ส่องหลักสูตรแพทย์ 2 ปริญญา มีกี่หลักสูตร เรียนอะไรบ้าง?

มาแรงไม่พักนาทีนี้ ต้องยกให้หลักสูตร “แพทย์ 2 ปริญญา” ไปเลย ที่หลายมหาวิทยาลัยชั้นนำ ผลิตหลักสูตรกันออกมาเพียบ ตอบโจทย์คนอยากเรียนหมอ ที่อยากเรียนด้านอื่นๆ เพื่อเสริมทักษะ แค่ 1 ปริญญายังไม่พอ ไหนๆ จะเรียนทั้งที ขอเรียนทีเดียวคุ้มมมม พี่แอดมินเลยขอทำหน้าที่รวบรวมสุดยอดหลักสูตรแพทย์ 2 ปริญญาเอาไว้ให้ ว่าจะมีกี่หลักสูตร และแต่ละหลักสูตรมีจุดเด่นอย่างไร ไปดูเพิ่มเติมกันครับ
แพทย์ 2 ปริญญา คืออะไร?

แพทย์ 2 ปริญญา ก็คือหลักสูตรที่มีการควบรวมระหว่างหลักสูตรแพทย์ กับสาขาวิชาอื่นๆ ซึ่งมีทั้งรูปแบบจบการศึกษาได้รับปริญญาตรี 2 ใบ จาก 2 มหาวิทยาลัย และจบการศึกษาได้รับปริญญาตรีพร้อมปริญญาโท
แพทย์รามา 2 ปริญญา

เริ่มกันที่แพทย์รามา กับหลักสูตร 2 ปริญญาในดวงใจของน้องหลายๆ คน
- โครงการร่วม 2 หลักสูตร พ.บ. – วศ.ม. หรือ วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วิศวกรรมชีวการแพทย์)
เรียนทั้งหมด 7 ปี โดยน้องๆ จะได้เรียนชั้นพรีคลินิก 3 ปีแรกที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จากนั้นชั้นปีที่ 4 จะเป็นการเรียนในหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ เป็นเวลา 1 ปีและกลับเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตในชั้นปีที่ 5 – 7 ทางด้านคลินิก โดยยังคงมีการทำงานวิจัยของหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ ควบคู่ไปด้วย
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม. (วิศวกรรมชีวการแพทย์)) (M. Eng. (Biomedical Engineering))
- โครงการร่วม 2 หลักสูตร พ.บ. – กจ.ม. หรือ การจัดการมหาบัณฑิต (นานาชาติ)
เรียนทั้งหมด 7 ปี โดยเรียนชั้นพรีคลินิก 3 ปีแรกที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จากนั้นเข้าศึกษาในหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต (นานาชาติ) โปรแกรม Healthcare and wellness management 1 ปีที่วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล และกลับมาเรียนชั้นคลินิกที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ควบคู่ไปกับการทำวิจัยสำหรับวิทยานิพนธ์หลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิตอีก 3 ปี
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และการจัดการมหาบัณฑิต (นานาชาติ) (กจ.ม.) (Master of Management, M.M.)
แพทย์จุฬา 2 ปริญญา

โครงการร่วม 2 หลักสูตร พ.บ. – วท.ม. หรือ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิศวกรรมชีวเวช)
โดยน้องๆ ที่เรียนในโครงการนี้จะสามารถเลือกลงทะเบียนเรียนรายวิชาในสาขาวิชาวิศวกรรมชีวเวชควบคู่ไปกับการเรียนตามหลักสูตรแพทย์ได้ตามความสนใจ และเมื่อเรียนตามหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตครบ 120 หน่วยกิต และมีคุณสมบัติตามที่คณะกรรมการบริหารหลักสูตรกำหนด จะมีสิทธิ์สมัครเข้าศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สหสาขาวิศวกรรมชีวเวชได้
หากได้รับการคัดเลือกเข้าหลักสูตร ในชั้นปีที่ 4-6 น้องๆ จะได้เรียนตามหลักสูตรแพทย์ ควบคู่ไปกับการสัมมนา และการทำวิทยานิพนธ์ในหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต โดยสามารถเลือกได้ใน 6 สาขาวิจัย ได้แก่ สาขา Medical instruments and biosensors, สาขา Biomechanics, สาขา Rehabilitation, สาขา Medical Imaging, สาขา Tissue engineering and Drug delivery system และสาขา Bioinformatics
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.) (Master of Science, M.Sc.)
แพทย์ธรรมศาสตร์ 2 ปริญญา

