เตรียมตัวอย่างไรให้ สอบ IELTS ได้ 7.0 UP!!! BY น้องจ๋ำ ผู้พิชิต IELTS 8.0 ตั้งแต่ม. 3

สวัสดีครับน้องๆ เชื่อว่าน้องๆหลายคนโดยเฉพาะพี่ๆ ม.6 คงกำลังเตรียมตัวสอบ IELTS กันอยู่ เพราะในปัจจุบันนี้ การมีคะแนน IELTS ทำให้น้องๆ มีทางเลือกในการศึกษาต่อหลากหลายมากๆ ทั้งการเรียนต่อคณะอินเตอร์, การเรียนต่อต่างประเทศ, และที่สำคัญที่สุด คะแนน IELTS จะเปิดโอกาสให้น้องๆ ติดมหาวิทยาลัยก่อนใครตั้งแต่ TCAS รอบ 1 โดยการใช้ยื่นเข้าคณะอินเตอร์ได้โดยตรงเลย รวมถึงการใช้คะแนนอินเตอร์เข้าภาคไทยอย่าง แพทยศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ วันนี้พี่ๆ ignite จึงกลับมาพร้อมกับสาระดีๆ อีกเช่นเคย โดยการพาน้องจ๋ำคนเก่ง มาแนะนำถึงวิธีการสอบ IELTS เพื่อพิชิต Band 7.0 Up ถ้าพร้อมแล้ว เราไปฟังบทสัมภาษณ์แบบ Exclusive กับน้องจ๋ำ กันได้เลยครับ
Q: เชิญน้องคนเก่งแนะนำตัวกันหน่อยครับ
น้องจ๋ำ: สวัสดีครับ ผมชื่อ จ๋ำ เอกณัฐ บรรณประดิษฐ์ ตอนนี้กำลังขึ้น ม. 5 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ครับผม
Q: น้องจ๋ำตั้งใจอยากเข้าคณะอะไรครับ ช่วยเล่าคะแนนที่น้องจ๋ำต้องใช้ยื่นมีอะไรบ้างครับ?
น้องจ๋ำ: จ๋ำตั้งใจจะเข้าคณะแพทยศาสตร์ครับ เนื่องจากที่บ้านมีญาติที่เป็นแพทย์หลายคน จึงได้ซึมซับ ethos ของคนที่เป็นแพทย์ ซึ่งผมนั้นประทับใจมากๆ ทำให้อยากเป็นแพทย์ขึ้นมา ประกอบกับที่มีความชื่นชอบในวิชาชีววิทยาอยู่แล้ว และมีความสามารถในวิชาภาษาอังกฤษ จึงคิดว่าเหมาะที่จะเข้ารอบความสามารถพิเศษทางภาษาอังกฤษของคณะแพทยศาสตร์ครับ ซึ่งก็คือ TCAS รอบ 1 ครับ คณะที่จะเข้านี้ ใช้คะแนน BMAT และคะแนนหมวดภาษาอังกฤษ ซึ่งจ๋ำเลือกใช้เป็นตัว IELTS ซึ่งทุกวันนี้ยังไงมันควรได้ 7.0-7.5 ขึ้นไปครับ
Q: ทำไมจ๋ำถึงตัดสินใจเลือกเข้าแพทยศาสตร์ ด้วยคะแนนอินเตอร์ครับ?
น้องจ๋ำ: จริงๆ จ๋ำดูจากที่ปลายทางก่อนเลยครับ ว่าเราอยากเข้าแพทยศาสตร์ เราก็เตรียมตัวตามปกติเลย ซึ่งแต่ก่อนระบบหลักก็คือ กสพท. พอปีหลังๆ เริ่มมีประกาศวิธีการรับแบบใหม่มากขึ้นด้วยการยื่น BMAT และคะแนนหมวดภาษาอังกฤษ จ๋ำมองว่ามันเป็นอีกโอกาสนึงที่ควรลองดู เพราะชอบภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ประกอบกับเรียน EP มาตั้งแต่ป. 1 เลยคิดว่าเราน่าจะลองทางเลือกนี้ดู และยังถือว่าเป็นการทดสอบตัวเองด้วยว่าเราเหมาะสมกับทางเลือกนี้ไหม
Q: ตอนนั้นทำไมถึงไปสอบ IELTS ตั้งแต่ม. 3 ทั้งที่รู้ว่าคะแนนมีอายุ 2ปีซึ่งไม่ถึงตอนที่เราต้องใช้ยื่นครับ?
