ส่องหลักสูตรแพทย์ 2 ปริญญา มีกี่หลักสูตร เรียนอะไรบ้าง?
มาแรงไม่พักนาทีนี้ ต้องยกให้หลักสูตร “แพทย์ 2 ปริญญา” ไปเลย ที่หลายมหาวิทยาลัยชั้นนำ ผลิตหลักสูตรกันออกมาเพียบ ตอบโจทย์คนอยากเรียนหมอ ที่อยากเรียนด้านอื่นๆ เพื่อเสริมทักษะ แค่ 1 ปริญญายังไม่พอ ไหนๆ จะเรียนทั้งที ขอเรียนทีเดียวคุ้มมมม พี่แอดมินเลยขอทำหน้าที่รวบรวมสุดยอดหลักสูตรแพทย์ 2 ปริญญาเอาไว้ให้ ว่าจะมีกี่หลักสูตร และแต่ละหลักสูตรมีจุดเด่นอย่างไร ไปดูเพิ่มเติมกันครับ
แพทย์ 2 ปริญญา คืออะไร?
แพทย์ 2 ปริญญา ก็คือหลักสูตรที่มีการควบรวมระหว่างหลักสูตรแพทย์ กับสาขาวิชาอื่นๆ ซึ่งมีทั้งรูปแบบจบการศึกษาได้รับปริญญาตรี 2 ใบ จาก 2 มหาวิทยาลัย และจบการศึกษาได้รับปริญญาตรีพร้อมปริญญาโท
แพทย์รามา 2 ปริญญา
เริ่มกันที่แพทย์รามา กับหลักสูตร 2 ปริญญาในดวงใจของน้องหลายๆ คน
- โครงการร่วม 2 หลักสูตร พ.บ. – วศ.ม. หรือ วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วิศวกรรมชีวการแพทย์)
เรียนทั้งหมด 7 ปี โดยน้องๆ จะได้เรียนชั้นพรีคลินิก 3 ปีแรกที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จากนั้นชั้นปีที่ 4 จะเป็นการเรียนในหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ เป็นเวลา 1 ปีและกลับเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตในชั้นปีที่ 5 – 7 ทางด้านคลินิก โดยยังคงมีการทำงานวิจัยของหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ ควบคู่ไปด้วย
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม. (วิศวกรรมชีวการแพทย์)) (M. Eng. (Biomedical Engineering))
- โครงการร่วม 2 หลักสูตร พ.บ. – กจ.ม. หรือ การจัดการมหาบัณฑิต (นานาชาติ)
เรียนทั้งหมด 7 ปี โดยเรียนชั้นพรีคลินิก 3 ปีแรกที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จากนั้นเข้าศึกษาในหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต (นานาชาติ) โปรแกรม Healthcare and wellness management 1 ปีที่วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล และกลับมาเรียนชั้นคลินิกที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ควบคู่ไปกับการทำวิจัยสำหรับวิทยานิพนธ์หลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิตอีก 3 ปี
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และการจัดการมหาบัณฑิต (นานาชาติ) (กจ.ม.) (Master of Management, M.M.)
แพทย์จุฬา 2 ปริญญา
โครงการร่วม 2 หลักสูตร พ.บ. – วท.ม. หรือ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิศวกรรมชีวเวช)
โดยน้องๆ ที่เรียนในโครงการนี้จะสามารถเลือกลงทะเบียนเรียนรายวิชาในสาขาวิชาวิศวกรรมชีวเวชควบคู่ไปกับการเรียนตามหลักสูตรแพทย์ได้ตามความสนใจ และเมื่อเรียนตามหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตครบ 120 หน่วยกิต และมีคุณสมบัติตามที่คณะกรรมการบริหารหลักสูตรกำหนด จะมีสิทธิ์สมัครเข้าศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สหสาขาวิศวกรรมชีวเวชได้
หากได้รับการคัดเลือกเข้าหลักสูตร ในชั้นปีที่ 4-6 น้องๆ จะได้เรียนตามหลักสูตรแพทย์ ควบคู่ไปกับการสัมมนา และการทำวิทยานิพนธ์ในหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต โดยสามารถเลือกได้ใน 6 สาขาวิจัย ได้แก่ สาขา Medical instruments and biosensors, สาขา Biomechanics, สาขา Rehabilitation, สาขา Medical Imaging, สาขา Tissue engineering and Drug delivery system และสาขา Bioinformatics
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.) (Master of Science, M.Sc.)
