รีวิวสอบเข้า INDA CU อย่างละเอียด โดยน้องมิ้นท์ สตรีวิทยา
สวัสดีน้องๆ ที่อยากเข้า INDA (International Program in Design and Architecture) หรือ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาวิชาการออกแบบสถาปัตยกรรม (หลักสูตรนานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกคนนะครับ วันนี้แอดมินพาพี่มิ้นท์ รุ่นพี่ ignite ที่สอบติด INDA รอบ Early ปีล่าสุดมารีวิวการเตรียมตัวสอบ และการสอบ ตั้งแต่การเก็บคะแนนเพื่อยื่น การสอบรอบข้อเขียน และการสอบสัมภาษณ์ เพื่อช่วยให้คำแนะนำน้องๆ ใช้เป็นแนวทางในการเตรียมตัวกัน จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปฟังกันเลย
Q: ช่วยแนะนำตัวให้น้องๆ ignite รู้จักกันหน่อยครับ
A: ชื่อมิ้นท์ค่ะ จบจากโรงเรียนสตรีวิทยาค่ะ สอบติด INDA จุฬาฯ ค่ะ
Q: เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับว่าทำไมถึงอยากเรียน INDA
A: หนูชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กๆ พอมีพื้นฐานศิลปะบ้าง มีคนมาพูดกับหนูตลอดว่าทำไมไม่ทำสิ่งที่ตัวเองวาดให้เป็นจริง หรือ เอาความสามารถไปช่วยคนอื่น เลยลองมาศึกษาด้านนี้ก็รู้สึกว่าเจ๋งดี หนูลองได้ไปดูคลิปและลองไปทำงานของมัน หนูก็รู้สึกว่าทำได้แล้วก็ไม่เบื่อด้วย ทำได้เรื่อยๆ หนูเคยเรียนวาดรูปมาบ้างแล้วตั้งแต่ ม.4 เรียนเผื่อไว้ พวกแรงเงา ตอนจะขึ้น ม.5 ก็รู้ตัวเเล้วว่าจะเข้าคณะนี้ ที่บ้านก็อยากให้ได้ภาษาอังกฤษด้วยเลยมาเข้า INDA ดีกว่า เพราะสถาปัตย์อินเตอร์ในไทยมีไม่เยอะ ที่นี่ก็น่าจะตรงสายกับหนูที่สุด จริงๆ ภาษาอังกฤษพื้นฐานไม่ค่อยดี ตอนม.ต้นเรียนภาคปกติ พึ่งย้ายมา EP ตอน ม.ปลาย ภาษาอังกฤษก็พัฒนาขึ้น ได้เรียนพิเศษด้วย ก็พัฒนาไปเรื่อยๆ
Q: น้องมีการเตรียมตัวสอบยังไง และใช้คะแนนอะไรในการยื่นบ้างครับ
A: หนูยื่น CU-TAD, IELTS, และก็ SAT Math ค่ะ
CU-TAD
เริ่มจากวาดรูปก่อนเพราะการวาดรูปไม่ได้ใช้เวลาแปปเดียวเเล้วมันได้ ตัวข้อสอบถ้าเราจับถูกทาง สามารถทำให้ได้ตรงจุดกับที่ข้อสอบต้องการจะสามารถพัฒนาได้เร็วมาก หนูเลยเริ่มเรียนมาตั้งแต่ ม.4 และจริงจังตอน ม.5 เพราะว่าต้องสอบให้ได้ หนูยื่น CU-TAD 70 คะแนน สอบไปทั้งหมด 3 รอบค่ะ สำหรับ CU-TAD หนูคิดว่าต้องลองสนามสอบก่อนไม่ว่าใครก็ตาม ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครไปสอบครั้งแรกแล้วได้เลย ควรต้องไปลองก่อน
IELTS