น้องจ๋ำ: จ๋ำว่าส่วนนึงคืออยากลองด้วย แต่ก็เรียนก่อนนะ ต้องเรียนต้องเตรียมตัวก่อนสอบ IELTS จริงๆ เริ่มจากเตรียมตัว BMAT ก่อนเลย ก็เลยเรียน BMAT ที่ ignite by OnDemand นี่แหละครับ เรียนตั้งแต่สมัยยังใช้ชื่อ OnDemand Inter เลยครับ ผมเรียน BMAT Critical Analysis กับพี่กั๊กครับ พอจบคอร์ส BMAT จ๋ำสนิทกับพี่กั๊กมากขึ้น และก็ได้คุยกับพี่กั๊กครับ ว่ากำลังจะมีคอร์ส SAT นะ ลองเรียนดูไหม พอได้เรียน SAT อีกทำให้แน่ใจมากขึ้นว่า เราจะลองใช้คะแนนกลุ่มอินเตอร์นี่แหละในการเข้ามหาวิทยาลัย สุดท้าย หลังจบคอร์ส SAT ทาง ignite ก็มีการเปิดคอร์ส IELTS ครั้งแรก ตอนนั้นจ๋ำ ม. 3 พอดีเลยครับ เป็นการเรียนและการทำโจทย์ข้อสอบ IELTS ครั้งแรกของจ๋ำเลยครับ เรียนจบ ก็เตรียมตัวเอง ฝึกเองเพิ่มเติมอีก และก็ลองสอบเลยครับ จะได้ไม่ลืมด้วย ไม่ได้คิดเรื่องอายุคะแนนแต่ว่าอยากลองดูมากกว่าครับ
Q: ให้น้องจ๋ำเล่าบรรยากาศการเรียน IELTS ที่ IGNITE BY ONDEMAND และความรู้ในห้องไปช่วยเราในห้องสอบจริงได้อย่างไรบ้างครับ ?
น้องจ๋ำ: ในห้องเรียน IELTS แบบฝึกหัดในพาร์ท Reading กับ Listening จะมีความยากกว่าข้อสอบจริงนิดนึงอยู่แล้ว พอไปเจอข้อสอบจริงทำให้ไม่ได้ประหม่ามาก ส่วนพาร์ท Writing จ๋ำว่าที่มีประโยชน์มากๆ คือเรื่องของ Structure การเขียนครับ ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้เลยว่าการมี Structure เพื่อการเขียนมันสำคัญ จนกระทั่งไปลองข้อสอบจริงๆ เราไม่มีทางเดาได้เลย ว่าเราจะได้คำถามเกี่ยวกับอะไร เพราะฉะนั้น การมี Structure ที่ Ready to use เข้าไปจะช่วยให้เขียนหัวข้อที่เราอาจไม่คุ้นออกไปจนได้ ไม่ต้องนั่งเสียเวลาคิดหรือส่งกระดาษเปล่า ซึ่ง Structure ที่พี่กั๊กให้ในห้องเหมือนเป็น Guideline ให้รู้ว่าอย่างน้อยจะเขียนเหตุผลอะไรเพื่อสนับสนุนคำตอบ ของจ๋ำและมันทำให้เอาตัวรอดในห้องสอบวันนั้นได้ครับ ส่วน Speaking ตอนนั้นก็ตกใจนะครับว่ามันมีพาร์ทที่จะถามความรู้ที่ค่อนข้างเฉพาะเหมือนกัน แต่การเอาตัวรอดก็คือแค่ Keep Talking!! จริงๆ ไม่ต้องสนใจว่าเรื่องที่เราตอบเป็นความจริงหรือไม่ เพราะ Examiner เขาวัดแค่ที่ภาษาที่เราสื่อสารอย่างเดียว ผมว่ายิ่งพูดให้เขาถามต่อไปได้ยิ่งดีครับ ให้มี Interaction ซึ่งกันและกัน

Q: นอกเหนือจากการเรียนแล้ว อยากให้น้องจ๋ำแนะนำเทคนิคการเตรียมตัวเพิ่มเติมก่อนสอบหน่อยครับ?
