MCAT คืออะไร? ทำความรู้จักข้อสอบพิชิตเส้นทางหมอในอเมริกาและแคนาดา
หลังจากมีการประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่า การสอบ BMAT รอบตุลาคม 2023 จะเป็นการสอบรอบสุดท้าย และจะไม่มีการจัดสอบเพิ่มเติมอีก โดยยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่า จะนำการทดสอบใดเข้ามาแทนที่ ทำให้ข้อสอบที่มีโครงสร้างคล้ายคลึงมากที่สุดอย่าง ข้อสอบ The Medical College Admission Test หรือ MCAT ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ว่าจะมีโอกาสแค่ไหนที่จะถูกนำมาใช้แทนที่ BMAT วันนี้พี่ ignite เลยอยากจะชวนน้องๆ ที่วาดเส้นทางฝันสู่การเป็นหมอ มาทำความรู้จักกับข้อสอบ MCAT คืออะไร? สอบอะไรบ้าง..เปรียบเทียบกับข้อสอบ BMAT และ UCAT แตกต่างกันอย่างไร? กันไว้ก่อนครับ
ข้อสอบ MCAT คือ
ข้อสอบ MCAT (The Medical College Admission Test) คือ ข้อสอบที่ใช้สำหรับการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งจัดทำขึ้นโดยสมาคมวิทยาลัยการแพทย์อเมริกัน (AAMC) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับข้อสอบ BMAT แต่แตกต่างตรงที่ไม่มีข้อสอบทางด้านคณิตศาสตร์แบบเจาะลึก ข้อสอบ MCAT ถูกใช้เพื่อคัดเลือกสำหรับผู้ที่จบหลักสูตรปริญญาตรี pre-med เพื่อมาศึกษาต่อยอดในโรงเรียนทางการแพทย์
ส่วนในประเทศไทยข้อสอบ MCAT ก็ได้มีการนำใช้เป็นทางเลือกเพื่อคัดเลือกเข้าศึกษาต่อใน คณะแพทย์ศิริราช และแพทย์จุฬาฯ หลักสูตรนานาชาติ ในปี 2022
รูปแบบของข้อสอบ MCAT
ข้อสอบ MCAT จะเป็นแบบปรนัยทั้งหมด แบ่งออกเป็น 4 Parts คือ
- Biological and Biochemical Foundations of Living Systems (พื้นฐานชีววิทยาและชีวเคมีของระบบสิ่งมีชีวิต) ซึ่งเป็นการทดสอบเกี่ยวกับพื้นฐานวิชาชีววิทยา ชีวเคมี
- Chemical and Physical Foundations of Biological Systems (พื้นฐานเคมีและฟิสิกส์ของระบบสิ่งมีชีวิต) ซึ่งเป็นการทดสอบเจาะลึกทางด้านเคมีอินทรีย์ เคมีอนินทรีย์ ตารางธาตุ และฟิลิกส์
- Psychological, Social, and Biological Foundations of Behavior (พื้นฐานทางจิตวิทยา สังคมวิทยา และชีววิทยาของพฤติกรรม)
- Critical Analysis and Reasoning Skills (ทักษะการวิเคราะห์และการให้เหตุผล)
สำหรับ Part ที่ 1 ถึง 3 จะมีข้อสอบ part ละ 59 ข้อ โดยจะแบ่งออกเป็นการตอบคำถามจากการอ่าน Passages 10 เรื่อง และตอบคำถามที่ไม่เกี่ยวกับ Passages อีก 15 ข้อ มีเวลาในการทำข้อสอบ part ละ 95 นาที
ในส่วนของ Critical Analysis and Reasoning Skills จะแตกต่างไปเล็กน้อย โดยจะมีจำนวน 53 ข้อ เป็นการตอบคำถามจากการอ่าน Passages 9 เรื่อง มีระยะเวลาในการทำ 90 นาที
ความแตกต่างของข้อสอบ BMAT - MCAT - UCAT
นอกจากวิชาสอบที่แตกต่างกันแล้ว MCAT เองยังเป็นข้อสอบที่มีระยะเวลาในการทำนาน 6 ชั่วโมง 15 นาที ไม่รวมเวลาพัก และเวลาพักเที่ยง โหดเอาเรื่องอยู่ใช่ไหมครับ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการสอบ MCAT
- คะแนนสอบจะออกหลังสอบเสร็จประมาณ 30-35 วัน โดยสามารถเข้าดูคะแนนได้ที่ https://students-residents.aamc.org/taking-mcat-exam/taking-mcat-exam
