เจาะลึก 2 วิชายาก IGCSE Chemistry & Biology กับครูเกมและครูเวิลด์
นับถอยหลังอีกเพียง 4 เดือนสู่การสอบ IGCSE รอบตุลาคมสำหรับน้องๆ ระบบการศึกษานานาชาติ การสอบครั้งนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญเลยทีเดียว เพราะน้องๆ ต้องนำคะแนนเหล่านี้ไปใช้ศึกษาต่อวิชาที่ต้องการในระดับ A-Level และอาจต้องใช้ยื่นควบคู่กันในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในอนาคตอีกด้วย
วันนี้พี่ๆ Ignite เลยจะพาน้องๆ มาเจาะลึก 2 วิชายาก IGCSE Chemistry & Biology กับครูพี่เกมและครูพี่เวิลด์ ผู้ที่มีประสบการณ์แน่นในการสอนน้องๆ หลักสูตรอินเตอร์ เพื่อที่จะได้รีบเตรียมตัวคว้าคะแนน A* กันถ้วนหน้า เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า!
เจาะลึกข้อสอบ IGCSE Chemistry จุดไหนยากสุด?
ครูพี่เกมต้องขออธิบายก่อนว่า ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงความยากของ IGCSE Chemistry นั้น น้องๆ อาจจะต้องดูก่อนว่าข้อสอบที่น้องๆ จะเจอนั้นมาจากบอร์ดไหน CIE (Cambridge) หรือ Pearson Edexcel ถึงเเม้ว่าทั้ง 2 บอร์ดนี้จะเป็นระบบการศึกษาหลักสูตร IGCSE เหมือนกัน แต่รูปแบบของข้อสอบจะไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นครูพี่เกมจะชวนน้องๆ มาเริ่มดูตัวข้อสอบกันทีละบอร์ดเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น
CIE Cambridge: IGCSE Chemistry
สำหรับตัวข้อสอบ IGCSE Chemistry ของ CIE Cambridge นั้น จะมีเนื้อหาบทเรียนทั้งหมด 14 บท และตัวข้อสอบจะถูกแบ่งออกเป็น 6 Paper ดังนี้
- Paper 1 Multiple Choices (Core)
- Paper 2 Multiple Choices (Extended)
- Paper 3 Theory: Short Answer & Structured Question (Core)
- Paper 4 Theory: Short Answer & Structured Question (Extended)
- Paper 5 Practical Test
- Paper 6 Alternative to Practical Test
โดยจะสังเกตเห็นได้ว่าข้อสอบของ CIE นั้นถูกแบ่งเป็นแบบ Core หรือเนื้อหาหลักๆ ของบทนั้น และ Extended ซึ่งเป็นเนื้อหาเชิงลึกและขั้นสูง ความยากของข้อสอบ CIE Cambridge นั้นจึงจะอยู่ที่ Paper 2, 4 และ 6 ซึ่งเป็น Extended Paper
ตัว Paper 2 นั้นครูพี่เกมขอบอกว่ายาก แต่ถ้าน้องๆ เตรียมตัวมาดีก็ทำได้แน่นอน เนื่องจาก Paper 2 นั้นจะเป็นเนื้อหาที่มีการเสริมจากเนื้อหาหลัก (Core) ดังนั้นจะมีการใช้สูตร คำนวณ ที่ซับซ้อนมากขึ้น การรู้ Element Symbol เพียงอย่างเดียวจะไม่พอ น้องๆ ต้องประยุกต์ใช้สูตรและสมการต่างๆ ให้เป็น แต่ยังไงก็ตามพาร์ทที่เป็นแบบ Multiple Choices นั้นยังจัดว่าไม่น่ากังวลมาก
ที่นี้ครูเกมขอข้ามไปที่ Paper 6 ซึ่งยากขึ้นไปอีกลำดับ ตัวข้อสอบชุดที่ 6 นี้ จะเป็น Alternative to Practical Test ซึ่งอธิบายง่ายๆ ก็คือน้องๆ จะต้องตอบคำถามเกี่ยวกับการทดลอง (ไม่ได้มีการทดลองจริง) โดยปกติจะมี 4 คำถามใหญ่คือ
- คำถามเกี่ยวกับการทดลองที่น้องๆ เคยทำ ซึ่งในที่นี้น้องๆ ต้องรู้ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ในการทำการทดลอง Safety Measurement รวมถึงสารต่างๆ ที่นำไปใช้