IELTS หนูสอบไป 2 รอบ พอจะสอบหนูรู่ว่า Writing ยากสุด หนูก็เลยไปลง Adv. Writing for IELTS กับพี่กั๊ก ช่วยเยอะมาก มีประโยชน์มาก ตอนแรกได้คะแนนไม่ค่อยดีเพราะพาร์ทอื่นยังไม่ค่อยเเม่น สอบเเล้วยังไม่โอเค รอบแรกหนูเตรียมตัวได้ไม่ดีมากพอ ตอนแรกคิดว่าเหมือนจะทำได้ คิดเข้าข้างตัวเองว่าถ้าไปทำของจริงคงจะได้มากกว่า แต่พอไปทำจริงหนูรู้เลยว่าถ้าฝึกแล้วมันทำได้แค่ไหนก็คือได้เท่านั้น หรือบางทีอาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ หนูเลยเตรียมตัวใหม่ไปสอบอีกรอบ สำหรับคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษควรจะใช้เวลาในการศึกษา ฝึกทำ ลองทำดูเองก่อน ดูคลิปเพิ่มมันจะช่วยพัฒนาหลายอย่างมาก ตอนที่พร้อมเเล้วจริงๆช่วงใกล้จะสอบอีกรอบก็ไปเรียนไพรเวทกับพี่แนนด้วย เพื่อเตรียมตัว ก่อนสอบ ส่ง Essay ให้พี่เค้าตรวจได้ตลอดเลย ให้ช่วยอธิบายก็คอยตอบเราเสมอ ช่วยอัพคะแนนได้ขึ้นมา คะแนนก็ขึ้นจาก แบนด์ 6 มาแบนด์ 7
SAT Math
ส่วน SAT หนูมาลงเรียนคอร์สสดกับ ignite เริ่มตั้งแต่ Pre SAT Math ถึง SAT Math ธรรมดา และก็ลง Anywhere ออนไลน์ คอร์ส Adv. SAT Math ซึ่งเป็นเหมือนการรวมโจทย์เยอะๆ ชอบมากค่ะ หนูเริ่มลองสอบตอนปิดเทอมก่อนขึ้นม.5 สอบไป 3 รอบ เกณฑ์มันเอาไม่ได้เยอะขนาดนั้น รอบแรกหนูได้ 700 แต่ก็สอบอีก 2 ครั้งเพราะอยากอัพมากกว่านี้ สุดท้ายได้ 730 ซึ่งหนูก็คิดว่ามันโอเคเเล้ว นี่ก็เกินเกณฑ์แล้ว คิดว่าพอได้เเล้ว จะได้ไปทำ Portfolio ต่อ
หนูแนะนำว่าควรทำคะแนนที่ต้องใช้ยื่นให้จบภายใน ม.5 เพื่อจะไปทุ่มกับ Portfolio ตอนม.6 มันจะเป็นอะไรที่เวิร์คมาก แต่ของหนูบางตัวคะแนนยังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ เลยต้องสอบใหม่อีกรอบ ยืดเยื้อไปถึง ม.6 ด้วยซึ่งมันไปคาบเกี่ยวกับตอนทำ Portfolio หนูรู้สึกว่าใครทำให้จบก่อนจะดีกว่าเพื่อให้ทำ Portfolio ได้ทัน
เตรียม Portfolio เพื่อสอบเข้า INDA CU
Q: เล่าถึงตอนที่ทำ Portfolio ให้ฟังหน่อยครับ แล้วมีคำแนะนำอะไรที่อยากแชร์มั้ยครับ
A: เริ่มทำเดือนมีนาคมก่อนขึ้น ม.6 หนูก็ทำไปเรื่อยๆ ในช่วงแรกๆ เพราะรู้สึกว่าเวลามันยังอีกยาวไกล แต่พอกลับมาคิดดูแล้วมันเป็นอะไรที่ผิดพลาดมาก เพราะตอนท้ายๆ มันเยอะแล้วทำให้ลนมาก โชคดีที่ปีหนูติดสถานการณ์โควิด การส่งเอกสารเลยใช้เป็นไฟล์ ช่วยประหยัดเวลาตอนที่ปริ้นท์ไปได้ 1-2 อาทิตย์ค่ะ
มีรุ่นพี่แนะนำมาว่า อย่างน้อยที่สุดควรทำมามากกว่า 8 งานขึ้นไป ซึ่งหนูทำไป 9 งาน ถ้าทำงานที่ง่ายก่อนมันก็มีข้อดีตรงที่เราจะมีงานสะสมเก็บไว้เยอะๆ อยู่แล้ว ถ้าไม่ทันตอนท้ายอย่างน้อยก็มางานมาโปะๆ ได้ แต่ถ้าเราทำงานยากก่อนเลยอาจจะได้งานที่อลังการมากกว่าแต่ก็ต้องเตรียมใจไว้ว่าจะได้ชิ้นงานที่น้อย ของหนูเลยเริ่มจากงานที่ไม่ยากก่อน จนพอมีงานอยู่ในมือให้อุ่นใจ ถึงไปเริ่มงานยากต่อค่ะ