หลักสูตรร่วม 2 ปริญญา ระหว่างแพทยศาสตรบัณฑิต และศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขา “กฎหมายทางการแพทย์และสุขภาพ” และ สาขา ”การบริหารโรงพยาบาลและธุรกิจสุขภาพ”
- หลักสูตรร่วมคณะนิติศาสตร์ สาขาวิชากฎหมายทางการแพทย์และสุขภาพ
พูดถึงความโดดเด่นของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ต้องนึกถึงคณะนิติศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายเป็นอันดับแรก หลักสูตรนี้จึงเป็นการนำเอาจุดเด่นทางด้านกฎหมายมาควบรวมกับความรู้ทางการแพทย์ โดยมุ่งเน้นผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ด้านกฎหมายทางการแพทย์และสุขภาพ พร้อมการเป็นนักวิชาการที่สามารถทำวิจัยพื้นฐานหรือต่อยอดเป็นงานวิจัยเชิงนโยบายได้
น้องๆ จะได้เรียนทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ควบคู่กับการเรียนพื้นฐานกฎหมายทางการแพทย์และสุขภาพ กฎหมายด้านสถานพยาบาล รวมไปถึงระบบหลักการความรู้ด้านระบาดวิทยาคลินิก โดยเป็นการเรียนภาคทฤษฎีควบคู่กับการทำวิจัยทางคลินิกจริง
เรียน 7 ปี เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายทางการแพทย์และสุขภาพ (ศศ.ม.) (Master of Art in Health and Medical Law)
- หลักสูตรร่วมคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ด้านการบริหารโรงพยาบาลและธุรกิจสุขภาพ
โดยน้องๆ จะได้เรียนครอบคลุมตามหลักสูตรแพทยศาตรบันฑิต พร้อมการเรียนหลักการบริหารโรงพยาบาล กฎหมายนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญาทางการแพทย์ กฎหมายธุรกิจทางการแพทย์ และนิติเวชศาสตร์ขั้นสูง โดยเป็นการเรียนภาคทฤษฎีควบคู่กับการทำวิจัยทางคลินิกจริงเช่นเดียวกัน
เรียน 7 ปี เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารโรงพยาบาลและธุรกิจสุขภาพ (ศศ.ม.)
แพทย์ ม.ขอนแก่น 2 ปริญญา

ข้ามมาฝั่งภาคอีสานกันบ้าง จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก มข. อีกคณะแพทย์ในดวงใจน้องๆ ทั่วประเทศ ซึ่งหลักสูตรแพทย์ 2 ปริญญาของที่นี่จะแบ่งออกเป็น
- โครงการร่วม 2 หลักสูตร พ.บ. – วท.ม. หรือ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาการบริหารโรงพยาบาล)
เรียนทั้งหมด 6 ปี โดยเป็นการเรียนควบคู่กันตลอดหลักสูตร มุ่งเน้นการผลิตนักบริหารทางการแพทย์ นักวิจัยด้านการบริหารและการสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม. (การบริหารโรงพยาบาล))
- โครงการร่วม 2 หลักสูตร พ.บ. – วท.ม. หรือ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาวิทยาการข้อมูลและสารสนเทศสุขภาพ)
เรียนทั้งหมด 6 ปี โดยเป็นการเรียนควบคู่กันตลอดหลักสูตร มุ่งเน้นการผลิตแพทย์ผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง นักวิจัยด้านวิทยาการข้อมูลและสารสนเทศสุขภาพ
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม. (วิทยาการข้อมูลและสารสนเทศสุขภาพ))
แพทย์ศิริราช 2 ปริญญา