- แต่ละ part จะมีคะแนนต่ำสุดที่ 118 คะแนน และสูงสุดที่ 132 คะแนน แตกต่างไปตามความยากง่ายของแต่ละ part คะแนนรวมทั้ง 4 part จะอยู่ที่ 472 – 528 คะแนน
- ควรตอบให้ครบมากที่สุด เพราะข้อที่ตอบผิดจะไม่ถูกนำมาหักลบคะแนน
- ค่าสอบอยู่ที่ประมาณ 12,000 บาท โดยสามารถสอบได้ 3 รอบต่อปี
รอบสอบ MCAT ในประเทศไทย
โดยน้องๆ สามารถสมัครสอบได้ที่ >> https://mcat.aamc.org/mrs/#/
เป็นอย่างไรกันบ้างครับน้องๆ ข้อสอบ MCAT ข้อสอบตัวสำคัญจากทาง US&CA ที่อาจมาแทนข้อสอบ BMAT และถ้าน้องๆ อยากรู้จักกับข้อสอบอีกตัวจากทาง UK อย่างข้อสอบ UCAT คือข้อสอบอะไร? สอบออะไรบ้าง? พี่อิกไนท์ก็ได้ทำเนื้อหาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว คลิกอ่านได้เลย >> UCAT คืออะไร? ชวนรู้จักข้อสอบวัดความถนัด สู่คณะแพทย์-ทันตะใน UK
สำหรับน้องๆ และผู้ปกครองที่อยากปรึกษาวางแผนการเตรียมตัวสอบเข้าคณะแพทย์รอบพอร์ต และคณะอินเตอร์ยอดฮิต สามารถ Add Line @ignitebyondemand หรือโทร 02-6580023 , 091-5761475 เข้ามาได้เลย พี่ๆ ทุกคนพร้อมให้คำแนะนำแบบรายบุคคลให้กับทุกครอบครัวครับผม
สามารถช้อปคอร์สเรียนออนไลน์ Learn Anywhere ด้วยตัวเองง่ายๆ ผ่านทาง Shop Online ignite คลิกเลย >> https://shop.ignitebyondemand.com/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
ไขความลับ BMAT Writing เขียนยังไงให้ปัง!
สวัสดีครับน้องๆ วันนี้พี่กั๊ก Ignite by OnDemand จะขอมาแชร์สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็น Pain ของหลายคนมากๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ BMAT ใน Part3 : Writing Task มีคนถามพี่มาว่า พี่! จะเอายังไงดี เพราะว่า BMAT Writing กับเวลาที่มีอยู่มันยากเหลือเกิน ขอคำแนะนำหน่อย น้องครับหลายๆ คนคงรู้ว่าปัญหาของ BMAT นอกจากการเขียนแล้ว ยังเป็นเรื่องของเวลาที่จำกัด เพราะเรามีเวลาแค่ 30 นาทีในการเขียน BMAT 1 คำถามของ Writing ให้เสร็จครับ ดังนั้น วันนี้พี่กั๊กขอมาแนะนำนะครับว่า เราจะจัดการกับ 30 นาทีนั้นยังไง ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับข้อสอบ BMAT Writing กันก่อนครับ ทำความเข้าใจกับข้อสอบ BMAT Writing Task (Part3) BMAT Writing เป็นหนึ่งใน 3 Part […]
Comments (0) -
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio), SAT, IELTS
SOP คือ? │ เขียน SOP อย่างไรให้ได้เป็นตัวจริงรอบพอร์ต
เวลาที่เดินเข้าร้านหนังสือ แล้วเจอหนังสือเล่มหนึ่งที่น่าสนใจ สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่มักทำก็คือ พลิกไปอ่านไฮท์ไลท์สำคัญที่ปกหลังก่อน ซึ่งจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับข้อความเพียงไม่กี่บรรทัดบนปกหลังนั่นเอง การเขียน SOP หรือคือ Statement of purpose ก็เช่นกัน ไม่สำคัญว่าเรามีเรื่องราวที่อยากบอกเล่ามากน้อยแค่ไหน สำคัญที่เราจะเล่ามันออกมาอย่างไรให้ให้ผู้อ่านสนใจและอยากติดตามอ่านเรื่องราวไปจนจบมากกว่า วันนี้พี่เลยนำเทคนิคดีๆ ในการเขียน SOP