ปทุมวัน มารีวิวการสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์กันว่าในห้องสอบ น้องๆ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ไปลุยกันเลย!
วิธีสมัครสอบ IELTS

ไม่ว่าจะเป็นการสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์ หรือ แบบกระดาษ น้องๆ สามารถสมัครสอบออนไลน์ ได้ผ่านเว็บไซต์ทางการของศูนย์สอบ โดยกดเลือกรูปแบบการสอบและสถานที่สอบได้เอง จากนั้นก็ทำการชำระค่าธรรมเนียมการสอบที่ปัจจุบันก็มีหลากหลายช่องทั้งการชำระผ่านบัตรเครดิตหรือการโอนเงิน แต่สิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับน้องๆ ที่ต้องการสมัครสอบและยังอายุไม่ถึง 18 ปี จะต้องทำการปรินท์ใบ Consent form หรือเอกสารยินยอม ให้ผู้ปกครองเซ็นรับรอง และนำมายื่นในวันสอบจริงพร้อมกับหลักฐานการสอบอื่นๆ ที่จำเป็นอย่างบัตรประจำตัวประชาชน ทั้งนี้ ขอแนะนำว่าน้องๆ ควรไปถึงสถานที่สอบก่อนเวลาอย่างน้อย 30 นาทีเพื่อถ่ายรูป, ลงทะเบียน, สแกนนิ้ว และนำสัมภาระที่ติดตัวมาทุกอย่างใส่ในล็อคเกอร์ เพราะในวันสอบจริง น้องๆ จะไม่ได้รับอนุญาตให้นำสิ่งใดเข้าห้องสอบเลยทั้งเครื่องเขียนต่างๆ และนาฬิกาข้อมือ
เรื่องต้องรู้ก่อนสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์

สำหรับการสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์ นั้น ทักษะที่สอบกับคอมจะมี 3 ทักษะ ได้แก่ Listening, Reading, และ Writing ส่วนทักษะ Speaking ยังคงเป็นการสอบแบบตัวต่อตัวกับ Examiners แบบเดิมนะครับ สำหรับนโม ตอนเลือกสอบ ได้เลือกสอบ Speaking ก่อน และถึงค่อยไปสอบกับคอม ทำให้ก่อนที่จะเริ่มสอบคอม นโมต้องทำการลงทะเบียนสอบอีกครั้งทั้งถ่ายรูป, สแกนนิ้ว และตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน
มาถึงช่วงเวลาของการสอบกันบ้าง เมื่อเข้าไปนั่งประจำคอมพิวเตอร์ ของตัวเองแล้ว เจ้าหน้าที่จะแจกแผ่น login detail ให้น้อง ในใบนั้นจะประกอบด้วย username และ password เราก็กรอกใส่ไปในระบบคอม ทางเจ้าหน้าที่ก็จะเริ่มบรรยายกฏและข้อปฏิบัติระหว่างการสอบเป็นภาษาอังกฤษ เช่น สามารถไปเข้าห้องน้ำได้ แต่เวลาเดินต่อ และห้ามเข้าห้องน้ำในช่วงเวลา 10 นาทีสุดท้ายของการสอบแต่ละทักษะ หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้เข้าสอบทดสอบระดับความดังของ Headphone ทั้งนี้ ผู้เข้าสอบยังสามารถปรับระดับความดังของเสียงได้ตลอดการสอบด้วย แต่แนะนำว่าปรับทีเดียวก่อนเริ่มจะดีกว่านะครับ จะได้ไม่เสียสมาธิระหว่างสอบ อีกข้อดีหนึ่งของการสอบแบบคอมพิวเตอร์ คือจะสามารถปรับขนาดตัวอักษรในโจทย์ได้ถึง 3 ระดับ เพราะฉะนั้น เลือกขนาดให้ดีก่อนเริ่มสอบ แล้วก็ทำข้อสอบแบบฉลุยได้เลยครับผม รอเวลาสักครู่ เจ้าหน้าที่ก็จะประกาศให้เริ่มทำข้อสอบพร้อมกันครับ
รีวิวสอบ IELTS Listening แบบคอมพิวเตอร์