- โจทย์จะให้ Process ของการทดลองมา โดยน้องๆ ต้องตอบคำถามเช่น ขั้นตอนการทดลอง การอ่านค่าปฎิกิริยาต่างๆ
- ในพาร์ทนี้ข้อสอบมักจะให้ Test และ Observation มา และให้น้องๆ ตอบรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เช่น สารประกอบที่นำมาทดลองคืออะไร หรือผลที่ได้ควรเป็นแบบไหน
- การออกแบบการทดลองจากโจทย์ โดยเขียนคำตอบแบบยาว
โดยพาร์ทคำถามส่วนที่ 1 นั้นน้องๆ สามารถที่จะทบทวนทำความเข้าใจได้ไม่อยาก แต่พาร์ทที่อาจต้องเตรียมรับมือเลยหลักๆ จะเป็นข้อ 3 และ 4 ซึ่งต้องใช้การคิดวิเคราะห์และการประยุกต์ความรู้ค่อนข้างเยอะ
Technical Terms ต้องแน่น รู้จัก Mark Scheme ให้ดี
สำหรับ Paper 4 นั้นครูพี่เกมขอจัดอันดับให้เป็นพาร์ทที่ยากที่สุด เนื่องจากคำถามจะไม่ได้เป็นตัวเลือกเหมือน Paper 2 แต่จะเป็นการตอบคำถามสั้นๆ ดังนั้นน้องๆ ต้องรู้คำตอบจริงๆ เพราะไม่มีช้อยส์มานำทางแล้ว และหากต้องการคะแนนที่ดี ไม่ใช่ว่าต้องเขียนอธิบายให้ยาวที่สุด แต่ต้องเขียนคำตอบให้ถูกจุด หรือรู้จัก “Mark Scheme” นั่นเอง
โดยตัว Mark Scheme นี้จะเป็นไกด์ไลน์ที่คอยบอกเราว่า คำถามแบบนี้ คำตอบควรเป็นแบบไหน มี Keyword อะไรที่ควรใส่ลงไปบ้าง และ Structure ในการอธิบายคำตอบเป็นประมาณไหน
ซึ่งหากน้องๆ ฝึกฝนทำโจทย์เก่า หรือ Past Paper บ่อยๆ เฉลยก็มักจะมากับตัว Mark Scheme ซึ่งจะคอยบอกแนวทางคำตอบว่าควรจะเป็นประมาณไหนและทำให้น้องได้คะแนนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการรู้จัก Keyword ให้เยอะมากที่สุดอาจจะไม่ใช่คำตอบในการสอบให้ได้คะแนนดีอย่างเดียว น้องๆ ต้องรู้ความแตกต่างของ Keyword เหล่านั้นด้วย
ครูพี่เกมขอยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ในข้อสอบน้องๆ อาจจะเจอภาพของกระบวนการหนึ่งที่เปลี่ยนสสารจากของเหลวเป็นของแข็ง ซึ่ง Technical Term สามารถใช้ได้หลายคำมาก ไม่ว่าจะเป็น Freezing หรือ Crystallization แต่หากในภาพนั้นมีการตกผลึก คำตอบที่ถูกต้องที่สุดก็คือ Crystallization
Pearson Edexcel: IGCSE Chemistry
หากมาดูกันที่ตัวข้อสอบของ Edexcel ครูเกมบอกเลยว่าไม่สามารถเจาะจงได้ว่าพาร์ทไหนจะยากหรือง่ายที่สุด เนื่องจากข้อสอบจะไม่ได้แบ่งออกตามบทเรียนอย่างชัดเจนเหมือนข้อสอบ CIE ซึ่งนั้นแหละ คือสิ่งที่ครูเกมว่าเป็นเรื่องที่ยากเพราะเดาทางไม่ได้มากนักเมื่อเทียบกับ CIE
ข้อสอบของ Edexcel นั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 Papers โดยในแต่ละเปเปอร์จะมีการคละบทเรียน แต่บทเรียนจะไม่ซ้ำกันระหว่างสองเปเปอร์ พูดง่ายๆคือ เปเปอร์แรกอาจจะมีบท 1,3,4,7 ส่วน เปเปอร์สองมีบท 2,5,6,8 ซึ่งเราจะไม่สามารถเดาได้แน่ๆ ว่าบทไหนจะไปตกอยู่ที่เปเปอร์ไหน
นอกจากการเน้นทฤษฎี ตัวข้อสอบยังเน้นลงลึกด้านการคำนวณอีกด้วย ทำให้เด็กๆ ต้องรู้เรื่อง Calculation และเนื้อหาแน่นตั้งแต่เรื่อง Atomic Structure ไปยันเรื่อง Experiments
สอบ IGCSE Chemistry เตรียมรับมือยังไงดี?