ให้โดนใจคณะกรรมการมาฝาก ไปดูกันฮะ การเขียน SOP คืออะไร? ถ้าเอาแบบเข้าใจง่ายๆ Statement of purpose หรือ SOP คือ จดหมายแนะนำตัวเองนั่นแหล่ะ จดหมายที่บอกว่าเราเป็นใคร มีจุดเด่นอะไรที่ทำให้คณะกรรมการต้องตัดสินใจเลือกเรา หรืออาจบอกเล่าถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เราตัดสินใจเขียน SOP ไปยังคณะ หรือมหาวิทยาลัยนั้นๆ ซึ่งสำคัญมากกกกก โดยเฉพาะกับน้องๆ ที่อยากเข้าเป็นตัวจริงรอบพอร์ต NOTE !! วิธีเขียน SOP ที่ดีควรมีความยาวไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ หรือไม่เกิน 1,000 คำ และควรบอกเล่าประเด็นสำคัญ 4 ประเด็นดังต่อไปนี้ 4 Topics สำคัญในการเขียน SOP #1 Who am […]
Comments (0) -
Blog, SAT Subject Tests
รีวิวสอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ด้วย SAT Subject Tests โดยน้องเกศ นานาชาติเปรม สอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ UCL
สวัสดีน้องๆ ว่าที่หมอทุกคนนะครับ วันนี้พี่แอดมินขอพาพี่เกศ จากโรงเรียนนานาชาติเปรม ที่เพิ่งสอบติดแพทย์จุฬาภรณ์ (PCCMS) – UCL ปีล่าสุด มาแนะนำการสอบเข้าแพทย์รอบ 1 (Portfolio) ด้วยคะแนน SAT Subject ซึ่งเป็นอีกวิธีที่น้องๆ โรงเรียนนานาชาติให้ความนิยมมากๆ เลย เพราะสามารถใช้ SAT Subject Tests แทนเกรดโรงเรียนที่ออกช้า หรือใช้แทนคะแนน BMAT ที่สอบได้แค่ปีละ 1 ครั้ง พี่มีรายชื่อคณะแพทย์ ที่สามารถใช้คะแนน SAT Subject Tests และการใช้คะแนนเพื่อยื่นเข้ามาให้น้องๆ ด้วยครับ คณะแพทย์ TCAS รอบ 1 (Portfolio) ที่ใช้คะแนน SAT Subject Tests ยื่นเข้าได้ คณะที่ใช้ SAT Subject Tests เป็นคะแนนวิชาการ คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาภรณ์ (PCCMS) ร่วมกับ UCL คณะที่ใช้ […]
Comments (0) -
Blog
ไขข้อสงสัย เข้าหมอในไทย ต้องทำ IB full diploma หรือไม่ โดยน้องยูโร RIS ว่าที่ freshy ทันตะ จุฬาฯ
การทำ IB full diploma ในโรงเรียนหลักสูตร IB นั้นอาจจะเป็นใบเบิกทางที่เปิดโอกาสมากกว่าสำหรับน้องๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองนั้นอยากเข้าคณะไหน เรียนต่อในประเทศหรือนอกประเทศ เพราะการที่หลักสูตร IB นั้นได้รับการยอมรับไปทั่วโลกด้วยความ Well-rounded ของเนื้อหาและการศึกษาทั้งด้านวิชาการและกิจกรรมอย่างเข้มข้น ดังนั้นการทำคะแนน IB full diploma ที่มีครบทั้ง TOK, CAS และ EE ได้ดีนั้นย่อมแปลว่าน้องๆ มีโอกาสที่จะเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศได้ แต่น้องๆ ที่เรียนโรงเรียนนานาชาติที่มีหลักสูตร IB ให้เลือกหลายๆ คนอาจจะกำลังสับสนว่า ถ้าเราจะเข้าหมอในไทยนั้นเราจำเป็นที่จะต้องทำ IB full diploma หรือเปล่า หรือเราสามารถเรียนแค่บางวิชาก็พอ วันนี้พี่แอดมินเลยรวบรวมข้อมูลและบทสัมภาษณ์ จาก น้องยูโร โรงเรียนร่วมฤดี มาเพื่อไขความกระจ่างกันครับ โดยเรามาเริ่มกันกับวิชาส่วนมากที่ น้องๆ โรงเรียนนานาชาติต้องใช้เพื่อยื่นเข้าคณะแพทย์และทันตะ กันนะครับ รวมวิชาที่ต้องยื่นคะแนนเข้าคณะแพทย์ในไทย สำหรับเด็กอินเตอร์ […]
Comments (0)
Comments