Hybrid Program 6 ยกกำลัง 1 เป็นหลักสูตรแพทย์ 2 ปริญญา ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยน้องๆ สามารถเลือกเรียนได้หลายสาขาตามความสนใจ เช่น หลักสูตรการศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพ Bio-Design วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาธารณสุขศาสตร์ และการจัดการ นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรนานาชาติระดับปริญญาโท โดย 2 สถาบันการศึกษาชั้นนำจากต่างประเทศ คือ Oregon Health & Science University ประเทศสหรัฐอเมริกา ในหลักสูตร Health Informatics และ The University of Western Australia ประเทศออสเตรเลีย ในหลักสูตร Public Health
ซึ่งหลักสูตรนี้จะมีการปรับเนื้อหาและสร้างรายวิชาใหม่ จากเดิมที่นักศึกษาปี 1 ต้องเรียนวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิตศาสตร์ ปรับเป็นวิชาที่นำไปใช้ได้จริงในการเรียนแพทย์ เรียนกับอาจารย์จากศิริราชตั้งแต่ชั้นเรียนปีที่ 1 และยังมีการเพิ่มวิชาใหม่ๆ อย่าง วิชาว่าด้วยผู้สูงอายุ ศาสตร์ระบบสุขภาพ ไว้ในหลักสูตรด้วย
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับ 2 ปริญญา คือ ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) และปริญญาโทในคณะที่สนใจ
แพทย์ SWU-NOTT 2 ปริญญา

โครงการร่วมของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม สหราชอาณาจักร
ต้องบอกก่อนว่าหลักสูตรนี้ไม่ใช่การเรียนแพทย์นานาชาติ แต่เป็นการเรียนคณะแพทย์ใน 2 สถาบัน โดยช่วงปี 1-3 จะเป็นการเรียนพรีคลีนิคที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยน็อตติงแฮม แล้วกลับมาศึกษาต่อในชั้นคลีนิค ปีที่ 4-6 ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมกับเพื่อนๆ คณะแพทย์ภาคปกติอีก 3 ปี
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับปริญญาตรีจาก 2 สถาบัน โดยเมื่อจบการศึกษา 3 ปีแรกจะได้รับ Bachelor Degree of Medical Sciences (B.Med.Sci.) จาก University of Nottingham และเมื่อจบการศึกษาชั้นปีที่ 6 จะได้รับปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine, M.D.) จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
แพทย์ CICM 2 ปริญญา

ปิดท้ายด้วย หลักสูตรแพทย์ 2 ปริญญาอย่าง แพทย์แผนจีน วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
หลักสูตรนี้จะเป็นหลักสูตรแพทย์นานาชาติ จัดการเรียนการสอนแบบ 2 ภาษา คือ ภาษาจีนและภาษาอังกฤษ เน้นการศึกษาเกี่ยวกับการรักษาโดยไม่ใช้สารเคมี เน้นใช้สมุนไพร การฝังเข็ม ครอบแก้ว เป็นต้น
- ปีที่ 1 จะเป็นการศึกษาโดยใช้ภาษาอังกฤษ เรียนหมวดวิชาศึกษาทั่วไปซึ่งเป็นหลักสูตรกลางของมหาวิทยาลัย และกลุ่มวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ โดยเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ สถาบันภาษา และคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
- ปีที่ 2 ใช้ภาษาจีนในการศึกษา จัดการเรียนการสอนที่ Beijing University of Chinese Medicine สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเป็นการเรียนกลุ่มวิชาภาษาสำหรับการแพทย์แผนจีน
- ปีที่ 3 เป็นการศึกษาโดยใช้ภาษาอังกฤษ โดยเป็นการเรียนกลุ่มวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ปีที่ 4 เป็นการศึกษาโดยใช้ภาษาจีนเจาะลึกวิชาชีพเฉพาะ (การแพทย์แผนจีน) โดยเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ส่วน ปีที่ 5-6 ใช้ภาษาจีนในการศึกษา เป็นการเรียนเจาะลึกวิชาชีพเฉพาะ และเดินทางกลับมาฝึกเวชปฏิบัติก่อนสิ้นสุดหลักสูตรที่คลินิกการแพทย์ผสมผสานบริการด้านการแพทย์แผนจีน วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ / คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว และโรงพยาบาลชลบุรี
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับปริญญาตรีจาก 2 สถาบัน คือ การแพทย์แผนจีนบัณฑิต (พจ.บ.) (Bachelor of Traditional Chinese Medicine, B.CM.) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ Bachelor of Traditional Chinese Medicine จาก Beijing University of Chinese Medicine สามารถสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนจีนได้ทั้งในไทยและจีน
หลักสูตรน่าสนใจเพียบเลยใช่ไหม สำหรับน้องๆ คนไหนที่สนใจอยากเรียนเข้าคณะแพทย์ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร พี่แอดมินมีคอร์สใหม่มาแนะนำกับคอร์ส Medical Preparation เตรียมเส้นทางสู่แพทย์รอบพอร์ตแบบครบทุกมิติ เริ่มตั้งแต่การค้นหาตัวตน ปูพื้นฐานการทำวิจัยใส่พอร์ต จนไปถึงเตรียมพร้อมสู่การสัมภาษณ์เลยทีเดียว หรือหากสนใจเติมไฟ เสริมแรงบันดาลใจในการทำงานวิจัยก็มาจอยกันได้ที่ Research for Medical

