รีวิวข้อสอบ CU-TEP Speaking รอบล่าสุด (3 กุมภาพันธ์ 2562)

สวัสดีครับน้องๆ ว่าที่นิสิตรั้วจามจุรีทุกคน สำหรับน้องๆ ที่ตั้งใจจะเข้าคณะ BBA, EBA, แพทยศาสตร์, และทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การใช้คะแนน CU-TEP รวมทั้ง CU-TEP Speaking ก็เป็นอีกตัวเลือกคะแนนหมวดภาษาอังกฤษ ที่น้องๆ มักใช้ในการยื่นเข้าศึกษาต่อในคณะดังกล่าว
วันนี้ พี่แพททริค ignite by OnDemand จึงขออาสามารีวิวข้อสอบ CU-TEP Speaking รอบล่าสุด วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 พร้อมบอกเล่าเทคนิคอัพคะแนน เพื่อเป็นแนวทางให้น้องได้เตรียมตัวนำไปใช้ในการสอบจริงกันครับ
CU-TEP Speaking คืออะไร?

ข้อสอบ CU-TEP (Chulalongkorn University Test of English Proficiency) เป็นข้อสอบวัดผลทักษะภาษาอังกฤษที่ออกแบบโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมักนำคะแนนมาพิจารณารับเข้าศึกษาต่อทั้งระดับปริญาตรี โท และเอกของมหาวิทยาลัย ส่วน CU-TEP Speaking เป็นการวัดผลด้านทักษะการพูด ซึ่งไม่ได้เป็นการบังคับสอบ ขึ้นอยู่กับบางคณะของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่รับพิจารณาคะแนนส่วนดังกล่าว ได้แก่ BBA, EBA, แพทยศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ อย่างไรก็ตาม การสอบ CU-TEP Speaking จะต้องสมัครพร้อมการสอบ CU-TEP ปกติ มีค่าธรรมเนียมการสอบ 2,900 บาท กล่าวคือ ต้องสอบ CU-TEP พาร์ท Paper-based ในช่วงเช้า และสอบ CU-TEP Speaking ในช่วงบ่าย
สำหรับการสอบ CU-TEP Speaking ห้องสอบจะอยู่คนละฝั่งกับห้องสอบ CU-TEP แบบ Paper-based ตอนเช้า เดินไกลพอสมควร ต้องเผื่อเวลาทานข้าวกลางวันดีๆ อนุญาตให้เข้าห้องสอบเวลา 12:50 น. ประตูห้องสอบปิดเวลา 13:10 น. และเริ่มสอบจริงเวลา 13.30 น. ลักษณะการสอบคือนั่งสอบกับคอมพิวเตอร์ และอัดเสียงผ่านหูฟัง ที่นั่งสอบจะเป็น partition แยกของใครของมัน หูฟังขนาดพอดี สบายๆไม่เจ็บหู บนโต๊ะจะมีกระดาษและดินสอเตรียมเอาไว้ให้ ทั้งนี้ ผู้เข้าสอบห้ามนำเอาทุกอย่างเข้าไปในห้องสอบ
NOTE: น้องๆต้องฟังคำสั่งจากคนคุมสอบให้ดีว่าเราต้องทำอะไรบ้าง มีรายละเอียดหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการเริ่มพูดต้องรอให้แถบสีเขียวขึ้นก่อน มิฉะนั้น บางส่วนที่เราพูดไปจะไม่ถูกอัดและทำให้เสียคะแนนได้
PART 1: Picture Discription (การบรรยายภาพ)

(ภาพข้างต้นเป็นภาพตัวอย่างที่ใกล้เคียงกับภาพในการสอบจริงเท่านั้น)
การสอบ CU-TEP Speaking จะใช้เวลาสอบ 15 นาทีโดยประมาณ โดยการสอบจะแบ่งออกเป็น 3 พาร์ทด้วยกัน
