เตรียมตัวอย่างไรให้ สอบ IELTS ได้ 7.0 UP!!! BY น้องจ๋ำ ผู้พิชิต IELTS 8.0 ตั้งแต่ม. 3

สวัสดีครับน้องๆ เชื่อว่าน้องๆหลายคนโดยเฉพาะพี่ๆ ม.6 คงกำลังเตรียมตัวสอบ IELTS กันอยู่ เพราะในปัจจุบันนี้ การมีคะแนน IELTS ทำให้น้องๆ มีทางเลือกในการศึกษาต่อหลากหลายมากๆ ทั้งการเรียนต่อคณะอินเตอร์, การเรียนต่อต่างประเทศ, และที่สำคัญที่สุด คะแนน IELTS จะเปิดโอกาสให้น้องๆ ติดมหาวิทยาลัยก่อนใครตั้งแต่ TCAS รอบ 1 โดยการใช้ยื่นเข้าคณะอินเตอร์ได้โดยตรงเลย รวมถึงการใช้คะแนนอินเตอร์เข้าภาคไทยอย่าง แพทยศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ วันนี้พี่ๆ ignite จึงกลับมาพร้อมกับสาระดีๆ อีกเช่นเคย โดยการพาน้องจ๋ำคนเก่ง มาแนะนำถึงวิธีการสอบ IELTS เพื่อพิชิต Band 7.0 Up ถ้าพร้อมแล้ว เราไปฟังบทสัมภาษณ์แบบ Exclusive กับน้องจ๋ำ กันได้เลยครับ
Q: เชิญน้องคนเก่งแนะนำตัวกันหน่อยครับ
น้องจ๋ำ: สวัสดีครับ ผมชื่อ จ๋ำ เอกณัฐ บรรณประดิษฐ์ ตอนนี้กำลังขึ้น ม. 5 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ครับผม
Q: น้องจ๋ำตั้งใจอยากเข้าคณะอะไรครับ ช่วยเล่าคะแนนที่น้องจ๋ำต้องใช้ยื่นมีอะไรบ้างครับ?
น้องจ๋ำ: จ๋ำตั้งใจจะเข้าคณะแพทยศาสตร์ครับ เนื่องจากที่บ้านมีญาติที่เป็นแพทย์หลายคน จึงได้ซึมซับ ethos ของคนที่เป็นแพทย์ ซึ่งผมนั้นประทับใจมากๆ ทำให้อยากเป็นแพทย์ขึ้นมา ประกอบกับที่มีความชื่นชอบในวิชาชีววิทยาอยู่แล้ว และมีความสามารถในวิชาภาษาอังกฤษ จึงคิดว่าเหมาะที่จะเข้ารอบความสามารถพิเศษทางภาษาอังกฤษของคณะแพทยศาสตร์ครับ ซึ่งก็คือ TCAS รอบ 1 ครับ คณะที่จะเข้านี้ ใช้คะแนน BMAT และคะแนนหมวดภาษาอังกฤษ ซึ่งจ๋ำเลือกใช้เป็นตัว IELTS ซึ่งทุกวันนี้ยังไงมันควรได้ 7.0-7.5 ขึ้นไปครับ
Q: ทำไมจ๋ำถึงตัดสินใจเลือกเข้าแพทยศาสตร์ ด้วยคะแนนอินเตอร์ครับ?
น้องจ๋ำ: จริงๆ จ๋ำดูจากที่ปลายทางก่อนเลยครับ ว่าเราอยากเข้าแพทยศาสตร์ เราก็เตรียมตัวตามปกติเลย ซึ่งแต่ก่อนระบบหลักก็คือ กสพท. พอปีหลังๆ เริ่มมีประกาศวิธีการรับแบบใหม่มากขึ้นด้วยการยื่น BMAT และคะแนนหมวดภาษาอังกฤษ จ๋ำมองว่ามันเป็นอีกโอกาสนึงที่ควรลองดู เพราะชอบภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ประกอบกับเรียน EP มาตั้งแต่ป. 1 เลยคิดว่าเราน่าจะลองทางเลือกนี้ดู และยังถือว่าเป็นการทดสอบตัวเองด้วยว่าเราเหมาะสมกับทางเลือกนี้ไหม
Q: ตอนนั้นทำไมถึงไปสอบ IELTS ตั้งแต่ม. 3 ทั้งที่รู้ว่าคะแนนมีอายุ 2ปีซึ่งไม่ถึงตอนที่เราต้องใช้ยื่นครับ?