ทักษะแรกที่น้องๆ จะเริ่มสอบในคอมก็คือ Listening เมื่อกดเริ่มสอบ ข้อสอบจะเด้งขึ้นโดยอัตโนมัติทีละพาร์ท และเสียงก็จะเล่นไปเรื่อยๆ ไม่สามารถกดหยุดหรือกดกลับไปได้ สามารถปรับได้เพียงระดับความดังของเสียงเท่านั้น ในแต่ละพาร์ทข้อสอบ ตรงด้านล่างจะมีแถบให้น้องๆ ดูว่าข้อไหนที่ยังไม่ได้ทำ หรือสามารถ mark ไว้ได้ว่าข้อไหนไม่มั่นใจเพื่อกลับมาทำทีหลังได้ หลังเสร็จแต่ละพาร์ทก็คลิกเลื่อนหน้าได้เอง แต่ก็สามารถย้อนกลับมาทำข้อที่ยังเว้นไว้ได้ ส่วนที่เหมือนกับการสอบแบบกระดาษ คือ ทั้งตอนเริ่มและหลังจบแต่ละพาร์ท จะมีเวลาให้อ่านคำสั่งและคำถาม รวมถึงเวลาในการตรวจคำตอบด้วย เมื่อจบ Listening ทั้ง 4 พาร์ท เสียงจะตัดโดยอัตโนมัติและมีเวลาให้เช็คคำตอบอีกรอบ ส่วนเรื่องของแถบที่โชว์เวลานับถอยหลังจะอยู่ทางด้านบนของหน้าจอ ตอนเหลือ 10 นาทีสุดท้าย แถบเวลาจะกระพริบเตือน เมื่อเวลาหมด หน้าจอคอมก็จะตัดโดยอัตโนมัติ ทางเจ้าหน้าที่จะเก็บกระดาษ login detail ของ Listening
รีวิวสอบ IELTS Reading แบบคอมพิวเตอร์

ทักษะที่สองคือ Reading ก่อนเริ่มทำข้อสอบ ผู้เข้าสอบจะได้ใบ login detail ใหม่อีกครั้งเพื่อกรอก username และ password เหมือนเดิม หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่คุมสอบจะแจ้ง Instructions ในการสอบ Reading ทั้งเรื่องเวลาในการทำข้อสอบ 1 ชั่วโมง และการปรับขนาดตัวอักษรได้ จากนั้นก็จะประกาศให้กดเริ่มสอบพร้อมกัน เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาการสอบ Passage และคำถามจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ คำถามของทั้ง Passage จะขึ้นทั้งหมด โดย Passage จะอยู่ด้านซ้ายและคำถามจะอยู่ด้านขวามือของหน้าจอ อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจและนโมชอบมากๆ คือฟังก์ชั่นเสริมที่จะช่วยเนื่องการอ่าน passage ทั้ง การไฮไลท์ข้อความด้วยเมาส์, การพิมพ์ short note ไว้ได้, และการ copy & paste ที่ทำให้มั่นใจว่าจะลอกคำตอบไปตอบแบบไม่สะกดผิดหรือตกหล่นแน่นอน ในส่วนที่เหลือจะคล้ายกับพาร์ท Listening คือการมีแถบบอกข้อที่ยังไม่ทำด้านล่าง แถบเวลาด้านบน สามารถเลื่อนโจทย์กลับไปมาได้ และเมื่อหมดเวลา หน้าจอก็จะตัดอัตโนมัติและเจ้าหน้าที่จะเก็บ login detail
รีวิวสอบ IELTS Writing แบบคอมพิวเตอร์

สำหรับทักษะ Writing ก่อนเริ่มสอบ เจ้าหน้าที่ก็จะแจกใบ login detail ใหม่เหมือนเดิมพร้อมกับแจ้ง Instructions การสอบทักษะนี้ เช่น Task ที่ 1 ควรใช้เวลาประมาณ 20 นาที และ Task ที่ 2 ประมาณ 40 นาที รวมถึงกฏระเบียบในการเข้าห้องน้ำต่างๆ เมื่อเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะประกาศให้เริ่มทำข้อสอบพร้อมกัน