น้องจ๋ำ: พอได้ผ่านการสอบมาจริงๆ จ๋ำอยากแนะนำให้เพื่อนๆ หรือน้องๆทุกคนได้ลองสอบ IELTS จริงๆ ก่อนสักครั้งหนึ่ง หรืออย่างน้อยได้ลองสอบ Mock Exam ก่อนก็ได้ เพราะว่าการได้เจอข้อสอบและบรรยากาศการสอบในห้องจริงๆ ทำให้เรารู้จักเทคนิคบริหารเวลาสอบมากขึ้นโดยเฉพาะพาร์ท Writing ครับ รวมถึงยังมีข้อควรรู้ในการสอบที่เราจะได้ในห้องสอบจริง เช่น ในวันสอบจริงเราจะใช้ดินสอและยางลบของเขา เป็นต้น และผมคิดว่า ประสบการณ์จากห้องสอบจริงจะช่วยให้เราเตรียมตัวสำหรับการสอบรอบต่อไปได้แม่นยำขึ้นครับ
แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ลองสอบก่อน ในการสอบ IELTS นั้น การเตรียมตัวสำคัญมากๆ ครับ นอกจากตอนในห้องที่ต้องตั้งใจเรียน ก็ต้องพยายามเก็บเทคนิคในห้อง มาลองทำเองให้ได้ครับ พวก Listening และ Reading สามารถโหลดแนวข้อสอบเก่า และไฟล์เสียงต่างๆ ได้จากอินเทอร์เน็ตเลยครับ ลองเอามาทำดูครับ เพราะคิดว่ามันเป็น 2พาร์ทที่สามารถเตรียมตัวได้มากที่สุด สำหรับพาร์ท Writing กับ Speaking จ๋ำว่าจำเป็นต้องฝึกกว้างๆ ครับ เพราะเราคาดเดาคำถามไม่ได้เลย ดังนั้นพาร์ท Writing ควรเอาแนวคำถามเสมือนจริงมาลองฝึกทั้ง 2 tasks เลย เขียนไปเรื่อยๆ ดูสำนวนจาก Model answer ที่ได้ Bandสูงๆ และนำมาปรับใช้ รวมถึงต้องมีคลังคำศัพท์ในหัวก่อนไปสอบ เช่น Transition words, ศัพท์ที่เกี่ยวกับการบรรยายกราฟ เพิ่มขึ้น ลดลง หรือคงที่ เป็นต้น ส่วนพาร์ท Speaking ลองพูดบ่อยๆครับ พูดกับตัวเอง พูดกับกระจก ควรเตรียมพูดแบบกว้างมากๆ ไปก่อน คำถามในพาร์ทแรกมักจะถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว เช่น Where do you live? Where is your hometown? ซึ่งคำถามพวกนี้เราควรเตรียมตัวไปก่อนครับ นอกจากนี้ ถ้าเรื่องอะไรที่อยู่ในกระแส ณ ตอนนั้น ควรเตรียมพวกคำศัพท์ไปไว้ก่อนก็ได้ มีโอกาสที่จะออกเยอะเหมือนกันครับ อีกอย่างสำหรับพาร์ท Speaking ไม่อยากให้ไปกังวลว่า Examiner จะคิดว่าเราโกหกมั้ย เพราะเค้าสนใจแค่ภาษาที่เราตอบออกไปเท่านั้น อยากให้พยายามพูดออกไปให้มากที่สุด เพื่อให้เรามีโอกาสได้คะแนนมากที่สุดดีกว่าครับ โดยจ๋ำอ่านบทความ: ตัวอย่างข้อสอบ IELTS SPEAKING พร้อมเทคนิคการสอบให้ได้ BAND 7.0 UP จากพี่กั๊กและพี่แพททริค ซึ่งช่วยให้เข้าใจได้มากเลยครับ
Q: ให้น้องจ๋ำเล่าถึงความประทับใจในการเรียน IELTS ที่ IGNITE BY ONDEMAND หน่อยครับผม?