น้องจ๋ำ: จ๋ำว่าส่วนนึงคืออยากลองด้วย แต่ก็เรียนก่อนนะ ต้องเรียนต้องเตรียมตัวก่อนสอบ IELTS จริงๆ เริ่มจากเตรียมตัว BMAT ก่อนเลย ก็เลยเรียน BMAT ที่ ignite by OnDemand นี่แหละครับ เรียนตั้งแต่สมัยยังใช้ชื่อ OnDemand Inter เลยครับ ผมเรียน BMAT Critical Analysis กับพี่กั๊กครับ พอจบคอร์ส BMAT จ๋ำสนิทกับพี่กั๊กมากขึ้น และก็ได้คุยกับพี่กั๊กครับ ว่ากำลังจะมีคอร์ส SAT นะ ลองเรียนดูไหม พอได้เรียน SAT อีกทำให้แน่ใจมากขึ้นว่า เราจะลองใช้คะแนนกลุ่มอินเตอร์นี่แหละในการเข้ามหาวิทยาลัย สุดท้าย หลังจบคอร์ส SAT ทาง ignite ก็มีการเปิดคอร์ส IELTS ครั้งแรก ตอนนั้นจ๋ำ ม. 3 พอดีเลยครับ เป็นการเรียนและการทำโจทย์ข้อสอบ IELTS ครั้งแรกของจ๋ำเลยครับ เรียนจบ ก็เตรียมตัวเอง ฝึกเองเพิ่มเติมอีก และก็ลองสอบเลยครับ จะได้ไม่ลืมด้วย ไม่ได้คิดเรื่องอายุคะแนนแต่ว่าอยากลองดูมากกว่าครับ
Q: ให้น้องจ๋ำเล่าบรรยากาศการเรียน IELTS ที่ IGNITE BY ONDEMAND และความรู้ในห้องไปช่วยเราในห้องสอบจริงได้อย่างไรบ้างครับ ?
น้องจ๋ำ: ในห้องเรียน IELTS แบบฝึกหัดในพาร์ท Reading กับ Listening จะมีความยากกว่าข้อสอบจริงนิดนึงอยู่แล้ว พอไปเจอข้อสอบจริงทำให้ไม่ได้ประหม่ามาก ส่วนพาร์ท Writing จ๋ำว่าที่มีประโยชน์มากๆ คือเรื่องของ Structure การเขียนครับ ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้เลยว่าการมี Structure เพื่อการเขียนมันสำคัญ จนกระทั่งไปลองข้อสอบจริงๆ เราไม่มีทางเดาได้เลย ว่าเราจะได้คำถามเกี่ยวกับอะไร เพราะฉะนั้น การมี Structure ที่ Ready to use เข้าไปจะช่วยให้เขียนหัวข้อที่เราอาจไม่คุ้นออกไปจนได้ ไม่ต้องนั่งเสียเวลาคิดหรือส่งกระดาษเปล่า ซึ่ง Structure ที่พี่กั๊กให้ในห้องเหมือนเป็น Guideline ให้รู้ว่าอย่างน้อยจะเขียนเหตุผลอะไรเพื่อสนับสนุนคำตอบ ของจ๋ำและมันทำให้เอาตัวรอดในห้องสอบวันนั้นได้ครับ ส่วน Speaking ตอนนั้นก็ตกใจนะครับว่ามันมีพาร์ทที่จะถามความรู้ที่ค่อนข้างเฉพาะเหมือนกัน แต่การเอาตัวรอดก็คือแค่ Keep Talking!! จริงๆ ไม่ต้องสนใจว่าเรื่องที่เราตอบเป็นความจริงหรือไม่ เพราะ Examiner เขาวัดแค่ที่ภาษาที่เราสื่อสารอย่างเดียว ผมว่ายิ่งพูดให้เขาถามต่อไปได้ยิ่งดีครับ ให้มี Interaction ซึ่งกันและกัน

Q: นอกเหนือจากการเรียนแล้ว อยากให้น้องจ๋ำแนะนำเทคนิคการเตรียมตัวเพิ่มเติมก่อนสอบหน่อยครับ?