พาร์ทที่ 1 จะมีภาพจำนวน 6 ภาพ ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ในการสอบแต่ละครั้ง รูปภาพจะมาในธีมเดียวกัน สำหรับการสอบรอบล่าสุดนี้ ภาพที่ปรากฏทั้งหมดเป็นภาพในธีมความสำเร็จ (Success) ภาพทั้ง 6 ภาพ ได้แก่ รูปคนถือกระเป๋าทำงาน, รูปหมวกรับปริญญา, รูปกระบวนการสร้างสิ่งประดิษฐ์แล้วได้รางวัล, การเติบโตของยอดขาย, การสร้างนวัตกรรม, และรูปความสำเร็จ (มี 4 รูปจาก 6 รูปที่เป็นภาพ Infographics)
อย่างไรก็ตาม ในพาร์ทนี้อาจจะมีความสับสนเล็กน้อย เพราะแต่ละภาพจะมีความละเอียดมาก และอาจตีความได้หลายแบบ เช่นอาจจะเป็นเรื่องความสำเร็จในแบบต่างๆ การไปถึงเป้าหมาย หรือจะมองว่า ทุกๆอย่างเป็นขั้นตอนการเรียนแล้วรับปริญญากับการทำงานเป็นความสำเร็จก็ได้
Note: น้องๆต้องหาความสัมพันธ์ของรูปภาพทั้งหมดให้ดี ว่าเราควรจะเริ่มจากรูปไหน ตรงไหน รูปไหนสามารถเข้ากลุ่มกับรูปไหนได้บ้าง แล้วค่อยๆพูดทีละรูปหรือทีละคู่ไป ไม่จำเป็นต้องพูดเรียงจากรูปที่ 1ไปถึงรูปสุดท้าย น้องๆอาจจะพูดในภาพรวมก่อนว่าภาพทั้งหมดสื่อถึงอะไร และจึงเริ่มอธิบายความสัมพันธ์ทีละรูป นอกจากนี้ พี่แพททริคแนะนำให้น้องๆพยายามพูดคำเชื่อมหรือ Transition ต่างๆ เช่น เพื่อบอกเหตุผล, บอกความขัดแย้ง, บอกลำดับขั้นและความสัมพันธ์ของภาพด้วย เช่น because, since, however, nevertheless, in addition, moreover, then, next, และ apart from that เป็นต้น
PART 2: Answer the Question (การตอบคำถาม)

สำหรับพาร์ทนี้จะเป็นการตอบคำถาม โดยคำถามนั้นจะเป็นคำถามที่ต่อเนื่องมาจากพาร์ทที่ 1 สำหรับการสอบครั้งนี้ เมื่อพาร์ทที่ 1เป็น ธีมความสำเร็จ (Success) คำถามในพาร์ทนี้จึงถามว่า “Do you agree that hard work would lead to success? And Luck has nothing to do with success.” หมายถึง “คุณเห็นด้วยหรือไม่ ว่าการทำงานหนักนำมาซึ่งความสำเร็จ และความโชคดีไม่ได้มีผลใดๆในการที่จะประสบความสำเร็จ”
ในการสอบพาร์ทนี้ Part นี้ พี่แพททริคคิดว่าเป็นพาร์ทที่น่าจะตอบง่ายที่สุดและทำคะแนนได้ดีที่สุด เพราะเป็นคำถามปลายเปิด น้องๆสามารถเลือกตอบในลักษณะไหนก็ได้ จะเห็นด้วยหรือไม่ก็ได้ ขอเพียงแค่น้องๆมีคำอธิบายคำตอบของตนเองหรือการยกตัวอย่างประกอบคำตอบ เป็นต้น อีกหนึ่งข้อดีของพาร์ทนี้ คือน้องๆยังพอมีเวลาในการจดโน๊ตและ เตรียมคำพูดให้ดีก่อนตอบ ต้องใช้เวลาในส่วนนั้นให้คุ้มค่าที่สุด อีกเทคนิคหนึ่งในการฆ่าเวลาเมื่อน้องๆคิดคำตอบไม่ออกแล้ว น้องๆอาจเล่าถึงประสบการณ์ตรงของน้องๆต่อหัวข้อนั้นๆ และเมื่อมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวน้องเอง จะสามารถทำให้น้องๆพูดได้ยาวมากขึ้นด้วย เช่นน้องๆอาจจะเล่าถึงความสำเร็จที่ผ่านมาของน้องๆ หรือเล่าถึงที่มาของความสำเร็จนั้นๆก็ได้ครับ