สุดท้ายนี้ พี่แอดมินและพี่ๆ ignite ทุกคนก็ขอส่งแรงใจ และจะอยู่เคียงข้างน้องตลอดเส้นทางความฝัน สู้ไปด้วยกันครับ สนใจวางแผน จัดสรรตารางเรียนกับพี่ๆ Education Consult แบบส่วนตัวโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทักเข้ามาคุยกันได้ตลอดที่ Line: @ignitebyondemand และ โทร 091-5761475
หากต้องการเลือก Shop คอร์สเรียน Online สามารถเลือกช้อป!คอร์สเรียนด้วยตัวเองได้ที่
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, SAT Reading and Writing, SAT
แชร์เทคนิคพิชิตข้อสอบ SAT Reading and Writing ประเภท Vocabulary in Context
สวัสดีครับน้องๆ ทุกคน เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย เตรียมตัวในการสอบ SAT ไปถึงไหนกันแล้วบ้างครับ หลายๆ คนคงเริ่มเรียนและฝึกฝนทำโจทย์ SAT กันอยู่เพื่อพิชิตคณะในฝัน วันนี้พี่แพททริคจึงขอมาให้กำลังใจพร้อมทั้งแชร์เทคนิคพิชิต ข้อสอบ SAT Reading and Writing กันครับ น้องๆ รู้มั้ยเอ่ยว่าข้อสอบประเภท Vocabulary in Context เนี่ย ก็เป็นข้อสอบอีกประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญมากๆ และสามารถช่วยเราเพิ่มคะแนนสอบได้ เพราะว่ามีข้อสอบประเภทนี้ถึง 8-9 ข้อต่อชุด (อ้างอิงจาก Official SAT Practice Tests ชุดที่ 8-9 โดย College Board) นับว่าเกือบจะเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนข้อสอบทั้งหมดเลยทีเดียว (ข้อสอบพาร์ท Reading มีทั้งหมด 52 ข้อ) ดังนั้น หากน้องๆ สามารถเก็บคะแนนในส่วนนี้ได้ทั้งหมด โอกาสในการพิชิต Perfect Score ก็จะเพิ่มขึ้นด้วยครับ หลังจากรู้ถึงความสำคัญที่จะต้องพิชิตข้อสอบ Vocabulary […]
Comments (0)
-
Blog
IGCSE คืออะไร? ตอบทุกข้อสงสัยไปกับ ignite by ondemand
IGCSE (International General Certificate of Secondary Educational) คือ หลักสูตรการศึกษาจากประเทศอังกฤษที่ทำให้ได้รับวุฒิการศึกษาเทียบเท่า ม.4 ในไทย ซึ่งหากเรียนจบหลักสูตร IGCSE แล้ว สามารถไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ เช่น AS, A Level, IB หรือเพื่อศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย โดยปกติในประเทศไทยนั้น การสอบ IGCSE จะอยู่ในระบบการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติที่ใช้ระบบการเรียนการสอนแบบอังกฤษ (UK) แต่น้องๆที่ไม่ได้อยู่ในระบบ ก็สามารถสมัครสอบ IGCSE ได้โดยตรงกับทาง British Council Thailand นะครับ สำหรับการสอบ IGCSE นั้น ต้องเลือกสอบจำนวน 5 วิชา เพื่อให้ได้ IGCSE Certificate โดย IGCSE มีให้เลือกมากกว่า 70 […]