น้องจ๋ำ: ส่วนตัวจ๋ำ ประทับใจมากๆอยู่ 2เรื่องครับ
- เรื่องแรกคือ เรื่องของครูทุกคนที่นี่เลยครับ ครูที่นี่ทุกคน Friendly มากๆ ครูทุกคนจะคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำจ๋ำในแต่ละสาขาที่ครูถนัดกัน โดยครูคนแรกที่ผมเจอคือ พี่กั๊ก ซึ่งพยายามที่จะเล่นมุกตลกให้น้องๆ หัวเราะในห้อง ให้บรรยากาศในห้องเรียนสบายๆ และพี่กั๊กก็พยายามที่จะให้ความช่วยเหลือน้องๆ ทุกคน พยายามที่จะพูดให้กำลังใจน้องๆ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่กั๊กพูดเป็นแรงบันดาลใจ ผมอาจจะไม่ได้เริ่มที่จะเตรียมตัวและลองสอบข้อสอบต่างๆ เพื่อเข้าคณะในฝัน ตั้งแต่เด็กขนาดนี้ก็ได้ครับ จ๋ำว่าอีกนิยามนึงที่น่าจะเหมาะกับพี่กั๊กคือ “เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว” ครับ เพราะนอกจาก BMAT กับ IELTS ผมสามารถถามพี่กั๊กได้ทุกอย่างจริงๆ เช่น Biology ถึงแม้ผมจะไม่ใช่นักเรียนในคอร์ส Biology ด้วยซ้ำครับ แล้วก็นอกจากในห้อง ที่นี่ก็ยังมีการจัดกิจกรรมติวอย่าง Boost Up ให้มาเก็บตกเทคนิคต่างๆซึ่งผมว่ามีประโยชน์มากๆ ครับ
- เรื่องที่สอง จ๋ำชอบพี่ๆ สตาฟที่นี่มากครับ พี่ๆ ที่นี่ Friendly มากๆ คือพร้อมที่จะช่วยเหลือ คอยตอบคำถาม ถือว่าเป็นที่ปรึกษาทางการเรียนได้เลยครับ จ๋ำว่าพี่ๆ ที่นี่คืออยากจะช่วยน้องๆ จริง มีการหาข้อมูล requirements จากคณะและมหาวิทยาลัยต่างๆ มาแนะนำน้องๆ รวมถึงถ้าคอร์สไหนไม่จำเป็น พี่ๆเขาก็จะแนะนำตรงๆว่ายังไม่ต้องลงครับ
Q: สุดท้ายนี้ ให้น้องจ๋ำฝากอะไรถึงเพื่อนๆที่กำลังเตรียมตัวสอบ IELTS ครับ?
น้องจ๋ำ: สำหรับทุกคนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ IELTS หรือคนที่กำลังลังเลในการเลือก อยากให้รีบตัดสินใจครับ อยากให้ทุกคนรีบตัดสินใจว่าอยากเข้าคณะอะไร ของมหาวิทยาลัยไหน เพื่อที่ว่าจะได้ศึกษาวิธีการเข้าต่างๆ และเกณฑ์คะแนนที่ต้องใช้ในคณะนั้นๆ หลังจากนั้น จะได้โฟกัสสิ่งที่ต้องเตรียมตัวไปเลยครับ แล้วก็เต็มที่กับทางที่เราเลือกแล้วครับผม จ๋ำแนะนำให้อ่านบทความ: ผ่าข้อสอบ IELTS ก่อนสอบ MOCK IELTS EXAM ซึ่งเขียนอธิบายการสอบ IELTS ได้อย่างละเอียดเลยครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับน้องๆ เห็นไหมครับว่า IELTS 7.0 ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้นะครับผม ขอเพียงแค่น้องๆ มีความตั้งใจ หมั่นทบทวนและทำแบบฝึกหัด ฝึกพูด ฝึกเขียนบ่อยๆ เพื่อให้เราคุ้นเคยกับข้อสอบ ก็จะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ทำให้น้องๆ ไปถึงคณะและมหาวิทยาลัยในฝันได้ครับ