Note: พี่แพททริคขอแนะนำให้น้องๆจดคำถามเอาไว้ด้วยตอนที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอเพราะพอแถบสีเขียวที่จะให้เริ่มพูดขึ้น คำถามจะหายไป อาจจะทำให้น้องๆลืมประเด็นที่ต้องพูดได้ครับผม
PART 3: Summary

มาถึงพาร์ทสุดท้ายกันแล้วนะครับ สำหรับพาร์ทที่ 3 เป็นการฟังแล้วสรุปความ จะมีวิดีโอให้น้องๆดูและฟัง ในวิดีโอจะเป็นการบรรยายอย่างเดียว มีความยาวประมาณหนึ่งเลยทีเดียว หลังจากวิดีโอจบ จะมีเวลาให้เตรียมตัว 45 วินาทีก่อนเริ่มพูดครับ รอบนี้เป็นการฟังเกี่ยวกับเรื่อง Success ประเภทต่างๆ เช่น academic success, career success, และ interpersonal success
สิ่งที่สำคัญสำหรับพาร์ทนี้คือ น้องๆต้องฟังให้เข้าใจว่า ผู้พูด พูดถึงเรื่องอะไร เช่น ใคร ทำอะไร ผลเป็นอย่างไร เป็นต้น ในขณะที่ฟัง น้องๆต้องจดไปตามลำดับคำที่ได้ยิน อาจจดเป็น Keyword เช่น ประธาน, กริยา, และส่วนขยายที่สำคัญ เพื่อให้ได้ประเด็นหลักๆ เพราะอย่างน้อย น้องๆก็สามารถนำคำเหล่านี้มาปะติดปะต่อเป็นเรื่องราวที่ใกล้เคียงกับเรื่องที่ได้ฟังได้ และอย่าลืมบริหารเวลาดีๆนะครับ ควรใช้เวลาที่ให้ในการเตรียมตัวเพื่อเรียบเรียงประเด็นแล้วค่อยๆพูดออกมาตามประเด็นที่เราแบ่งไว้ครับ
Note: พี่แพททริคขอแนะนำให้น้องๆเตรียมตัวกับการสอบไปดีๆ อาจจะมีตื่นเต้นบ้างเพราะเป็นการสอบกับคอมพิวเตอร์ถ้าน้องๆไม่ชิน ต้องตั้งสติและฟังคำสั่งจากกรรมการให้ชัดเจน อย่าไปสนใจเสียงคนข้างๆ ให้น้องๆคอยดูจากแถบสีเขียวบนหน้าจอของเราเองว่าเราต้องเริ่มพูดตอนไหนและหมดเวลาพูดตอนไหน เพราะตอนไปสอบ คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะเริ่มและจบไม่เท่ากัน พี่แพททริคขอให้น้องๆโฟกัสที่หน้าจอของตนเอง ไม่ใช่เริ่มพูดเพราะเพื่อนข้างๆพูด แต่ต้องรอจนกว่าแถบสีเขียว ของตัวเองจะปรากฏขึ้นนะครับ
ตารางคอร์สสด CU-TEP 2019

จบไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวข้อสอบ CU-TEP SPEAKING รอบล่าสุดโดยพี่แพททริค หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆทุกคนไม่มากก็น้อย น้องๆสามารถนำโจทย์และเทคนิคที่พี่แพททริคแชร์ไปลองฝึกพูดให้คุ้นเคยกันได้นะครับ แอบกระซิบบอกว่าข้อสอบ CU-TEP SPEAKING บางครั้งวนเอาชุดที่เคยออกไปแล้วกลับมาสอบซ้ำใหม่นะครับ ถ้าได้เจอชุดนี้อีก ก็จะถือว่าโชคดีมากๆหากน้องๆได้เตรียมตัวไป