น้องจ๋ำ: พอได้ผ่านการสอบมาจริงๆ จ๋ำอยากแนะนำให้เพื่อนๆ หรือน้องๆทุกคนได้ลองสอบ IELTS จริงๆ ก่อนสักครั้งหนึ่ง หรืออย่างน้อยได้ลองสอบ Mock Exam ก่อนก็ได้ เพราะว่าการได้เจอข้อสอบและบรรยากาศการสอบในห้องจริงๆ ทำให้เรารู้จักเทคนิคบริหารเวลาสอบมากขึ้นโดยเฉพาะพาร์ท Writing ครับ รวมถึงยังมีข้อควรรู้ในการสอบที่เราจะได้ในห้องสอบจริง เช่น ในวันสอบจริงเราจะใช้ดินสอและยางลบของเขา เป็นต้น และผมคิดว่า ประสบการณ์จากห้องสอบจริงจะช่วยให้เราเตรียมตัวสำหรับการสอบรอบต่อไปได้แม่นยำขึ้นครับ
แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ลองสอบก่อน ในการสอบ IELTS นั้น การเตรียมตัวสำคัญมากๆ ครับ นอกจากตอนในห้องที่ต้องตั้งใจเรียน ก็ต้องพยายามเก็บเทคนิคในห้อง มาลองทำเองให้ได้ครับ พวก Listening และ Reading สามารถโหลดแนวข้อสอบเก่า และไฟล์เสียงต่างๆ ได้จากอินเทอร์เน็ตเลยครับ ลองเอามาทำดูครับ เพราะคิดว่ามันเป็น 2พาร์ทที่สามารถเตรียมตัวได้มากที่สุด สำหรับพาร์ท Writing กับ Speaking จ๋ำว่าจำเป็นต้องฝึกกว้างๆ ครับ เพราะเราคาดเดาคำถามไม่ได้เลย ดังนั้นพาร์ท Writing ควรเอาแนวคำถามเสมือนจริงมาลองฝึกทั้ง 2 tasks เลย เขียนไปเรื่อยๆ ดูสำนวนจาก Model answer ที่ได้ Bandสูงๆ และนำมาปรับใช้ รวมถึงต้องมีคลังคำศัพท์ในหัวก่อนไปสอบ เช่น Transition words, ศัพท์ที่เกี่ยวกับการบรรยายกราฟ เพิ่มขึ้น ลดลง หรือคงที่ เป็นต้น ส่วนพาร์ท Speaking ลองพูดบ่อยๆครับ พูดกับตัวเอง พูดกับกระจก ควรเตรียมพูดแบบกว้างมากๆ ไปก่อน คำถามในพาร์ทแรกมักจะถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว เช่น Where do you live? Where is your hometown? ซึ่งคำถามพวกนี้เราควรเตรียมตัวไปก่อนครับ นอกจากนี้ ถ้าเรื่องอะไรที่อยู่ในกระแส ณ ตอนนั้น ควรเตรียมพวกคำศัพท์ไปไว้ก่อนก็ได้ มีโอกาสที่จะออกเยอะเหมือนกันครับ อีกอย่างสำหรับพาร์ท Speaking ไม่อยากให้ไปกังวลว่า Examiner จะคิดว่าเราโกหกมั้ย เพราะเค้าสนใจแค่ภาษาที่เราตอบออกไปเท่านั้น อยากให้พยายามพูดออกไปให้มากที่สุด เพื่อให้เรามีโอกาสได้คะแนนมากที่สุดดีกว่าครับ โดยจ๋ำอ่านบทความ: ตัวอย่างข้อสอบ IELTS SPEAKING พร้อมเทคนิคการสอบให้ได้ BAND 7.0 UP จากพี่กั๊กและพี่แพททริค ซึ่งช่วยให้เข้าใจได้มากเลยครับ
Q: ให้น้องจ๋ำเล่าถึงความประทับใจในการเรียน IELTS ที่ IGNITE BY ONDEMAND หน่อยครับผม?