การทำ Portfolio ของ INDA ไม่ได้เน้นความอลังการขนาดนั้น เค้าเน้นที่ Concept มากกว่าว่างานนั้นมีความหมาย หรือ แรงบันดาลใจมาจากอะไร ดีกว่าทำงานอลังการแต่ไม่ได้มีความหมายอะไร ถ้าน้องทำ 8 งาน ซึ่งเป็นงานง่ายหมดเลย แต่ concept ดี มันก็ติดได้ และ แนะนำว่าใน Portfolio ควรมีงานพวกสถาปัตย์ 2 งาน เซฟๆ ไว้ก่อนค่ะ
Q: ลองยกตัวอย่างงานใน Portfolio ให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ
A: หนูเป็นคนที่ถนัดทำมือมากกว่ากราฟฟิค หนูก็เลยชอบทำพวกโมเดล มีงานนึงที่ภูมิใจมากคือโมเดลตึกที่มี inspiration มากจากดอกไม้ งานนี้หนูเริ่มมาจากปัญหาที่เห็น เราสามารถแก้ หรือทำอะไรเล่นอะไรได้บ้าง หนูไปเห็นพวกตลาดแบบปากคลองตลาด มันดูไม่ค่อย organized เลยรู้สึกว่า อยากทำเป็นพื้นที่ตึกใหญ่ๆ ออกมาสำหรับการขายดอกไม้โดยเฉพาะ ทำให้มันดูดี ดูสะอาด หนูร่างไว้ก่อน เเล้วค่อยมาทำโมเดลมือค่ะ อยากบอกน้องๆ ว่าทุกอย่างควรอยู่ในสมุดสเก็ตโดยเฉพาะ เพราะบางที่เค้าอาจจะอยากเรียกดูการสเก็ตของเราว่ามีไอเดียอะไรก่อนที่จะเป็นชิ้นงานนี้ด้วยค่ะ
Q: การสอบข้อเขียนของ INDA เป็นยังไงบ้างครับ
A: หนูยื่นรอบแรก เลยมีสอบทั้ง Written exam และ Interview สำหรับการเขียนเค้าจะให้โจทย์มา โจทย์ที่หนูได้คือ ให้ดีไซน์อะไรก็ได้จากอะไรก็ได้ หนูก็เลยเลือกที่จะดีไซน์โคมไฟจากดอกไม้ค่ะ อยากแนะนำว่าถ้าเคยฝึกดีไซน์ของมาแล้ว ให้เอาสิ่งที่เราเคยออกแบบไว้ในหัวมาทำเลยดีกว่า เพราะถ้าคิดใหม่มันจะเสียเวลามาก เค้าให้เวลาไม่เยอะ หนูเลยเอาสิ่งที่หนูเคยออกแบบมาเขียนเลย เค้ามีให้ส่ง 2 อย่าง คือที่เราวาดรูป ไม่ต้องลงสี วาดดินสอธรรมดา กับ ตัว Essay คือ เค้าจะให้เขียนเกี่ยวกับพวก function, inspiration, และ concept สิ่งที่เราดีไซน์ไปค่ะ
Q: แล้วรอบสัมภาษณ์โหดไหมครับ
A: เริ่มมาเค้าขึ้นหน้าจอเป็นตัวเลขให้เราเลือก หนูก็เลือกตัวเลขนึงไป เปิดมาเป็นภาพศิลปะ เค้าให้เราดูและให้อธิบายให้ฟังว่าเราเห็นอะไรจากภาพนี้บ้าง อยากรู้มุมมองของเราต่อภาพนี้ค่ะ พอจบอันนี้ก็เป็นการสัมภาษณ์ธรรมดาซึ่งอาจารย์ใจดีมาก คำถามที่เจอก็เช่น ถ้าคุณมีโอกาสที่จะทำงาน อยากทำงานคู่กับ architect คนไหน ซึ่งหนูคิดว่าน้องๆ ควรจะเลือกไว้ในใจก่อนมาแล้ว เพราะถ้าเค้าถามจะได้ตอบได้เลย มีถามด้วยว่าทำไมถึงเลือก INDA แต่จริงๆ อาจารย์ถามไม่ค่อยเยอะ เน้นที่ Portfolio มากกว่า เค้าจะสุ่มเลือกมา 2 อันแบบสุ่มขึ้นมาเลย เเล้วให้เราอธิบายว่าทำไมเราถึงเลือกทำงานชิ้นนี้ จบท้ายด้วยการถามว่ามีคำถามอะไรมั้ย ซึ่งหนูคิดว่าควรถามไป ไม่ควรบอกว่าไม่มีค่ะ