แพทย์ธรรมศาสตร์ 2 ปริญญา
หลักสูตรร่วม 2 ปริญญา ระหว่างแพทยศาสตรบัณฑิต และศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขา “กฎหมายทางการแพทย์และสุขภาพ” และ สาขา ”การบริหารโรงพยาบาลและธุรกิจสุขภาพ”
- หลักสูตรร่วมคณะนิติศาสตร์ สาขาวิชากฎหมายทางการแพทย์และสุขภาพ
พูดถึงความโดดเด่นของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ต้องนึกถึงคณะนิติศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายเป็นอันดับแรก หลักสูตรนี้จึงเป็นการนำเอาจุดเด่นทางด้านกฎหมายมาควบรวมกับความรู้ทางการแพทย์ โดยมุ่งเน้นผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ด้านกฎหมายทางการแพทย์และสุขภาพ พร้อมการเป็นนักวิชาการที่สามารถทำวิจัยพื้นฐานหรือต่อยอดเป็นงานวิจัยเชิงนโยบายได้
น้องๆ จะได้เรียนทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ควบคู่กับการเรียนพื้นฐานกฎหมายทางการแพทย์และสุขภาพ กฎหมายด้านสถานพยาบาล รวมไปถึงระบบหลักการความรู้ด้านระบาดวิทยาคลินิก โดยเป็นการเรียนภาคทฤษฎีควบคู่กับการทำวิจัยทางคลินิกจริง
เรียน 7 ปี เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายทางการแพทย์และสุขภาพ (ศศ.ม.) (Master of Art in Health and Medical Law)
- หลักสูตรร่วมคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ด้านการบริหารโรงพยาบาลและธุรกิจสุขภาพ
โดยน้องๆ จะได้เรียนครอบคลุมตามหลักสูตรแพทยศาตรบันฑิต พร้อมการเรียนหลักการบริหารโรงพยาบาล กฎหมายนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญาทางการแพทย์ กฎหมายธุรกิจทางการแพทย์ และนิติเวชศาสตร์ขั้นสูง โดยเป็นการเรียนภาคทฤษฎีควบคู่กับการทำวิจัยทางคลินิกจริงเช่นเดียวกัน
เรียน 7 ปี เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารโรงพยาบาลและธุรกิจสุขภาพ (ศศ.ม.)
แพทย์ ม.ขอนแก่น 2 ปริญญา
ข้ามมาฝั่งภาคอีสานกันบ้าง จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก มข. อีกคณะแพทย์ในดวงใจน้องๆ ทั่วประเทศ ซึ่งหลักสูตรแพทย์ 2 ปริญญาของที่นี่จะแบ่งออกเป็น
- โครงการร่วม 2 หลักสูตร พ.บ. – วท.ม. หรือ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาการบริหารโรงพยาบาล)
เรียนทั้งหมด 6 ปี โดยเป็นการเรียนควบคู่กันตลอดหลักสูตร มุ่งเน้นการผลิตนักบริหารทางการแพทย์ นักวิจัยด้านการบริหารและการสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม. (การบริหารโรงพยาบาล))
- โครงการร่วม 2 หลักสูตร พ.บ. – วท.ม. หรือ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาวิทยาการข้อมูลและสารสนเทศสุขภาพ)
เรียนทั้งหมด 6 ปี โดยเป็นการเรียนควบคู่กันตลอดหลักสูตร มุ่งเน้นการผลิตแพทย์ผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง นักวิจัยด้านวิทยาการข้อมูลและสารสนเทศสุขภาพ
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม. (วิทยาการข้อมูลและสารสนเทศสุขภาพ))
แพทย์ศิริราช 2 ปริญญา