- เตรียมพร้อม Mark Scheme รู้จัก Technical Term ให้เยอะ แบ่งหมวดหมู่ให้เป็น
เนื่องจากตัวคีย์เวิร์ดพวกนี้เป็นจุดสำคัญในการได้คะแนน น้องๆ ควรรู้จักคีย์เวิร์ดให้ครอบคลุม สำหรับทุกบทเรียน นอกจากนี้ต้องแยกความแตกต่างของเเต่ละคำเป็นเพื่อนำไปใช้ให้ตอบรับโจทย์ได้ดีที่สุด โดยปกติแล้วครูพี่เกมจะจับ Main Idea ของแต่ละบทพร้อมตัวคีย์เวิร์ดเพื่อสอนน้องๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะตัวที่ใช้ตอบในข้อสอบบ่อยๆ ประเภทที่ว่าออกข้อสอบกี่ครั้งก็จะมีคำพวกนี้ แต่น้องบางคนก็อาจจะหาวิธีจำที่เหมาะกับตัวเองขึ้นไปอีกเช่น การทำการ์ดจับกลุ่มคำในหมวดเดียวกัน แล้วก็นำมาเล่นทบทวนเวลาว่าง หรือบ้างที่ครูพี่เกมก็ทำคีย์เวิร์ดมาแต่งเป็นกลอนตลกๆให้น้องจำได้ง่ายขึ้นก็มี - รู้จัก Element Symbol ให้ดี
ส่วนใหญ่ข้อสอบ IGCSE Chemistry นั้นมักจะแถมตัว Formula มาให้น้องๆ ประยุกต์ใช้หาคำตอบกันอยู่แล้ว แต่ทางที่ดีน้องๆต้องจำตัว Element Symbol เองให้ดี เช่น ธาตุตัวไหนใช้สัญลักษณ์อะไร และนำไปคำนวณให้ถูก จะได้ไม่พลาด Perfect Score ไป - ทำ Past Paper ตีโจทย์ให้แม่น
ข้อยากในการสอบ Intergrated Paper แบบ Edexcel นั้นก็คือบางทีน้องๆไม่รู้ว่าคำถามนี้มาจากบทเรียนไหน ไม่รู้ว่าตอบไปนี่จะถูกไหม ดังนั้นการทำโจทย์เก่าบ่อยๆก็จะช่วยได้ เมื่อเข้าห้องสอบจริง น้องๆจะได้เคยผ่านตามาแล้วว่า ถ้าคำถามประมาณนี้ น่าจะมาจากบทเรียนนี้นะ และวิธีการทำจะเป็นประมาณไหน
ข้อสอบ IGCSE Biology พาร์ทไหนโหดสุด?
