4 ปัจจัย ทำไมสอบ SAT Math ไม่เต็ม 800 ซะที

สำหรับน้อง ๆ ทั้งที่เรียนภาคไทย, EP (English Program) หรือน้อง ๆ ที่เรียนภาคอินเตอร์ แล้วเคยสอบ SAT มาแล้ว เคยสงสัยไหมว่าทำไม? พอเห็นคะแนนหลังสอบออกมาจาก Collegeboard แล้วจะร้อง Ohhh Noooo(กรุณาจินตนาการเสียงให้เหมือนด้วย) แทบทุกคน ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า “คะแนนที่คิดตอนทำข้อสอบ SAT Math เสร็จ กับคะแนนที่ได้จริงนั้น มันช่างแตกต่างกัน”
การเลือกตอบของน้องในแต่ละข้อนั้น มันช่างสำคัญมาก มาก มาก ขึ้นไปเรื่อย ๆ ถ้าน้องอยากเข้าคณะที่มัน Poppular จนถึงขนาดน้อง ๆ ต้องคาดหวังคะแนนจาก SAT Math แบบว่าต้องได้เต็ม 800 กันเลยทีเดียว โดยส่วนตัวแล้ว พี่เชื่อว่าน้องทุกคนสามารถทำคะแนนเต็ม 800 คะแนนในการ สอบ SAT Math ได้ ถ้าน้องมีพืิ้นฐานเลขที่ดีและเตรียมตัวระวัง 4 ปัจจัยพวกนี้ คือ “รู้ไม่ครบ ทำไม่ทัน ขาดระวัง ตัวไม่พร้อม”
ปัจจัยที่ทำให้น้อง ” สอบ SAT MATH ” ไม่ได้คะแนนเต็ม 800

ปัจจัยที่ 1: รู้ไม่ครบ
หมายความว่า น้องยังไม่รู้จักแนวข้อสอบ SAT Math ดีพอ ทั้งหมด เนื่องจากข้อสอบในแต่ละสนามนั้น มันจะมีลักษณะเฉพาะตัวอยู่ มีรายละเอียดเนื้อหาที่ออกและไม่ออกอยู่ ถ้าน้องรู้ว่าเขาจะออกเนื้อหาอะไรบ้าง ข้อสอบเป็นลักษณะไหนบ้าง น้องก็จะวางกลยุทธ์ในการเตรียมตัวเรียน SATและการทำข้อสอบ SAT Math ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล
พอน้องรู้ไม่ครบ ก็ทำให้บางข้อ หรือบางโจทย์ น้องก็จะทำไม่ได้ หรือโดนข้อสอบหลอก (ทำได้ แต่ที่ตอบน่ะผิดจ้า) ในกรณีแบบนี้จริง ๆ แล้วถ้าน้องแค่รู้ น้องก็ทำได้แล้วครับ
พี่ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพละกัน เช่น ถ้าน้องภาคไทย เตรียมตัวสอบ PAT1 (ความถนัดทางคณิตศาตร์) ซึ่งมันยากกว่าข้อสอบ SAT Math แน่นอน แล้วน้องบอกว่า เนื้อหา PAT1 ครอบคลุมหมด หนูอ่าน PAT1 เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยมาลองทำโจทย์ Math ที่เป็นภาษาอังกฤษดู แค่นี้หนูก็ไป สอบ SAT Math ได้เต็ม 800 แล้ว — พี่บอกไว้เลยว่า “ยากส์” ที่จะเต็ม 800 น้องต้องเป็นตัว Top จริง ๆ เท่านั้นถึงจะทำได้ เพราะข้อสอบ PAT1 กับข้อสอบ SAT Math มันคนละลักษณะหรือคนละเรื่องกันเลย ถึงแม้น้องจะเก่ง PAT1 มาก ก็ต้องมีข้อสอบ SAT Math บางข้อที่น้องไม่รู้จะคิดยังไง เอาเนื้อหาไหนมาใช้แก้โจทย์ สิ่งนี้ละ คือ ปัจจัยแรกที่ทำให้น้องไม่เต็ม 800

ปัจจัยที่ 2: ทำไม่ทัน
หมายความว่า ในกรณีที่น้องรู้ครบหมดทุกเรื่องของเนื้อหาและข้อสอบ SAT Math แล้ว แต่ก็ยังไม่เต็ม เพราะเนื่องจากว่า น้องรู้ก็จริง แต่น้องทำไม่ทันครับ เพราะลักษณะของข้อสอบ SAT Math จะเป็นรูปแบบ Speed Test ด้วย คือ น้องต้องทำได้เร็วพอสมควร เนื่องจากความรู้ของน้องจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าน้องไม่ได้ใช้มัน เพราะเวลาหมดซะก่อน