Hybrid Program 6 ยกกำลัง 1 เป็นหลักสูตรแพทย์ 2 ปริญญา ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยน้องๆ สามารถเลือกเรียนได้หลายสาขาตามความสนใจ เช่น หลักสูตรการศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพ Bio-Design วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาธารณสุขศาสตร์ และการจัดการ นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรนานาชาติระดับปริญญาโท โดย 2 สถาบันการศึกษาชั้นนำจากต่างประเทศ คือ Oregon Health & Science University ประเทศสหรัฐอเมริกา ในหลักสูตร Health Informatics และ The University of Western Australia ประเทศออสเตรเลีย ในหลักสูตร Public Health
ซึ่งหลักสูตรนี้จะมีการปรับเนื้อหาและสร้างรายวิชาใหม่ จากเดิมที่นักศึกษาปี 1 ต้องเรียนวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิตศาสตร์ ปรับเป็นวิชาที่นำไปใช้ได้จริงในการเรียนแพทย์ เรียนกับอาจารย์จากศิริราชตั้งแต่ชั้นเรียนปีที่ 1 และยังมีการเพิ่มวิชาใหม่ๆ อย่าง วิชาว่าด้วยผู้สูงอายุ ศาสตร์ระบบสุขภาพ ไว้ในหลักสูตรด้วย
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และปริญญาโทในคณะที่สนใจ
แพทย์ SWU-NOTT 2 ปริญญา
โครงการร่วมของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม สหราชอาณาจักร
ต้องบอกก่อนว่าหลักสูตรนี้ไม่ใช่การเรียนแพทย์นานาชาติ แต่เป็นการเรียนคณะแพทย์ใน 2 สถาบัน โดยช่วงปี 1-3 จะเป็นการเรียนพรีคลีนิคที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยน็อตติงแฮม แล้วกลับมาศึกษาต่อในชั้นคลีนิค ปีที่ 4-6 ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมกับเพื่อนๆ คณะแพทย์ภาคปกติอีก 3 ปี
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับปริญญาตรีจาก 2 สถาบัน โดยเมื่อจบการศึกษา 3 ปีแรกจะได้รับ Bachelor Degree of Medical Sciences (B.Med.Sci.) จาก University of Nottingham และเมื่อจบการศึกษาชั้นปีที่ 6 จะได้รับปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
แพทย์ CICM 2 ปริญญา
ปิดท้ายด้วย หลักสูตรแพทย์ 2 ปริญญาอย่าง แพทย์แผนจีน วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
หลักสูตรนี้จะเป็นหลักสูตรแพทย์นานาชาติ จัดการเรียนการสอนแบบ 2 ภาษา คือ ภาษาจีนและภาษาอังกฤษ เน้นการศึกษาเกี่ยวกับการรักษาโดยไม่ใช้สารเคมี เน้นใช้สมุนไพร การฝังเข็ม ครอบแก้ว เป็นต้น
- ปีที่ 1 จะเป็นการศึกษาโดยใช้ภาษาอังกฤษ เรียนหมวดวิชาศึกษาทั่วไปซึ่งเป็นหลักสูตรกลางของมหาวิทยาลัย และกลุ่มวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ โดยเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ สถาบันภาษา และคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
- ปีที่ 2 ใช้ภาษาจีนในการศึกษา จัดการเรียนการสอนที่ Beijing University of Chinese Medicine สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเป็นการเรียนกลุ่มวิชาภาษาสำหรับการแพทย์แผนจีน
- ปีที่ 3 เป็นการศึกษาโดยใช้ภาษาอังกฤษ โดยเป็นการเรียนกลุ่มวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ปีที่ 4 เป็นการศึกษาโดยใช้ภาษาจีนเจาะลึกวิชาชีพเฉพาะ (การแพทย์แผนจีน) โดยเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ส่วน ปีที่ 5-6 ใช้ภาษาจีนในการศึกษา เป็นการเรียนเจาะลึกวิชาชีพเฉพาะ และเดินทางกลับมาฝึกเวชปฏิบัติก่อนสิ้นสุดหลักสูตรที่คลินิกการแพทย์ผสมผสานบริการด้านการแพทย์แผนจีน วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ / คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว และโรงพยาบาลชลบุรี