คราวนี้ถึงตาครูพี่เวิลด์แล้ว สำหรับวิชา IGCSE Biology วิชานี้สามารถบอกได้เลยว่าถึงแม้จะมีดีกรีว่ายาก แต่หากน้องๆ ตั้งใจเรียนและทบทวนมาดีก็มีสิทธิ์คว้า A* มาได้แน่นอน โดยตัว Biology นี้ครูเวิลด์ขอเลือกเจาะลึกเป็นข้อสอบของ CIE Cambridge หนึ่งในบอร์ดฮ็อตฮิตคนเหล่าโรงเรียนอินเตอร์กันก่อน
CIE Cambridge: IGCSE Biology
สำหรับน้องๆ ที่เลือกสอบ Core จะต้องลงมือทำข้อสอบทั้งหมดสามชุดนั่นก็คือ Paper 1,3 และ 5
- Paper 1 Multiple Choices (Core)
- Paper 3 Short Answer (Core)
- Paper 5 Practical Test (Core)
ส่วน Extended Candidates ต้องทำข้อสอบ 3 ชุด คือ
- Paper 2 Multiple Choices (Extended)
- Paper 4 Theory: Short Answer (Extended)
- Paper 5 Alternative to Practical Test (Extended)
ซึ่งตรงนี่เนี่ย ครูเวิลด์ขอบอกไว้ว่าจากประสบการณ์การสอน ส่วนใหญ่แล้ว Paper 2 และ 4 มักจะเป็นจุดที่ยากที่สุดสำหรับนักเรียน นอกจากนี้ Paper 2 จะมีคะแนน 30% และ Paper 4 มีคะแนน 50% ซึ่งถือว่าเป็นสองเปเปอร์ที่มีเปอร์เซนต์สำคัญมากทีเดียวในการวัดคะแนนสอบรวม
ในส่วนของ Paper 2 จะเป็นคำตอบแบบตัวเลือกซึ่งมีทั้งหมด 40 ข้อ ซึ่งตรงนี้ถึงแม้ว่าน้องๆ จะมีไกด์ไลน์จากตัวเลือกมาให้แล้ว แต่บางครั้งหลายๆ คนก็ตอบผิดเนื่องจากความ Tricky ของคำถาม เช่นบางครั้งโจทย์อาจจะให้รูปภาพของ Cell Structure มาและถามบริเวณกรอบเซลล์นั้นเรียกว่าอะไร น้องๆ หลายคนอาจจะเลือกตอบ Cell Wall แต่คำตอบที่ถูกจริงๆนั้นคือ Cell Membrane เนื่องจากรูปภาพที่ให้มานั้นเป็นเซลล์ของสัตว์ (Cell Wall พบในเซลล์พืชเท่านั้น)
สำหรับตัว Paper 4 นั้นนอกจากน้องๆ จะต้องรู้ Technical Term แล้ว ก็ต้องรู้ Main Idea ของแต่ละบทเรียนเนื่องจากตัว IGCSE Biology นั้นจะไม่ได้มีการคำนวณออกสอบลงลึกเหมือนวิชาอื่นๆ แต่จะเน้นในตัวของ Theory มากกว่า ซึ่งตัวเนื้อหานั้นมีถึง 21 บทเลยทีเดียว ดังนั้นน้องๆ ต้องสรุปเนื้อหาและเข้าใจใจความหลักให้เป๊ะ
จะสอบ IGCSE Biology เตรียมตัวอย่างไรดี?
- ปูพื้นฐานให้ดี ส่วนไหนที่ยังไม่ได้เรียนเร่งนำมาทบทวนก่อน
หากใกล้ถึงเวลาสอบแล้ว ครูพี่เวิลด์ขอแนะนำว่า เนื้อหาส่วนไหนที่น้องๆ ตั้งใจเรียนและมีพื้นฐานมาบ้างแล้วอาจจะเก็บเอาไว้ก่อน รีบนำส่วนที่เรายังไม่ได้เรียน หรือพื้นฐานไม่แน่นมาทบทวนก่อนจะดีกว่า เนื่องจากการเข้าใจ main idea ของแต่ละบทเป็นเรื่องสำคัญมากใน Biology - ทำ Past Paper ให้เยอะจะได้คุ้นกับข้อสอบ
ครูพี่เวิลด์ขอบอกก่อนว่า ในการสอบ IGCSE Biology นั้น ส่วนใหญ่แล้วจะมีประเด็นสำคัญของแต่ละบท ที่ไม่ว่ากี่ครั้งๆก็จะมีเรื่องแนวนี้ออกในข้อสอบ เช่น การให้น้องๆอธิบายทฤษฎี Natural Selection แต่ก็มีบางพาร์ทที่ไม่ได้เจอบ่อยนักและไม่ใช่จุดโฟกัสหลักตอนทบทวน ดังนั้น น้องๆควรทำโจทย์เก่าให้มากเพื่อที่จะได้คุ้นชินเวลาเจอของจริง - รีวิว Feedback ทุกครั้งหลังลองทำโจทย์