ในพาร์ท Writing นี้ โจทย์จะปรากฏทางด้านซ้ายของหน้าจอ และ Answer sheet อยู่ทางขวา น้องๆ สามารถลงมือพิมพ์ได้เลย ส่วนการจดโน้ตก็สามารถเขียนได้ด้านหลังกระดาษ login detail มีอยู่ข้อจำกัดหนึ่งที่นโมบอกว่าไม่ค่อยชอบเลยคือ จะไม่สามารถย่อหน้าได้ด้วยการกด tab ต้องกด space bar ซ้ำๆ แทน หรือไม่ก็กด enter เว้นบรรทัดไปเลย แต่ก็ยังมีข้อดีมากๆ ของการสอบแบบคอมคือ ในพาร์ท Writing จะขึ้น word count ให้เลย ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งนับคำ และก็สามารถเลื่อนโจทย์กลับไปมาได้ อาจเริ่มทำจาก Writing task ที่ 2 ก่อนก็ได้ และอีกอันหนึ่งที่ประทับใจกับการสอบคอมคือสามารถ copy & paste คำจากโจทย์มาเขียนใน essay ได้ และยังสามารถเติมคำระหว่างประโยคได้ พูดง่ายๆ คือ Answer sheet ของการสอบ Writing แบบคอมจะมีลักษณะเหมือนโปรแกรม word เพียงแต่ไม่มีการแก้ไขคำผิดอัตโนมัตินั่นเอง ดังนั้น น้องๆ คนนั้นที่คุ้นเคยกับการพิมพ์คอมอยู่แล้ว การสอบแบบนี้ก็อาจจะตอบโจทย์น้องๆ เมื่อหมดเวลาหน้าจอก็จะตัดอัตโนมัติเช่นเดิม เจ้าหน้าที่ก็จะเก็บ login detail และผู้เข้าสอบก็รอรับผลสอบ 5-7 วันหลังวันสอบได้เลย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับน้องๆ สำหรับรีวิวการสอบ Computer-delivered IELTS แบบละเอียดยิบทุกขั้นตอนโดยพี่นโม ทั้งนี้ การที่จะพิชิตคะแนน IELTS 8.0 ก็ต้องมาพร้อมกับความพร้อมและการฝึกฝนที่สม่ำเสมอด้วยนะครับ เพราะถึงแม้ว่าพี่นโมจะมีเวลาเตรียมตัวเพียงแค่ 2 สัปดาห์แต่ก็มีวินัยในการฝึกทำโจทย์ ฝึกพูดและเขียนพร้อมพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ สำหรับน้องๆคนไหนที่กำลังเตรียมตัวสอบ IELTS อยู่ พี่นโมฝากบอกว่าสู้ๆ และแบ่งเวลาในการเตรียมตัวและในการทำข้อสอบดีๆ น้า แล้วเจอกันครับผม…
สำหรับใครอยากดูความแตกต่างระหว่างการสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์และแบบกระดาษ อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้เลย >> ความแตกต่างระหว่าง IELTS Paper-Based Test VS IELTS Computer-Delivered Test
คอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ ในระบบ Anywhere
ใครที่อยากได้ผู้ช่วยอัพคะแนน IELTS 7.0 ได้ง่ายๆ แบบจัดสรรเวลาเรียนเองได้ ด้วยการเรียนแบบ Anywhere ที่จะทำให้เราจัดเวลาหรือเลือกช่วงเวลาเรียนได้ด้วยตัวเอง กับคอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ ได้ผ่านทุก Platform เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต อยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ ก็เรียนได้ แถมยังได้ร่วมกิจกรรมมากมายที่ช่วยให้น้องพิชิตคะแนน IELTS ได้ตามที่หวัง สามารถสอบถามรายเอียดเพิ่มติมได้ทาง Line @ignitebyondemand
ดูรายละเอียดคอร์ส IELTS เพิ่มเติมได้ทาง >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/ielts/
หรือเลือกช้อปคอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ ด้วยตัวเองผ่าน >> Shop Online
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, SAT
รีวิวเตรียมตัวสอบและสัมภาษณ์จนติด BBA TU โดยน้องภูมิ – ก๊อต คู่หู คู่ฮาจากรั้ว BBA TU ปีล่าสุด!