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับปริญญาตรีจาก 2 สถาบัน คือ การแพทย์แผนจีนบัณฑิต (พจ.บ.) (Bachelor of Traditional Chinese Medicine, B.CM.) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ Bachelor of Traditional Chinese Medicine จาก Beijing University of Chinese Medicine สามารถสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนจีนได้ทั้งในไทยและจีน
หลักสูตรน่าสนใจเพียบเลยใช่ไหม สำหรับน้องๆ คนไหนที่สนใจอยากเรียนเข้าคณะแพทย์ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร พี่แอดมินมีคอร์สใหม่มาแนะนำกับคอร์ส Medical Preparation เตรียมเส้นทางสู่แพทย์รอบพอร์ตแบบครบทุกมิติ เริ่มตั้งแต่การค้นหาตัวตน ปูพื้นฐานการทำวิจัยใส่พอร์ต จนไปถึงเตรียมพร้อมสู่การสัมภาษณ์เลยทีเดียว หรือหากสนใจเติมไฟ เสริมแรงบันดาลใจในการทำงานวิจัยก็มาจอยกันได้ที่ Research for Medical
สุดท้ายนี้ พี่แอดมินและพี่ๆ ignite ทุกคนก็ขอส่งแรงใจ และจะอยู่เคียงข้างน้องตลอดเส้นทางความฝัน สู้ไปด้วยกันครับ สนใจวางแผน จัดสรรตารางเรียนกับพี่ๆ Education Consult แบบส่วนตัวโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทักเข้ามาคุยกันได้ตลอดที่ Line: @ignitebyondemand และ โทร 091-5761475
หากต้องการเลือก Shop คอร์สเรียน Online สามารถเลือกช้อป!คอร์สเรียนด้วยตัวเองได้ที่
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, SAT
รีวิวเตรียมตัวสอบและสัมภาษณ์จนติด BBA TU โดยน้องภูมิ – ก๊อต คู่หู คู่ฮาจากรั้ว BBA TU ปีล่าสุด!
สวัสดีครับน้องๆ สำหรับหลายคนที่อยากเข้าเรียน BBA หรือหลักสูตรบริหารอินเตอร์นั้น อาจจะคิดว่าการสอบเข้า BBA เป็นเรื่องง่ายๆ ชิวๆ แต่เดี๋ยวก่อน!! วันนี้รุ่นพี่ ignite 2 คน ซึ่งตอนนี้เพิ่งเป็นนักศึกษา BBA TU (หลักสูตรการบริหารธุรกิจ ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ไปหมาดๆ จะมาเล่าให้น้องฟังว่า การสอบเข้า BBA ไม่ได้ง่ายอย่างที่น้องคิด!! ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันดีกว่าครับว่าพี่ๆ เค้าพยายามกันมากแค่ไหน และมีวิธีเตรียมตัวสอบเข้ากันยังไงให้ติดคณะในฝัน? Q : แนะนำตัวให้น้องๆ ignite รู้จักกันหน่อยครับ ก๊อต : สวัสดีน้องๆ ครับ พี่ชื่อ ก๊อต-พจนารท จบจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศรังสิตครับ ตอนนี้สอบติด BBA (หลักสูตรการบริหารธุรกิจ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ครับ ภูมิ : พี่ชื่อ ภูมิ-จารุภูมิ จบจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยมครับ ตอนนี้สอบติด BBA ธรรมศาสตร์ คณะเดียวกันกับก๊อตเลยครับ Q […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT, SAT Subject Tests
เทียบช็อต ต่อ ช็อต CU-ATS กับ SAT Subject Tests แตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