ส่วนน้องๆ คนไหน ที่อยากได้ตัวช่วยและครูที่จะคอยชี้แนะ และช่วยอัพคะแนนน้องๆให้ถึง 7.0 Up ดร.พี่กั๊กและพี่แพททริค 2เจ้าพ่อภาษาอังกฤษแห่ง ignite by OnDemand ก็ขอแนะนำคอร์ส IELTS ที่เปิดให้น้องๆ สามารถเลือกเรียนได้ทั้งแบบห้องสดและระบบ Self ตามความสะดวกของน้องๆ คอร์สนี้จะทำให้น้องๆ ได้รับเทคนิคอัพคะแนนมากมาย พร้อมกับข้อสอบเสมือนจริงให้น้องๆ ได้ลองทำเพื่อรู้จุดแข็ง-จุดอ่อนของตนเอง ที่สำคัญ เมื่อสมัครคอร์ส IELTS กับ ignite by OnDemand น้องๆจะได้รับสิทธิสอบ IELTS Mock Exam ฟรีไปเลยครับผม
สามารถดูข้อมูลคอร์ส IELTS เพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/ielts/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog
IGCSE คืออะไร? ตอบทุกข้อสงสัยไปกับ ignite by ondemand
IGCSE (International General Certificate of Secondary Educational) คือ หลักสูตรการศึกษาจากประเทศอังกฤษที่ทำให้ได้รับวุฒิการศึกษาเทียบเท่า ม.4 ในไทย ซึ่งหากเรียนจบหลักสูตร IGCSE แล้ว สามารถไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ เช่น AS, A Level, IB หรือเพื่อศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย โดยปกติในประเทศไทยนั้น การสอบ IGCSE จะอยู่ในระบบการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติที่ใช้ระบบการเรียนการสอนแบบอังกฤษ (UK) แต่น้องๆที่ไม่ได้อยู่ในระบบ ก็สามารถสมัครสอบ IGCSE ได้โดยตรงกับทาง British Council Thailand นะครับ สำหรับการสอบ IGCSE นั้น ต้องเลือกสอบจำนวน 5 วิชา เพื่อให้ได้ IGCSE Certificate โดย IGCSE มีให้เลือกมากกว่า 70 […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
เจาะลึกเส้นทางสอบติดคณะแพทย์ระดับโลก “University of Cambridge” น้องพรอมท์ Shrewsbury International School
กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่กับบทสัมภาษณ์ ignite Idol น้องพรอมท์ Shrewsbury International School ที่เพิ่งสอบติดคณะแพทย์ University of Cambridge ประเทศอังกฤษปีล่าสุดมาหมาดๆ … ถือเป็นเรื่องน่าภูมิใจของประเทศไทยและ ignite มากๆ ที่สามารถส่งเด็กไทย ไปคว้าที่นั่งในคณะแพทย์เคมบริจด์ ได้ถึง 2 ปีซ้อน ซึ่งเป็นคณะแพทย์ที่ใครๆ ต่างก็ยอมรับว่าสอบเข้ายากที่สุดในโลก วันนี้พี่แอดมินขอพาน้องพรอมท์ มาเจาะลึกเส้นทางสู่คณะแพทย์ University of Cambridge ประเทศอังกฤษ พร้อมเปิดเผยเส้นทางสู่การสอบติดคณะแพทย์ระดับโลก ให้เด็กไทยทุกคนที่มีความฝันได้ศึกษาแนวทางการเตรียมตัวที่ถูกต้อง…พี่แอดมินเชื่อว่าบทความนี้จะทำให้ประเทศไทยได้คุณหมอที่มีศักยภาพระดับโลกกลับมาพัฒนาวงการสาธารณสุขไทยเพิ่มอย่างแน่นอนครับ ได้ยินว่าน้องพรอมท์อยากเป็นหมอ เพราะต้องการทำงานที่ช่วยให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้น? เรื่องนี้มีที่มา ที่ไปอย่างไรครับ ใช่ครับ…จริงๆ แล้วผมมีความรู้สึกอยากเป็นหมอมาตั้งแต่เรียนอยู่ ม.2 แล้วครับ ด้วยความที่ยังเด็กมาก เราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรไปตอนนั้น แต่พอโตขึ้นผมได้มีโอกาสไปสอนหนังสือให้น้องๆ […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
5 โจทย์ที่ต้องเจอใน BMAT Critical Thinking พร้อมเทคนิค CAP รับมือทุกโจทย์ Part 1
สวัสดีครับน้องๆ กลับมาพบกับพี่กั๊กกันอีกครั้งนะครับ ใกล้จะถึงช่วงสอบ BMAT กันอีกแล้ว เชื่อว่าตอนนี้น้องๆ คงตั้งใจทบทวนโค้งสุดท้ายกันอยู่แน่นอน แต่เนื่องจากการสอบ BMAT นั่นมีหลายพาร์ทเหลือเกิน หากจะต้องโฟกัสทุกจุดคงจะใช้เวลาพอสมควรแน่ๆ วันนี้พี่กั๊กเลยมาพร้อมกับเทคนิควิเคราะห์โจทย์ BMAT Critical Thinking เพื่อเพิ่มเลเวลในการอัพคะแนนของน้องๆ ใน BMAT Part 1 และช่วยลดการใช้เวลาในการนั่งทบทวนว่า เอ้…โจทย์ข้อนี้ต้องการอะไรนะ? แต่ก่อนจะเริ่มเทคนิควิเคราะห์โจทย์จากพี่กั๊ก เรามาทบทวนกันอีกรอบดีกว่าว่า “BMAT Part 1 นั้น จริงๆ แล้วเป็นยังไง?” BMAT Part 1 เป็นอย่างไร ต้องเจอกับข้อสอบแบบไหน? แน่นอนว่าการที่น้องๆ จะสอบเข้าแพทย์และได้เป็นคุณหมอในอนาคต สิ่งๆ หนึ่งที่น้องจำเป็นจะต้องมีก็คือทักษะการคิดวิเคราะห์นั่นเอง ซึ่งหากน้องเป็นคนที่มีการคิดวิเคราะห์สูง ตรงนี้ก็อาจจะสื่อถึงความสามารถในการนำไปปรับใช้กับสถานการณ์เร่งด่วนต่างๆ ที่ต้องเจอในสายอาชีพนั่นเอง ดังนั้นนี่ก็เป็นที่มาของเจ้าตัว BMAT Part 1 โดยในส่วนนี้จะถูกแบ่งย่อยออกเป็นอีก 2 พาร์ท คือ BMAT Problem Solving (16 ข้อ) : […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
เจาะลึกเทคนิคพิชิต ACT Science ข้อสอบเป็นยังไง? ต่างจากข้อสอบอื่นยังไงบ้าง?
สวัสดีครับน้องๆ หลังจากที่หลายคณะเริ่มประกาศรับคะแนนการสอบ ACT เพื่อคัดเลือกนิสิต นักศึกษาใหม่เข้าคณะ เช่น ISE CU หรือ SIIT น้องๆ หลายคนก็เริ่มหันมาสนใจการสอบนี้กันมากขึ้น แถมยังมีบางคนรีวิวอีกว่าข้อสอบ ACT ง่ายกว่าการสอบแบบอื่นๆ วันนี้พี่อิ๊งค์จะมาช่วยไขข้อสงสัยถึงรูปแบบของ ข้อสอบ ACT Science ว่าเป็นยังไง แล้วจะง่ายกว่าข้อสอบอื่นจริงหรือไม่กันครับ ลักษณะข้อสอบ ACT Sciencee ข้อสอบ ACT Science มีคำถาม 40 ข้อ โดยให้เวลาในการทำอยู่ที่ 35 นาทีเท่านั้น ถือว่าเป็นข้อสอบ Speed Testมากๆ น้องจะต้องฝึกฝนในการทำให้มาก และฝึกจัดการเวลาในการทำข้อสอบให้เชี่ยวชาญก่อนไปสอบ ซึ่งรูปแบบของคำถาม จะมีการให้ Passage มาประมาณ 6 เรื่อง ในแต่ละเรื่องจะมีคำถาม 4-7 ข้อ […]
Comments (0)
Comments