น้องจ๋ำ: ส่วนตัวจ๋ำ ประทับใจมากๆอยู่ 2เรื่องครับ
- เรื่องแรกคือ เรื่องของครูทุกคนที่นี่เลยครับ ครูที่นี่ทุกคน Friendly มากๆ ครูทุกคนจะคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำจ๋ำในแต่ละสาขาที่ครูถนัดกัน โดยครูคนแรกที่ผมเจอคือ พี่กั๊ก ซึ่งพยายามที่จะเล่นมุกตลกให้น้องๆ หัวเราะในห้อง ให้บรรยากาศในห้องเรียนสบายๆ และพี่กั๊กก็พยายามที่จะให้ความช่วยเหลือน้องๆ ทุกคน พยายามที่จะพูดให้กำลังใจน้องๆ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่กั๊กพูดเป็นแรงบันดาลใจ ผมอาจจะไม่ได้เริ่มที่จะเตรียมตัวและลองสอบข้อสอบต่างๆ เพื่อเข้าคณะในฝัน ตั้งแต่เด็กขนาดนี้ก็ได้ครับ จ๋ำว่าอีกนิยามนึงที่น่าจะเหมาะกับพี่กั๊กคือ “เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว” ครับ เพราะนอกจาก BMAT กับ IELTS ผมสามารถถามพี่กั๊กได้ทุกอย่างจริงๆ เช่น Biology ถึงแม้ผมจะไม่ใช่นักเรียนในคอร์ส Biology ด้วยซ้ำครับ แล้วก็นอกจากในห้อง ที่นี่ก็ยังมีการจัดกิจกรรมติวอย่าง Boost Up ให้มาเก็บตกเทคนิคต่างๆซึ่งผมว่ามีประโยชน์มากๆ ครับ
- เรื่องที่สอง จ๋ำชอบพี่ๆ สตาฟที่นี่มากครับ พี่ๆ ที่นี่ Friendly มากๆ คือพร้อมที่จะช่วยเหลือ คอยตอบคำถาม ถือว่าเป็นที่ปรึกษาทางการเรียนได้เลยครับ จ๋ำว่าพี่ๆ ที่นี่คืออยากจะช่วยน้องๆ จริง มีการหาข้อมูล requirements จากคณะและมหาวิทยาลัยต่างๆ มาแนะนำน้องๆ รวมถึงถ้าคอร์สไหนไม่จำเป็น พี่ๆเขาก็จะแนะนำตรงๆว่ายังไม่ต้องลงครับ
Q: สุดท้ายนี้ ให้น้องจ๋ำฝากอะไรถึงเพื่อนๆที่กำลังเตรียมตัวสอบ IELTS ครับ?
น้องจ๋ำ: สำหรับทุกคนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ IELTS หรือคนที่กำลังลังเลในการเลือก อยากให้รีบตัดสินใจครับ อยากให้ทุกคนรีบตัดสินใจว่าอยากเข้าคณะอะไร ของมหาวิทยาลัยไหน เพื่อที่ว่าจะได้ศึกษาวิธีการเข้าต่างๆ และเกณฑ์คะแนนที่ต้องใช้ในคณะนั้นๆ หลังจากนั้น จะได้โฟกัสสิ่งที่ต้องเตรียมตัวไปเลยครับ แล้วก็เต็มที่กับทางที่เราเลือกแล้วครับผม จ๋ำแนะนำให้อ่านบทความ: ผ่าข้อสอบ IELTS ก่อนสอบ MOCK IELTS EXAM ซึ่งเขียนอธิบายการสอบ IELTS ได้อย่างละเอียดเลยครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับน้องๆ เห็นไหมครับว่า IELTS 7.0 ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้นะครับผม ขอเพียงแค่น้องๆ มีความตั้งใจ หมั่นทบทวนและทำแบบฝึกหัด ฝึกพูด ฝึกเขียนบ่อยๆ เพื่อให้เราคุ้นเคยกับข้อสอบ ก็จะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ทำให้น้องๆ ไปถึงคณะและมหาวิทยาลัยในฝันได้ครับ
ส่วนน้องๆ คนไหน ที่อยากได้ตัวช่วยและครูที่จะคอยชี้แนะ และช่วยอัพคะแนนน้องๆให้ถึง 7.0 Up ดร.พี่กั๊กและพี่แพททริค 2เจ้าพ่อภาษาอังกฤษแห่ง ignite by OnDemand ก็ขอแนะนำคอร์ส IELTS ที่เปิดให้น้องๆ สามารถเลือกเรียนได้ทั้งแบบห้องสดและระบบ Self ตามความสะดวกของน้องๆ คอร์สนี้จะทำให้น้องๆ ได้รับเทคนิคอัพคะแนนมากมาย พร้อมกับข้อสอบเสมือนจริงให้น้องๆ ได้ลองทำเพื่อรู้จุดแข็ง-จุดอ่อนของตนเอง ที่สำคัญ เมื่อสมัครคอร์ส IELTS กับ ignite by OnDemand น้องๆจะได้รับสิทธิสอบ IELTS Mock Exam ฟรีไปเลยครับผม
สามารถดูข้อมูลคอร์ส IELTS เพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/ielts/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
คู่มือสำหรับพ่อแม่ อยากให้ลูกติดหมอ ตั้งแต่ TCAS รอบแรก ต้องใช้อะไรบ้าง
สวัสดีคุณพ่อคุณแม่ทุกที่อยากให้ลูกๆเป็นหมอทุกท่านนะครับ…วันนี้ ignite จะขอมาแนะนำการ สอบเข้าคณะแพทย์ TCAS รอบ 1 หรือที่ผู้ปกครองหลายๆ ท่านจะคุ้นหูกับคำว่า “แพทย์รอบ Portfolio” ซึ่งมีมหาวิทยาลัยที่เปิดรับ เช่น แพทย์จุฬาฯ แพทย์รามาฯ แพทย์ม.ขอนแก่น แพทย์ม.เชียงใหม่และอีกมากมายโดยวันนี้ ignite จะมาแนะนำข้อมูลสำคัญที่จะทำให้ลูกๆ ของคุณพ่อคุณแม่สอบติดหมอก่อนใครตั้งแต่ TCAS รอบแรก…ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเลย !! สอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio ต้องใช้อะไรบ้าง GPAX หรือเกรดเฉลี่ยสะสม สิ่งที่จำเป็นต่อการ สอบเข้าแพทย์รอบ Portfolio อย่างแรกคือ GPAX หรือเกรดเฉลี่ยสะสม โดยส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยจะกำหนดให้ใช้เกรดรวมทั้งหมด 4-5 เทอมด้วยกัน แต่จะมีเกณฑ์เกรดเฉลี่ยสะสมแตกต่างกันออกไปตามความต้องการของแต่ละคณะ แต่ต้องเรียนคุณพ่อคุณแม่ว่าหากลูกของท่านมี GPAX ตั้งแต่ 3.50 ขึ้นไป น้องๆ จะมีโอกาสในการยื่นเข้าคณะแพทย์รอบ 1 ได้ทุกมหาวิทยาลัย […]
Comments (0)
-
Blog, GED
GED Math & Science สองวิชาสำคัญ ช่วยอัพ Total Score