สำหรับน้องๆ ม.4- ม.6 ที่จะต้องใช้คะแนน CU-TEP รวมถึง CU-TEP SPEAKING ในการยื่นเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในฝัน ข่าวดีคือ ดร.พี่กั๊ก และพี่แพททริคได้เปิดรอบคอร์สสด CU-TEP และ CU-TEP SPEAKING แล้วนะครับ ไม่ว่าจะในคอร์ส CU-TEP เริ่มเรียน 12 มีนาคม 2562 หรือ CU-TEP SPEAKING เริ่มเรียน 23 เมษายน 2562 ใน 2คอร์สนี้ น้องๆจะได้พบกับโจทย์ที่หลากหลายจำนวนมากให้ได้ลองฝึก รวมถึงยังได้เรียนรู้คำศัพท์และหลักไวยากรณ์อีกหลายๆเรื่องที่ดร.พี่กั๊กและพี่แพททริคทำการบ้านมาแล้วว่าออกบ่อย ออกชัวร์นะครับ และที่สำคัญ ทั้ง 2คอร์สนี้จะเน้นให้น้องๆได้ลองฝึกจากโจทย์เสมือนจริงให้มากที่สุด เพราะที่ ignite เราเชื่อใน “Learning by Doing” ครับผม แล้วมาเจอกันนะครับ
ส่วนน้องคนไหนที่สนใจจะเรียนคอร์ส Self สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/cu-tep/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio), SAT Subject Tests
เปิดเส้นทางเด็กนานาชาติสู่แพทย์รอบ Portfolio ติดหมอเป็น 10 คนแบบยกแก๊ง! Ruamrudee International School Bangkok
สวัสดีน้องๆ ว่าที่หมอทุกคนนะครับ !! วันนี้พี่แอดมินพาน้องๆ จาก โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี หรือ Ruamrudee International School Bangkok (RIS) ที่สอบติด แพทย์ รอบ Portfolio ปีล่าสุด มาพูดคุยและเล่าเรื่องราวการเตรียมตัวตั้งแต่การสอบเก็บคะแนน การทำพอร์ตไปจนถึงการสัมภาษณ์ เพื่อให้น้องๆ ว่าที่หมอได้ข้อมูลอย่างถูกต้อง และสามารถเตรียมตัวสอบเข้า แพทย์ รอบ 1 อย่างมั่นใจกันนะครับ หลายคนชอบคิดว่าเด็กนานาชาติโอกาสสอบติดหมอน้อยกว่าเด็กภาคไทย ขอบอกเลยว่า ไม่จริงเพราะน้องๆ RIS ที่เรียนกับ ignite สอบติดแพทย์และทันตะรอบ Portfolio กว่า 10 คน ไม่ว่าจะสอบติดแพทย์จุฬาฯ, แพทย์รามา, แพทย์จุฬาภรณ์ (PCCMS UCL), แพทย์อินเตอร์ มธ. (CICM) หรือทันตะอินเตอร์มหิดล (MIDS), ทันตะจุฬาฯ และอื่นๆ […]
Comments (0)
-
Blog, SAT
เรียน SAT ที่ ignite by OnDemand คว้า 800 คะแนนเต็มก่อนใคร
เรียน SAT ที่ไหนดี ? ที่นี่เลย ignite by OnDemand คว้า 800 คะแนนเต็มก่อนใคร การันตีความสำเร็จด้วยน้องที่สอบติดคณะอินเตอร์ยอดฮิตกว่าพันคน เพราะคะแนน SAT คือกุญแจสำคัญที่ทำให้น้องสอบติดคณะอินเตอร์ยอดฮิต หลายๆ คนจึงมีคำถามกันว่าแล้วเราควรจะ เรียน SAT ที่ไหนดี ? พี่บอกเลยว่าต้องที่ ignite เพราะคลาสเรียน SAT ที่ ignite by OnDemand ได้ออกแบบมาอย่างเข้มข้นเพื่อให้น้องพิชิต SAT Perfect Score ด้วยการเรียนการสอนที่มีเนื้อหาครบและครอบคลุมทุกเรื่องที่ออกสอบ อัพเดทตามข้อสอบปีล่าสุดใหม่ทั้งหมด 100% พร้อมโจทย์เพิ่มเติมให้น้องฝึกฝนจนคุ้นมือและรับ Feedback ทันทีจากคุณครูผู้สอน เพื่อปิดจุดอ่อนและปรับปรุงได้อย่างตรงจุดที่สุด! นอกจากนี้น้องๆ ในคลาสเรียน SAT ที่ ignite by OnDemand จะได้เข้าร่วมกิจกรรม Pathway To success ที่เราสร้างมาเพื่อดูแลน้องๆ ให้มั่นใจว่าจะคว้า SAT Perfect […]