หลังจากการฝึกลองทำโจทย์ทุกครั้งควรนำมารีวิวอีกรอบเพื่อดู feedback โดยประสบการณ์ที่ผ่านมาครูพี่เวิลด์เห็นว่าน้องๆหลายคนสามารถตอบคำถามได้ถูก แต่ไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ซึ่งนี่ก็เป็นจุดนึงที่อาจทำให้พลาดคะแนนไป ดังนั้นหลังฝึกโจทย์เสร็จหากสามารถนำมาให้คุณครูรีวิวจะช่วยน้องๆได้เยอะ โดยเฉพาะในเรื่องของ Structure คำตอบ ต้องตอบอย่างไรให้เป็นขั้นเป็นตอนและอธิบายตรงจุด
ถึงแม้ว่าการสอบ IGCSE นั้นจะใกล้เข้ามาถึงแล้วในอีกไม่กี่เดือน แต่ครูพี่เกมและครูพี่เวิลด์ก็ขอย้ำว่า หากน้องๆ เริ่มติวตอนนี้ยังไงก็ทันแน่นอน ถ้าตั้งใจและจัดเวลาการทบทวนให้ดี โดยหากน้องๆ มีพื้นฐานจากห้องเรียนในโรงเรียนแล้วก็อาจจะเน้นไปที่การฝึกทำโจทย์รับมือการสอบจริงมากขึ้น
หากน้องๆ คนไหนต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการคว้าคะแนนที่ต้องการ ทาง ignite มีคุณครูและทีมงาน ที่มีประสบการณ์ในการสอนและติวสอบหลักสูตร IGCSE หลากหลายกลุ่มวิชา คุณครูจะช่วยสรุปเนื้อหา ตะลุยโจทย์ รวมถึงเน้นส่วนของ Mark Scheme ปรับตามพื้นฐานรายบุคคลและบอร์ดที่น้องสอบ และยังให้คำแนะนำในด้านการเรียนอีกด้วย
สามารถทักเข้ามาสมัครเรียนและปรึกษาวางแผนการเตรียมตัวสอบได้ทาง Line @igniteinter หรือคลิก https://bit.ly/3qOtyCB เข้ามาได้เลยครับ พี่ๆ พร้อมให้ข้อมูล เพื่อให้น้องๆ คว้า A* ให้ได้อย่างแน่นอน
ดูรายละเอียดคอร์สเรียน ignite A* เพิ่มเติมได้ทาง >> https://www.igniteastar.com/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
รวมข้อสอบ BMAT Past papers , IMAT และ TSA ย้อนหลัง 10 ปี พร้อมเฉลย
สวัสดีครับน้องๆ ว่าที่คุณหมอที่กำลังเตรียมตัวเพื่อสอบเข้าคณะแพทย์ รอบ Portfolio กันทุกๆ คน วันนี้พี่ๆ ignite ได้รวบรวม ข้อสอบ BMAT Past papers , practice papers พร้อมพิเศษข้อสอบ IMAT และข้อสอบ TSA ย้อนหลังให้ถึง 10 ปี พร้อมเฉลย ให้น้องๆ ฝึกทำโจทย์ให้มั่นใจกันอย่างจุใจ เตรียมพร้อมก่อนไปสอบกันนะครับ ก่อนจะเริ่มฝึกทำโจทย์ เรามาดูแผนเตรียมตัวสอบ BMAT ปี 2020 กันก่อนดีกว่า เพราะสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้การสอบปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากทุกครั้งที่ผ่านมา โดยทาง Cambridge ได้ยกเลิกการสอบ BMAT ในรอบ SEP ทำให้ปีนี้ๆ น้องเหลือรอบสอบแค่รอบ NOV ! เท่านั้น […]
Comments (0) -
Blog, EP ม.ต้น
เรียน EP อยู่แล้วต้องเรียนภาษาอังกฤษเสริมอีกมั้ย ?