Q: น้องมีความประทับใจต่อ ครู และ ignite ยังไงบ้างครับ?
A: เริ่มจาก พี่ภัทร์ ก่อนเลย พี่เค้าเปิดกว้างมาก และก็เฮฮามาก เข้าถึงได้ไม่ยาก พี่เค้าเป็นฝ่ายที่เข้าหาเด็กเองก่อนเลยทำให้เรารู้สึกว่าเราก็ถามเค้าได้ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย กิจกรรมในห้องเรียนของคอร์สสดมีเล่นเกมด้วย พี่ภัทร์ก็ชอบซื้อขนมมาเลี้ยง ทำให้เด็กเอนจอยกับการเรียน ไม่กดดันมากเกินไป ส่วน พี่ข้าว น่ารักมาก ถ้าหนูไม่ได้อะไรเค้าก็จะพยายามสอน ใจเย็นมาก เเล้วก็ใจดีด้วย ไม่กดดันหรืออึดอัดเลย ทำให้เรารู้สึกอยากตั้งใจเรียนมากขึ้น และ พี่แนน พี่เค้าใจดีมาก เข้าใจเด็ก ถ้าหนูทำไม่ได้เค้าก็จะช่วย คอยถามตลอดว่าเรามีอะไรจะถามมั้ย แล้วไม่เคยเร่งเลย หนูไปมาหลายที่ บางที่เค้าอาจจะจำหนูไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะคนเยอะ แต่ของทีนี่เด็กไม่ได้เยอะเกินไป เวลาถามอะไรก็กล้าถาม ทำให้ครูกับเด็กมีคอนเนคชั่นกัน สงสัยก็ถามได้เลย พี่ๆ ใจดีมาก ถ้าไม่เข้าใจก็มี Checkpoint ให้ได้ทบทวน มันเป็นอะไรที่มีประโยชน์มาก Boost up ก็เหมือนกัน ก่อนสอบอยากมีคนติวและสรุปให้เรา ช่วยเพิ่มความมั่นใจหนูมาก ประทับใจมาก พี่ๆ เค้าก็คอยติดตามเราตลอดๆ จำเราได้
Q: สุดท้ายแล้ว อยากฝากอะไรถึงน้องที่อยากจะเข้า INDA แบบเราบ้างครับ
A: คณะนี้ถ้าตั้งใจอยากจะมาจริงๆ เป้าหมายสำเร็จได้ไม่ยาก ระหว่างทางอาจจะดูเยอะ แต่ถ้าทุ่มเทกับมันหนูคิดว่าติดแน่นอน ถึงแม้สอบมาได้คะแนนไม่ดีแล้วท้อ ท้อได้ แต่ถ้าล้มเเล้วต้องรีบลุกให้เร็ว เพราะทุกอย่างผ่านไปเร็วมาก ไม่มีเวลาให้เรามานั่งเสียใจค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ รีวิวสอบเข้า INDA จุฬาฯ จากพี่มิ้นท์ … แอดมินเชื่อว่าน้องๆ ที่ได้อ่านบทความนี้จะได้เทคนิคและแนวทางการเตรียมตัวสอบที่จะช่วยให้พวกเรามั่นใจมากขึ้นว่าจะสอบติด INDA จุฬาฯ นะครับ
น้องๆ คนไหนที่อยากสอบติด INDA … มาเจอกันได้ที่ ignite เราเตรียม คอร์สสด, Mini Class, One on One และ คอร์สเรียนออนไลน์ในระบบ Learn Anywhere ให้ทุกคนมั่นใจว่าจะสอบติดคณะในฝันชัวร์ๆ สามารถทักมาขอคำปรึกษาสอบถามรายละเอียดการเรียนต่อคณะอินเตอร์ได้ทาง Line : @ignitebyondemand หรือโทร 02-6580023 , 091-5761475
สามารถซื้อคอร์สเรียนออนไลน์ ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ผ่าน ShopOnline ของ ignite …พร้อมแล้วลุยเลย >> https://shop.ignitebyondemand.com/