ก็มีน้องสงสัยว่า ทำไม่ผมทำเท่าไรก็ทำข้อสอบไม่เคยทันซะที – น้องครับ เพราะน้องใช้วิธีเดิมในการทำ แล้วแค่พยายามจะคิดเลขให้เร็วขึ้นครับ ซึ่งมันไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องที่จะทำให้น้องเปลี่ยนจากคนที่ทำข้อสอบ SAT Mathไม่ทัน แล้วจะมาทำทันในเวลาได้ ดังนั้นเมื่อน้องรู้อย่างนี้ น้องต้องใช้เทคนิค ในการทำข้อสอบ SAT Math ให้ทันครับ ไม่ว่าจะเป็น วิธีการอ่านโจทย์แบบวิศวกร การอ่านตัวเลือกแบบคนขี้เกียจ การมองเห็นเทคนิคการทำแบบพิเศษ(เหมือนเห็นผี) เป็นต้น ซึ่งการที่น้องมีเทคนิคหรือลูกเล่นแบบนี้ น้องจึงจะสามารถทำข้อสอบได้ทัน และสามารถใช้ความรู้ของน้องได้อย่างเต็มที่ แล้วน้องก็จะได้คะแนนเต็ม 800 อย่างที่ต้องการ

ปัจจัยที่ 3: ขาดระวัง
ข้อนี้ พี่เรียกง่าย ๆ ว่า “สะเพร่า” ครับน้อง ไม่ว่าจะลืม เขียนสูตรผิด คิดเลขผิด กดเครื่องคิดเลขผิด เป็นต้น มันจะเป็นอาการประมาณว่า “โง่เอง” – แล้วผมจะทำยังไงไม่ให้เป็นละพี่ ? – คำถามนี้ มันต้องผุดขึ้นมาในหัวน้อง ๆ แน่นอน พี่ก็จะขอตอบว่า มันต้อง “ฝึก ฝึกและฝึก” ครับ ของแบบนี้ ต้องฝึกอย่างมีหลักการ ไม่ใช่ตะบี้ตะบัน ทำแบบเดิมไปเรื่อย ๆ (แล้วจะหวังผลแบบใหม่ มันเป็นไปไม่ได้)
ยกตัวอย่างการฝึกก็เช่น การใช้ปากกาสีตอนซ้อม(ใช้หลักการทางสมองนิดนึง) ฝึกใจนิ่งในสถานการณ์กดดัน การใช้กายมา remind เป็นต้น ถ้าน้องฝึกอย่างเอาจริง น้องจะได้พบผลลัพธ์ที่น้องจะทึ่งแบบไม่น่าเชื่อในการลดการสะเพร่า สำหรับการทำข้อสอบ SAT Math แล้วมันจะทำให้น้องพบกับ score 800 ตามที่หวัง

ปัจจัยที่ 4 ปัจจัยสุดท้าย: ตัวไม่พร้อม
หมายความว่า ในวันสอบจริง สภาพร่างกายและจิตใจน้องไม่พร้อมแบบ 120% ทำให้ไม่สามารถดึงศักยภาพในตัวออกมาได้อย่างเต็มที่ จากประสบการณ์ที่พี่เป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย เคยซ้อมกับสโมสร เคยซ้อมกับโค้ชทีมชาติ ทำให้เห็นว่านักกีฬาอาชีพจริง ๆ เขาซ้อมกันยังไง เตรียมตัวกันยังไง เมื่อเปลี่ยนมุมมองมาใช้กับการเตรียมตัวสอบ SAT ก็เห็นว่าน้อง ๆ หลายคนยังไม่เป็นมืออาชีพพอ ทำให้พอถึงจังหวะสำคัญในวันจริงมันก็จะผิดพลาดได้
“ทำไมนักกีฬาเขาต้องเลือกเวลาซ้อม ให้เหมือนเวลาแข่ง ?”
“ทำไมนักกีฬาเขาต้องขอไปซ้อมสนามจริงก่อนวันแข่ง ?”
“อุปกรณ์ที่เขาใช้ซ้อมก็ต้องเป็นแบบเดียวกับที่ใช้แข่ง ?”
ถ้าน้องอ่านแล้วคิดดูดีดี มาเปรียบเทียบกับการเตรียมตัว สอบ SAT Mathของน้องเอง แล้ว
- น้องเคยฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลา เหมือนของจริงในช่วงเช้าเหมือนวันสอบไหม ?