Comments (0)
-
SAT Math, Blog, SAT
รีวิวเตรียมตัวสอบ SAT Math ในเวลา 1 เดือน ให้ได้ 800 เต็ม ตั้งแต่สอบครั้งแรกโดยน้องเบสท์ อัสสัมชัญบางรัก
สวัสดีครับ ใครกำลังเร่งเตรียมตัวสอบ SAT วันนี้พี่แอดมินพา น้องเบสท์ ignite idol ที่สอบ SAT Math ครั้งแรกก็ได้ 800 เต็ม อีกทั้งยังใช้เวลาเตรียมตัวแค่ 1 เดือนเท่านั้น…ใครอยากรู้ว่าน้องเบสท์ มีเคล็ดลับเทคนิคและวางแผนการเตรียมตัว SAT Math อย่างไร…ห้ามพลาดบทความนี้นะครับ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าผมไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับการสอบ SAT Math มาก่อนเลย…ไม่รู้ว่าคือข้อสอบแบบไหน เนื้อหาเป็นอย่างไร รู้อย่างเดียวคือเอาไว้ใช้ยื่นคณะอินเตอร์ ซึ่งผมอยากเรียน BBA TU ครับ ตอนเพิ่งขึ้น ม.5 ก็ยังไม่ได้หาข้อมูลอะไร คิดว่าอีกนานกว่าจะยื่น แต่รู้ตัวอีกที เพื่อนก็พากันไปสอบ SAT กันหลายครั้งแล้ว ผมเลยต้องรีบเตรียมตัวบ้าง วันนั้นถามเพื่อนว่าเรียน SAT Math ที่ไหน ทุกคนก็บอกว่า เรียน SAT Math ที่ ignite…วันรุ่งขึ้นผมก็มาสมัครเรียนทันทีเลยครับ Timeline เตรียมตัวสอบ SAT Math ในเวลา 1 เดือน […]
Comments (0)
-
Blog, SAT
How to เคล็ดลับอัพคะแนน SAT 1,530 by น้อง Bam ignite
สวัสดีครับ พี่ ignite เห็นน้องๆ หลายคนอาจจะกำลังขมักเขม้นในการเตรียมสอบ SAT กันอยู่ วันนี้พี่เลยพาพี่แบม เจ้าของคะแนน SAT รวม 1530 มาให้น้องๆ รู้จักกัน พี่แบมจะมีเทคนิคในการเตรียมตัวสอบ พร้อมทริค เคล็ดลับอัพคะแนน SAT ยังไงในการพิชิต Perfect Score บ้างนั้น ไปสอบถามกันเลย Q: แนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักกันหน่อยครับ? A: สวัสดีค่ะ ชื่อวริศรา ณรงค์วณิชย์ ชื่อเล่นแบมนะคะ มาจาก รร.สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน EP ค่ะ ตอนนี้พึ่งสอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ค่ะ Q: น้องมีการวางแผนการเตรียมตัวสอบ SAT ยังไงบ้างครับ? A: พี่สาวของเพื่อนแนะนำให้เตรียม SAT ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะมันยากกว่าภาษาอังกฤษปกติ ตอนแรกหนูก็ไม่คิดว่ามันจะยากขนาดนั้น แต่พอมาลองทำก็ยากจริงๆ ตอนนั้นจบ ม.4 หนูก็รู้ตัวแล้วว่าถ้าอยากได้คะแนน SAT เยอะๆ […]
Comments (0)
Comments