ดูรายละเอียดคอร์สเรียน SAT และ IELTS ได้ทาง >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog
IGCSE คืออะไร? ตอบทุกข้อสงสัยไปกับ ignite by ondemand
IGCSE (International General Certificate of Secondary Educational) คือ หลักสูตรการศึกษาจากประเทศอังกฤษที่ทำให้ได้รับวุฒิการศึกษาเทียบเท่า ม.4 ในไทย ซึ่งหากเรียนจบหลักสูตร IGCSE แล้ว สามารถไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ เช่น AS, A Level, IB หรือเพื่อศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย โดยปกติในประเทศไทยนั้น การสอบ IGCSE จะอยู่ในระบบการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติที่ใช้ระบบการเรียนการสอนแบบอังกฤษ (UK) แต่น้องๆที่ไม่ได้อยู่ในระบบ ก็สามารถสมัครสอบ IGCSE ได้โดยตรงกับทาง British Council Thailand นะครับ สำหรับการสอบ IGCSE นั้น ต้องเลือกสอบจำนวน 5 วิชา เพื่อให้ได้ IGCSE Certificate โดย IGCSE มีให้เลือกมากกว่า 70 […]
Comments (0) -
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
เจาะลึกเส้นทางสอบติดคณะแพทย์ระดับโลก “University of Cambridge” น้องพรอมท์ Shrewsbury International School
กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่กับบทสัมภาษณ์ ignite Idol น้องพรอมท์ Shrewsbury International School ที่เพิ่งสอบติดคณะแพทย์ University of Cambridge ประเทศอังกฤษปีล่าสุดมาหมาดๆ … ถือเป็นเรื่องน่าภูมิใจของประเทศไทยและ ignite มากๆ ที่สามารถส่งเด็กไทย ไปคว้าที่นั่งในคณะแพทย์เคมบริจด์ ได้ถึง 2 ปีซ้อน ซึ่งเป็นคณะแพทย์ที่ใครๆ ต่างก็ยอมรับว่าสอบเข้ายากที่สุดในโลก วันนี้พี่แอดมินขอพาน้องพรอมท์ มาเจาะลึกเส้นทางสู่คณะแพทย์ University of Cambridge ประเทศอังกฤษ พร้อมเปิดเผยเส้นทางสู่การสอบติดคณะแพทย์ระดับโลก ให้เด็กไทยทุกคนที่มีความฝันได้ศึกษาแนวทางการเตรียมตัวที่ถูกต้อง…พี่แอดมินเชื่อว่าบทความนี้จะทำให้ประเทศไทยได้คุณหมอที่มีศักยภาพระดับโลกกลับมาพัฒนาวงการสาธารณสุขไทยเพิ่มอย่างแน่นอนครับ ได้ยินว่าน้องพรอมท์อยากเป็นหมอ เพราะต้องการทำงานที่ช่วยให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้น? เรื่องนี้มีที่มา ที่ไปอย่างไรครับ ใช่ครับ…จริงๆ แล้วผมมีความรู้สึกอยากเป็นหมอมาตั้งแต่เรียนอยู่ ม.2 แล้วครับ ด้วยความที่ยังเด็กมาก เราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรไปตอนนั้น แต่พอโตขึ้นผมได้มีโอกาสไปสอนหนังสือให้น้องๆ […]
Comments (0) -
Blog
BJM คืออะไร? เรียนอะไรบ้าง? อยากสอบติดต้องทำอย่างไร?