สวัสดีค่ะ พี่แนนจาก ignite นะคะ มีคำถามนึงที่ช่วงนี้พี่แนนได้ยินบ่อยมากๆ จากทั้งคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ ม.ต้นที่เรียน EP มาว่า “เรียน EP อยู่แล้ว ยังต้องเรียนภาษาอังกฤษเสริมอยู่มั้ย” เพราะตามที่คุณพ่อคุณแม่เข้าใจคือหลักสูตรนี้เน้นภาษาอังกฤษอยู่แล้วน่าจะไม่ต้องทำอะไรมากมาย ก่อนที่เราจะไปหาคำตอบกัน พี่แนนมีเรื่องมาเล่าให้ฟังค่ะ เป็นเรื่องของนักเรียนคนนึงที่พี่เคยสอน น้องเรียน English Program มาตั้งแต่ ม.1 และตอนที่มาเจอกับพี่ครั้งแรก น้องอยู่ ม.3 แล้วและสนใจเตรียมตัวสอบเข้า Grade 10 ที่ MUIDS (โรงเรียนสาธิตนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล) ในวันที่เจอกับคุณแม่ของน้องครั้งแรกเพื่อวางแผนการเรียนกัน คุณแม่มองว่าน้องน่าจะไม่ต้องติวภาษาอังกฤษเยอะเพราะเรียน EP มา แต่เพื่อให้สามารถวางแผนการเรียนและสอนได้อย่างตรงจุด พี่จึงให้น้องลองทำโจทย์สอบเข้ารวมถึง พาร์ทการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ (Essay) สิ่งที่เกิดขึ้นคือน้องบอกกับพี่แนนว่าน้องเขียนไม่ได้ นึกคำศัพท์ไม่ออก เรียบเรียงไม่ถูก ในเวลาหนึ่งชั่วโมงนั้นน้องจึงเขียนได้เพียง Paragraph สั้นๆ เท่านั้น Academic English ปัญหาสำคัญของน้อง EP EP หรือ English Program เป็นทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่นักเรียนทั้ง ม.ต้น และ […]
Comments (0) -
Blog, SAT
รีวิวการเตรียมตัวสอบ รอบ Early น้องสตรีวิทย์ ติด BBA ยกแก๊ง!!
สวัสดีครับน้องๆ จากสถิติคะแนนยื่นสอบเข้าที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ดันบาร์ความโหดเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ทำให้การสอบเข้า BBA จุฬาฯ หรือ หลักสูตรบริหาร ภาคอินเตอร์ ที่เป็นคณะในฝันของใครหลายๆ คน ติดท๊อปลิสต์ คณะสอบเข้ายากในฝั่งอินเตอร์แทบทุกโพล แต่!!! วันนี้ แก๊งรุ่นพี่ ignite จากโรงเรียนสตรีวิทยา ซึ่งตอนนี้พึ่งเป็นนิสิต BBA CU หมาดๆ ทั้ง 3 คน จะมาเล่าให้ฟังว่าการสอบเข้า BBA CU อาจไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่าว่าพี่ๆ เค้ามีวิธีเตรียมตัวสอบเข้ากันยังไงบ้างถึงได้สอบติดรอบ Early กันยกแก๊งแบบนี้ Q: แนะนำตัวให้น้องๆ ignite รู้จักกันหน่อยว่าแต่ละคนติดคณะอะไรและใช้คะแนนอะไรยื่นบ้างครับ แจน: สวัสดีค่ะน้องๆ พี่ชื่อแจนค่ะ สอบติด BBA จุฬาฯ ค่ะ ด้วยคะแนน SAT 1,450 และ IELTS 7.5 ค่ะ ครีม: สวัสดีค่ะ พี่ชื่อครีมค่ะ สอบติดทั้ง […]
Comments (0) -
Blog, GED
อยากจบม.6 ตั้งแต่อายุ 16 ต้องรู้ คู่มือเขียน GED Parental Consent Form ฉบับจับมือทำ!
สวัสดีค่ะ ครูหมิง GED Guru จาก ignite นะคะ ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่น้องๆ หลายคนเริ่มไปสอบ GED เตรียมใช้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยกันแล้วและมีน้องอายุ 16-17 หลายคนเลยค่ะที่ทักเข้ามาถามวิธีเขียนไปจนถึงวิธีส่ง GED Parental Consent Form ดังนั้น วันนี้ครูหมิงเลยอยากมาเคลียร์ข้อสงสัย พร้อมสอนน้องๆ ทุกขั้นตอนในการกรอกเสมือนจับมือทำเลยค่ะ! GED Parental Consent Form คืออะไร GED Parental Consent Form คือ หนังสือแสดงความยินยอมของผู้ปกครองที่อนุญาตให้นักเรียนที่อายุยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์สามารถสอบและเทียบวุฒิ GED ได้ โดยต้องมีการยินยอมจากผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์อักษร (Signature) และส่งเมล์ไปแจ้งทาง GED Official ให้ทำการปลดล็อคสิทธิ์เข้าสอบ GED ให้แก่น้องๆ ค่ะ […]
Comments (0)
Comments