สวัสดีค่ะน้องๆ กลับมาพบกับพี่หมิง Ignite อีกครั้ง วันนี้พี่หมิงก็มีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับ GED มาฝากอีกเช่นเคยค่ะ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากใช้คะแนน GED เทียบวุฒิเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยก็คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าหลายๆ คณะมักจะกำหนดคะแนนรวม (Total Score) ขั้นต่ำที่น้องๆ ต้องทำได้ถึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัครเข้าคณะนั้นๆ เช่น CU-TU กำหนดคะแนน GED ขั้นต่ำที่ 660 คะแนน, MUIC กำหนดที่ 600 คะแนน เป็นต้น ดังนั้น นอกจากน้องๆ จะโฟกัสที่การสอบรายวิชาแล้ว อีกเรื่องที่ต้องคำนึงคือคะแนนรวม และสองวิชาที่ครูหมิงขอบอกเลยว่าเป็นตัวช่วยดึงคะแนนรวมที่ดีมากๆ ให้กับน้องๆ ก็คือ GED Mathematical Reasoning และ GED Science ค่ะ ก่อนอื่นเรามาเจาะลึกดูรายละเอียดของแต่ละวิชากันก่อนนะคะ GED Mathematical Reasoning ข้อมูลที่ต้องรู้ GED Mathematical Reasoning 1.ข้อสอบมี […]
Comments (0)
-
Blog
เจาะลึก 2 วิชายาก IGCSE Chemistry & Biology กับครูเกมและครูเวิลด์
นับถอยหลังอีกเพียง 4 เดือนสู่การสอบ IGCSE รอบตุลาคมสำหรับน้องๆ ระบบการศึกษานานาชาติ การสอบครั้งนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญเลยทีเดียว เพราะน้องๆ ต้องนำคะแนนเหล่านี้ไปใช้ศึกษาต่อวิชาที่ต้องการในระดับ A-Level และอาจต้องใช้ยื่นควบคู่กันในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในอนาคตอีกด้วย วันนี้พี่ๆ Ignite เลยจะพาน้องๆ มาเจาะลึก 2 วิชายาก IGCSE Chemistry & Biology กับครูพี่เกมและครูพี่เวิลด์ ผู้ที่มีประสบการณ์แน่นในการสอนน้องๆ หลักสูตรอินเตอร์ เพื่อที่จะได้รีบเตรียมตัวคว้าคะแนน A* กันถ้วนหน้า เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า! เจาะลึกข้อสอบ IGCSE Chemistry จุดไหนยากสุด? ครูพี่เกมต้องขออธิบายก่อนว่า ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงความยากของ IGCSE Chemistry นั้น น้องๆ อาจจะต้องดูก่อนว่าข้อสอบที่น้องๆ จะเจอนั้นมาจากบอร์ดไหน CIE (Cambridge) หรือ Pearson Edexcel ถึงเเม้ว่าทั้ง 2 […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
เหมือนไม่เหมือน เอาปากกามาวง เทียบให้ชัด CU-ATS VS ACT SCIENCE
สวัสดีครับว่าที่น้องๆ ทีมวิทยา วิศวะอินเตอร์ทุกคน ตั้งแต่มีการยกเลิก SAT Subject Tests ไป พี่เชื่อว่าน้องๆ หลายคน ต้องวางแผนเส้นทางสู่คณะในฝันกันใหม่ ซึ่งแน่นอนว่า ทั้ง CU-ATS และ ACT Science เป็นหนทางใหม่ในการพาน้องไปสู่จุดมุ่งหมาย แต่พี่เชื่อว่าคงมีหลายคนสงสัยว่า แล้วหน้าตาข้อสอบของ CU-ATS และ ACT Science เป็นอย่างไร แตกต่างกันตรงจุดไหนบ้าง และเราจะเลือกสอบตัวไหนดี วันนี้ทั้งพี่อิ้งค์และพี่ก๊อฟ ขอมา เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างข้อสอบ CU-ATS และ ACT Science จับทั้งสองข้อสอบมาเปรียบเทียบกันในทุกแง่มุม เพื่อเป็นอีกแนวทางในการช่วยน้องๆ ตัดสินใจครับ ทำความรู้จักข้อสอบ CU-ATS VS ACT Science อย่างแรก เรามาทำความรู้จักข้อสอบทั้ง 2 แบบก่อนนะครับ […]
Comments (0)
Comments