สวัสดีครับน้องๆ สำหรับหลายคนที่อยากเข้าเรียน BBA หรือหลักสูตรบริหารอินเตอร์นั้น อาจจะคิดว่าการสอบเข้า BBA เป็นเรื่องง่ายๆ ชิวๆ แต่เดี๋ยวก่อน!! วันนี้รุ่นพี่ ignite 2 คน ซึ่งตอนนี้เพิ่งเป็นนักศึกษา BBA TU (หลักสูตรการบริหารธุรกิจ ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ไปหมาดๆ จะมาเล่าให้น้องฟังว่า การสอบเข้า BBA ไม่ได้ง่ายอย่างที่น้องคิด!! ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันดีกว่าครับว่าพี่ๆ เค้าพยายามกันมากแค่ไหน และมีวิธีเตรียมตัวสอบเข้ากันยังไงให้ติดคณะในฝัน? Q : แนะนำตัวให้น้องๆ ignite รู้จักกันหน่อยครับ ก๊อต : สวัสดีน้องๆ ครับ พี่ชื่อ ก๊อต-พจนารท จบจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศรังสิตครับ ตอนนี้สอบติด BBA (หลักสูตรการบริหารธุรกิจ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ครับ ภูมิ : พี่ชื่อ ภูมิ-จารุภูมิ จบจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยมครับ ตอนนี้สอบติด BBA ธรรมศาสตร์ คณะเดียวกันกับก๊อตเลยครับ Q […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
CU-ATS คืออะไร? รู้จัก CU-ATS โอกาสสำคัญในการสอบติดคณะอินเตอร์ยอดฮิต
สวัสดีทุกคนนะครับ วันนี้พี่แอดมินนำข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับข้อสอบ CU-ATS ซึ่งเป็นข้อสอบที่ช่วงนี้กำลังเป็นกระแสและน้องๆ กำลังค้นหาข้อมูลว่ามันคืออะไรกันแน่ พี่แอดมินเลยขอพาทุกคนไปทำความรู้จักว่าข้อสอบ “CU-ATS คืออะไร” พร้อมตอบทุกข้อสงสัยตั้งแต่เนื้อหาข้อสอบเป็นอย่างไร ใช้ยื่นคณะไหนได้บ้าง ค่าสมัครสอบและตารางสอบ อย่ารอช้า…พร้อมแล้วไปอ่านกันเลย !! ข้อสอบ CU-ATS คือ ข้อสอบ CU-ATS (Chulalongkorn University Aptitude Test for Science) คือ ข้อสอบที่ใช้วัดความถนัดทางวิทยาศาสตร์เพื่อใช้ในการพิจารณาผู้ยื่นเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี ของหลักสูตรนานาชาติ จุฬาฯ โดยลักษณะข้อสอบคล้ายกับข้อสอบ SAT Subject Tests แต่ความยากของเนื้อหาจะแตกต่างกันออกไป คณะที่สามารถใช้คะแนน CU-ATS เพื่อยื่นพิจารณาศึกษาต่อ คือ ISE คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อินเตอร์) BSAC คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมีประยุกต์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อินเตอร์) ข้อควรรู้เกี่ยวกับการสอบ CU-ATS ข้อสอบ CU-ATS คะแนนรวม 1,600 คะแนน ประกอบด้วย 2 วิชา […]
Comments (0)
-
Blog, SAT
BBA คืออะไร? อยากสอบติดต้องทำอย่างไรบ้าง?
สวัสดีครับน้องๆ ทุกคน วันนี้พี่แอดมินกลับมาอีกแล้วกลับบทความดีๆ สำหรับชาวอินเตอร์โดยเฉพาะ…พี่เชื่อว่าเด็กสายศิลป์หลายๆ คนคงกำลังมองหาข้อมูล “คณะ BBA” อยู่แน่นอน !!! วันนี้ ignite ขอแชร์ข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับคณะ BBA ในมหาวิทยาลัยไทยให้พวกเราทุกคนได้ศึกษารายละเอียดที่ถูกต้องกันนะครับ BBA คืออะไร? เรียนอะไร? BBA คือ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (Bachelor of Business Administration) ซึ่งเป็นคณะยอดฮิตของเด็กมัธยมที่ต้องการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี โดยมีมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย เปิดสอนหลักสูตรนี้ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเน้นการเรียนการสอนเกี่ยวกับ การบริหาร การบัญชี การเงินและการตลาด โดยวิชาที่เปิดสอนจะขึ้นอยู่กับหลักสูตรของแต่ละมหาวิทยาลัยอีกที น้องๆ อย่าลืมเช็คเพิ่มเติมนะครับ มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตร BBA ในประเทศไทย อย่างที่ทราบกันดีว่าคณะ BBA คือ […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างข้อสอบ CU-AAT Math VS ACT Math
สวัสดีครับว่าที่น้องๆ ทีมวิทยา วิศวะอินเตอร์ หรือน้องทีมคณะสายศิลป์ อินเตอร์ หลายๆ คน คงสงสัยว่า หน้าตาข้อสอบของ CU-AAT Math และ ACT Math เป็นอย่างไร เหมือนหรือแตกต่างกันตรงจุดไหนบ้าง และเราควรจะเลือกสอบตัวไหนดี วันนี้พี่ภัทร์มา เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างข้อสอบ CU-AAT MATH และ ACT Math จับทั้งสองข้อสอบมาเปรียบเทียบกันในทุกแง่มุม เพื่อเป็นอีกแนวทางในการช่วยน้องๆ ตัดสินใจครับ ทำความรู้จักข้อสอบ CU-AAT Math VS ACT Math เมื่อเรารู้จักข้อสอบ CU-AAT และ ข้อสอบ ACT TEST กันแล้ว.. ก็มาดูกันว่าเมื่อมีคะแนน CU-AAT Math และ ACT Math สามารถยื่นเข้าคณะไหน มหาลัยไหนได้บ้าง คะแนน […]
Comments (0)
Comments