- น้องเรียน น้องฝึกทำข้อสอบ นั้นเลือกใช้ดิินสอแท่งเดียว หรือยี่ห้อเดียวกับที่ใช้วันจริงไหม ?
- น้องเคยสัมผัสบรรยากาศของการสอบจริงหรือยัง ?
- เวลากินข้าว กินน้ำ การเข้าห้องน้ำของน้อง น้องปรับให้มันสอดคล้องกับวันเวลาสอบแล้วไหม?
อันนี้แค่ส่วนหนึ่ง เพราะเรื่องพวกนี้ เป็นเรื่องละเอียด และสำคัญ (น้องอาจจะคิดว่าไม่สำคัญ) แต่ถ้าน้องละเอียดกับเรื่องพวกนี้ มันก็จะทำให้น้องดึงความรู้ความสามารถมาใช้ได้อย่างเต็มที่ในวันสอบจริงครับ
สุดท้าย บทความนี้ก็เป็นแค่การชี้ให้เห็นสิ่งที่น้องมักจะพลาดแล้วทำให้ได้คะแนนไม่ดีเท่าที่คิดไว้ จริง ๆ แล้วอาจจะมีปัจจัยส่วนบุคคลอย่างอื่นอีกก็ได้ พี่ต้องการแค่ชี้ให้เห็น เมื่อน้องเห็นน้องก็จะมีการป้องกันตัว การแก้ไข ซึ่งสิ่งเหล่นี้จะทำให้น้องพัฒนาขึ้น แล้วน้องก็จะได้เข้าไปเรียนใน “คณะที่ใช่ มหาวิทยาลัยที่ชอบ” ครับ
ปล. สำหรับเทคนิคต่าง ๆ ในบทความนี้ วันหลังพี่จะเอามาแลกเปลี่ยนการในตอนถัด ๆ ไปนะครับ หรือใครมีเทคนิคแบบไหนก็สามารถส่งมาแบ่งปันกันได้ครับ
แต่สำหรับน้องๆ คนไหนที่กำลังเตรียมตัวจะไปสอบ SAT และต้องการเตรียมตัวเพิ่มเติมน้องๆ สามารถเข้าไปดูคอร์ส SAT Math ได้ที่นี้เลย >> Course SAT Math แต่หากใครชอบแบบ Private ก็สามารถลงเรียนแบบ One on One หรือจะเข้ามาปรึกษาพี่ๆ Ignite ใน Line@ :@ignitebyondemand ก่อนก็ได้เช่นกันครับ พี่ยินดีช่วยเหลือให้คำปรึกษาน้องเต็มที่ครับ
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
ไม่มีหมวดหมู่, Blog, GED
GED Ready เครื่องมือ(ไม่)ลับ อัพคะแนนตามเป้า!
สวัสดีค่ะน้องๆ กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความ GED วันนี้พี่จะมาเล่าถึงเครื่องมือในการเตรียมสอบ GED ที่สำคัญมากๆ ที่เรียกว่า GED Ready โดยเฉพาะน้องๆ ที่วางแผนอยากจะไปสอบ GED และต้องการที่จะยื่นวุฒิตัวนี้เพื่อเข้าจุฬา หรือ ธรรมศาสตร์ ซึ่งตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป ทางที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้กำหนดเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำของ GED จาก 145 คะแนน (High School Equivalency) เป็น 165 คะแนน (GED College Ready) บอกเลยว่ายากกว่าเดิมมาก และที่สำคัญนโยบายใหม่ของ GED ตั้งแต่ปี 2017 (แอบไปถามทาง GED มาแล้ว ข้อมูลนี้คอนเฟิร์ม!!) ระบุว่า หากสอบผ่าน GED High School Equivalency ไปแล้ว (145/200) การทำเรื่องขอสอบใหม่เพื่อต้องการปรับคะแนนขึ้นจะไม่สามารถทำได้ทุกคนแล้วนะคะ ส่วนใครแก้ได้ใครแก้ไม่ได้เดี๋ยวพี่จะให้ข้อมูลไว้ข้างล่างค่ะ แต่เอาเป็นว่าตอนนี้มีเงื่อนไขเกิดขึ้นใหม่มากมาย สำหรับใครที่ยังยืนยันจะสอบ […]
Comments (0)
-
Blog, SAT
How to เตรียมตัวสอบ SAT ให้ได้ 1530 ตั้งแต่ม.5 โดยน้องแนทเซนต์โย