สวัสดีน้องๆ สายศิลป์ทุกคนนะครับ พี่แอดมินพาคณะอินเตอร์ปังๆ มาแนะนำให้พวกเราได้รู้จักกันอีกแล้ว…วันนี้มาพบกับ BJM คณะอินเตอร์ยอดฮิตที่รับรองว่าตรงใจชาวสายศิลป์หลายคนแน่นอน ไม่พูดพร่ำทำเพลง เราไปทำความรู้จักกันว่า คณะ BJM คืออะไร? ในหลักสูตรเรียนอะไรบ้างกันเลยดีกว่า BJM คืออะไร? เรียนอะไร? BJM หรือ Bachelor of Arts Program in Journalism (Mass Media Studies) คือ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน สาขาวิชาสื่อ หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ น้องๆ นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า คณะวารสารอินเตอร์หรือ BJM นั้นเอง สำหรับหลักสูตรนี้จะมีความคล้ายคลึงกับคณะนิเทศศาสตร์ที่พวกเราคุ้นเคยกันอยู่พอสมควรครับ แต่ที่ BJM จะเน้นเรียนครอบคลุมมากกว่า ไม่มีการเลือกสาขา เฉพาะเจาะจงแต่น้องจะได้เรียนครบเกี่ยวกับสื่อในทุกด้าน ตั้งแต่การผลิต ออกแบบ สร้างสรรค์ ภาพยนตร์ โฆษณา ประชาสัมพันธ์หรือวิทยุและโทรทัศน์ ไปจนถึงเรียนการบริหารการสื่อสาร ซึ่งรุ่นพี่แอบกระซิบมาว่าที่นี่เน้นเรียนปฏิบัติ น้องจะได้ศึกษาทั้งการเป็นเบื้องหน้าและเบื้องหลัง รับรอบว่ามาเรียน […]
Comments (0) -
Blog, GED
ไขข้อสงสัย GED ยื่นเข้าภาคไทยได้ไหม?
สวัสดีค่ะน้องๆ พี่คิดว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านใน Blog นี้คงจะทราบกันดีว่า GED คืออะไร แต่ยังมีอีกหลายคนสงสัยว่า GED สามารถยื่นเข้ามหาลัยในภาคไทยได้หรือไม่? หรือสามารถยื่นเข้าได้แค่คณะอินเตอร์ วันนี้พี่จะมาไขข้อสงสัยให้น้องๆ เอง ตามมาดูกันค่ะ !! รวมคณะภาคไทย ที่ใช้ GED ยื่นได้ พี่ขอ recap สั้นๆ ให้ฟังอีกครั้งสำหรับน้องๆ ที่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ GED เลย GED เป็นวุฒิการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยได้รับรองวุฒิการศึกษานี้ให้เทียบเท่าได้กับวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของประเทศไทย ซึ่งเสมือน เป็นใบเทียบวุฒิ ในการเข้ามหาลัยได้ ดังนั้นหมายความว่าหากน้องๆ สอบ GED ผ่านแล้ว สามารถนำวุฒิ GED ที่ได้นี้ไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัยที่น้องต้องการได้เลย พี่ขอสรุปตรงนี้เลยว่า GED […]
Comments (0)
Comments