Comments (0)
-
Blog
เทคนิคการเลือกวิชา IGCSE, A-Level ให้ได้คณะในฝัน
การเลือกวิชาใน IGCSE และ A-Level นั้นถือว่าสำคัญมากๆ เพราะเป็นการกำหนดอนาคตที่ใช้ยื่นคะแนนเข้าคณะในฝันของนักเรียนทุกคนที่เรียนหลักสูตรอังกฤษ เพราะหลักสูตรนี้ถือว่าได้รับการยอมรับในสากลจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก นักเรียนหลายคนมักจะสับสนว่าควรเลือกวิชาที่ชอบ หรือวิชาที่จำเป็นดีกว่า ดังนั้นวันนี้พี่ๆ ignite จะมาแนะนำเทคนิคการเลือกแบบเข้าใจง่ายๆ ให้น้องๆ กันครับ ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย !! ทำความรู้จักหลักสูตร IGCSE vs A-Level จากภาพด้านบน กล่าวได้ว่า IGCSE นั้นคือหลักสูตร 2 ปีสำหรับน้องๆ Year 10-11 ที่เป็นการเตรียมปูพื้นฐานวิชาให้มีองค์ความรู้รอบด้านและแน่นพอที่จะเลือกเรียนวิชาในขั้นสูงกว่า หรือการทำ A-Level อีกสองปี เพื่อยื่นคะแนนทั้ง 3 วิชานี้เข้ามหาวิทยาลัยที่น้องๆ ต้องการ ต่อมาเรามาดูกันว่าเราควรเลือกเรียนวิชาอะไรให้ตรงกับคณะที่เราต้องการเข้าศึกษาต่อ มาเริ่มกันที่หลักสูตรแรกนั้นก็คือ IGCSE เทคนิคการเลือกวิชา IGCSE โดยวิชาที่น้องๆ สามารถสอบได้ใน IGCSE นั้นแบ่งออกเป็น […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
ข้อสอบ ACT คืออะไร? มารู้จักอีกหนึ่งโอกาส สอบติดคณะอินเตอร์
ข้อสอบ ACT คืออะไร? คงเป็นคำถามที่น้องๆ ทีมอินเตอร์สงสัยกันมากที่สุดตอนนี้ !!! หลังจากที่ข้อสอบ SAT Subject tests ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ ทำให้มหาวิทยาลัยในไทยที่เปิดสอนหลักสูตรอินเตอร์ต่างพากันเบนเข็มมาเปิดรับคะแนน ACT กันมากขึ้น ไม่ว่าจะคณะวิศวะหรือวิทยาศาสตร์ ดังนั้นใครที่อยากสอบติด TCAS รอบ1 ต้องมารู้จักกับข้อสอบ ACT ที่เป็นอีกหนึ่งโอกาสทำให้น้องๆสอบติดคณะอินเตอร์ยอดฮิตนะครับ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านพร้อมกันได้เลย…ignite เตรียมข้อมูลพร้อมเสิร์ฟให้น้องๆ แล้วครับผม ข้อสอบ ACT คือ ACT หรือ American College Testing Assessment คือ ข้อสอบมาตรฐานจากประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาใช้วัดระดับทักษะด้านการใช้เหตุผล การคิดวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหา และการสื่อสารที่จำเป็นในการเรียนต่อมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยหลักสูตรอินเตอร์ที่เปิดรับนักศึกษาจากระบบ TCAS รอบ1 มักจัดหมวดหมู่คะแนน ACT ให้อยู่ประเภทเดียวกับคะแนน SAT หรือ SAT […]
Comments (0)
Comments