สวัสดีครับน้องๆ วันนี้พี่ภัทร์ภูมิใจนำเสนอน้องสาวสุดน่ารักจาก ignite เจ้าของคะแนน SAT รวม 1530 ซึ่งถือว่าสูงมากๆ พี่ภัทร์เลยขอพาน้องสาวคนนี้ มาแชร์ไทม์ไลน์การ เตรียมตัวสอบ SAT พร้อมทั้งเทคนิคการพิชิตข้อสอบ SAT ให้ได้ Perfect score รับรองว่ายื่นที่ไหน ก็ติดแน่นอน เราไปทำความรู้จักน้องสาวคนนี้กันเลยครับผม Q: แนะนำตัวให้น้องๆ ignite รู้จักกันหน่อยครับ? น้องแนท: สวัสดีค่ะ แนท นะคะ ณัฐชา พิชิตธนารักษ์ ตอนนี้อยู่ ม.5 โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ค่ะ แนทเพิ่งสอบ SAT รอบ September ของปีนี้เป็นครั้งแรกเลยค่ะ คะแนนที่ได้คือ 1530 โดยได้ SAT Math 780 และ SAT Reading and Writing 750 ค่ะ […]
Comments (0)
-
Blog, IELTS
คุยกับอดีต IELTS Examiner คนไทยในต่างแดน P’Patrick Oxford
น้องๆ หลายๆ คนอาจจะคุ้นหน้าหรือเคยเรียนกับพี่แพททริคกันมาบ้างแล้วไม่ว่าจะเป็นคอร์ส IELTS หรือ SAT Reading & Writing แต่ทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วพี่แพททริคเคยเป็นอดีต IELTS Examiner คนไทย ในต่างประเทศมาก่อน!!! ถ้าน้องๆ อยากรู้จักกับพี่แพททริคมากขึ้นไปอ่านกันต่อได้เลย Q: ช่วยแนะนำตัวหน่อยครับ A: สวัสดีครับ ชื่อพี่แพททริคครับ จบ Postgraduate Diploma ด้าน English for Academic Purposes จาก The University of Waikato ที่ New Zealand ปริญญาโทด้าน Digital Language and Literacies จาก Lancaster University แล้วก็ปริญญาโทอีกใบด้าน Teaching English Language […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT, SAT Subject Tests
คณะวิศวะ SIIT คืออะไร? เรียนอะไรบ้าง? อยากสอบติดต้องทำอย่างไร?
สวัสดีว่าที่น้องๆ วิศวะทุกคนนะครับ พี่แอดมินขอพามาทำความรู้จักกับคณะวิศวะอินเตอร์ “SIIT” หลักสูตรยอดฮิตที่เชื่อว่าน้องๆ ต้องเคยได้ยินชื่อมาแล้วแน่นอน เรียกว่าเป็นคณะที่เด็กมัธยมปลายหลายๆ คนใฝ่ฝันที่จะเข้าเรียนกันเลยทีเดียว แต่แค่เคยได้ยินชื่ออย่างเดียวคงไม่พอ วันนี้พี่แอดมินจะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับคณะวิศวะอินเตอร์ SIIT คืออะไร? เรียนอะไรบ้าง? อยากสอบติดต้องทำอย่างไร? ให้พวกเราไม่พลาดทุกประเด็นเกี่ยวกับคณะนี้เลยนะครับ ถ้าพร้อมแล้วไปทำความรู้จักวิศวะ SIIT พร้อมกันเลยจ้า วิศวะ SIIT คืออะไร? เรียนอะไร? SIIT (Sirindhorn International Institute of Technology) หรือ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือ คณะวิศวะอินเตอร์ที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติ โดยมีทั้งหมด 9 สาขาวิชา ซึ่งเป็นหลักสูตรด้านวิศวกรรมศาสตร์ 7 สาขาและหลักสูตรการจัดการ 2 สาขา ทั้งนี้ SIIT จะเน้นการเรียนการสอนกับอาจารย์ที่มีคุณภาพ ด้วยความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในห้องแล็บที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ครบครัน ซึ่งการเรียนการสอนของ SIIT จะเป็นภาษาอังกฤษทั้งเนื้อหาการเรียน แบบฝึกหัด การพรีเซนต์ต่างๆ และยังได้เรียนร่วมกับนักเรียนแลกเปลี่ยนหลากหลายเชื้อชาติอีกด้วย SIIT เป็นคณะที่มีทุนการศึกษาในแต่ละปีกว่า 200 […]
Comments (0)
Comments