สวัสดีครับน้องๆ บทความนี้พี่ก๊อฟหยิบยกประเด็นร้อนมาแชร์ให้น้องๆ อ่านกันเลยครับว่า เมื่อ SAT Subject Tests ยกเลิกรอบสอบ ทำให้ทั้งปี 2021 จะเหลือรอบสอบเพียง 2 รอบสุดท้ายเท่านั้น คือ 8 พ.ค. และ 5 มิ.ย. น้องๆ หลายคนที่กำลังเตรียมตัวเข้า ISE และ BSAC จุฬาฯ จึงต่างหันมาเลือกสอบ CU-ATS ซึ่งก็เป็นอีก 1 ใน Requirements ของ 2 คณะนี้ วันนี้พี่ก๊อฟเลยขอมาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างข้อสอบ CU-ATS และ SAT Subject Tests แบบเจาะลึกทุกแง่มุมไปเลยครับ ทำความรู้จักข้อสอบ CU-ATS vs SAT Subject Tests ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักทั้ง 2 ข้อสอบนี้กันดีกว่า […]
Comments (0)
-
Blog, SAT
เจาะลึกเส้นทางการสอบติด BALAC CU รอบข้อเขียน โดยน้องพิมพ์ สวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต
สวัสดีครับ น้องๆ ที่มีความฝันอยากสอบเข้าคณะ BALAC CU ทุกๆ คน วันนี้พี่พาพี่พิมพ์ ignite idol คนเก่งของเรามาถามตอบ พร้อมแนะแนวทางเส้นทางในการเตรียมตัวสอบคณะ BALAC จุฬา รอบข้อเขียน ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีเทคนิคทำข้อสอบและเตรียมตัวสัมภาษณ์ อย่างไรก็ไปเริ่มกันเลย.. Q: แนะนำตัวให้น้องๆ ignite รู้จักกันหน่อยครับ พิมพ์: สวัสดีค่ะ พี่ชื่อพิมพ์ กาชัย จบจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต สอบติด BALAC จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Q: เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับว่า ทำไมถึงอยากเข้าคณะอักษรศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ พิมพ์: หนูรู้ตัวมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่าเราชอบภาษา ก็เลยมาทางนี้ และอยากเรียนภาษาที่ 3 เพิ่มด้วยค่ะ Timeline การเตรียมตัวสอบ BALAC CU รอบข้อเขียน – น้องพิมพ์ Q: พอน้องรู้ตัวแล้วว่าอยากเข้าคณะนี้ […]
Comments (0)
-
Blog
ข้อสอบ Duolingo คืออะไร? รู้จักการสอบที่เพิ่มโอกาสให้สอบติดคณะอินเตอร์ยอดฮิตมากมาย
สวัสดีทุกคนครับ วันนี้พี่ ignite นำข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับข้อสอบ Duolingo English Test ข้อสอบวัดระดับภาษาที่กำลังมาแรงในขณะนี้ เพราะมาพร้อมกับความ “สะดวกและรวดเร็ว” กว่าข้อสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ผ่านมา นอกจากสะดวกและเร็วแล้วยังสามารถใช้ยื่นคณะอินเตอร์ยอดฮิตได้มากมาย ข้อสอบ Duolingo คืออะไร เป็นอย่างไร ใช้ยื่นคณะไหนได้บ้าง ค่าสมัครสอบและตารางสอบเป็นอย่างไร อย่ารอช้า…พร้อมแล้วไปอ่านกันเลย ! Duolingo English Test คืออะไร? Duolingo English Test คือ แบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษเพื่อใช้พิจารณาผู้ยื่นเข้าศึกษาในดับปริญญาตรีของหลักสูตรนานาชาติของทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ 6 เหตุผลที่ Duolingo กำลังมาแรง 1. สอบได้ทุกที่ทุกเวลา สอบได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ต้องเดินทางมาที่ศูนย์สอบ สามารถทดสอบทักษะภาษาอังกฤษครบทั้ง 4 ทักษะ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน สัมภาษณ์ผ่าน Video Conference 2. ใช้เวลาสอบน้อย ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงในการทำข้อสอบ 3. สมัครง่าย ใช้ข้อมูลน้อย ต้องการเพียงแค่ ชื่อ […]
Comments (0)
Comments