แชร์เทคนิคพิชิตข้อสอบ SAT Reading and Writing ประเภท Vocabulary in Context

สวัสดีครับน้องๆ ทุกคน เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย เตรียมตัวในการสอบ SAT ไปถึงไหนกันแล้วบ้างครับ หลายๆ คนคงเริ่มเรียนและฝึกฝนทำโจทย์ SAT กันอยู่เพื่อพิชิตคณะในฝัน วันนี้พี่แพททริคจึงขอมาให้กำลังใจพร้อมทั้งแชร์เทคนิคพิชิต ข้อสอบ SAT Reading and Writing กันครับ น้องๆ รู้มั้ยเอ่ยว่าข้อสอบประเภท Vocabulary in Context เนี่ย ก็เป็นข้อสอบอีกประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญมากๆ และสามารถช่วยเราเพิ่มคะแนนสอบได้ เพราะว่ามีข้อสอบประเภทนี้ถึง 8-9 ข้อต่อชุด (อ้างอิงจาก Official SAT Practice Tests ชุดที่ 8-9 โดย College Board) นับว่าเกือบจะเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนข้อสอบทั้งหมดเลยทีเดียว (ข้อสอบพาร์ท Reading มีทั้งหมด 52 ข้อ) ดังนั้น หากน้องๆ สามารถเก็บคะแนนในส่วนนี้ได้ทั้งหมด โอกาสในการพิชิต Perfect Score ก็จะเพิ่มขึ้นด้วยครับ
หลังจากรู้ถึงความสำคัญที่จะต้องพิชิตข้อสอบ Vocabulary in Context แล้วนั้น เรามาดูหน้าตาข้อของสอบกันบ้างดีกว่า
ข้อสอบ SAT Reading and Writing - คำถามประเภท Vocabulary in Context คือ?

ทุกครั้งที่เราเจอคำถามประเภท Vocabulary in Context เราก็จะพบว่าคำถามจะเหมือนเดิมทุกครั้งเลย นั่นก็คือ มี Line Reference และมีคำที่ถูกถามพร้อมกับคำถามที่ว่า “ใช้คำไหนแทนความหมายได้” เรียกง่ายๆ ว่ามันคือคำถามที่วัดความรู้ด้านคำศัพท์และการใช้ให้ถูกบริบทนั่นเองครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำ ข้อสอบ SAT Reading and Writing คือการตีความสิ่งที่โจทย์ต้องการถามให้แตกเพื่อที่เราจะได้เลือกคำตอบให้ถูกต้อง เมื่อเรามีวิธีทำที่ถูกแนวทางแล้ว คะแนนที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ไกลเกินเอื้อมเลยหากน้องๆ ฝึกฝนเพิ่มเติม แล้วเจ้าคำถามประเภทนี้ มีเทคนิคอะไรในการหาคำตอบบ้าง ไปหาคำตอบพร้อมกับพี่แพททริคกันเลยครับ
4 Steps - พิชิตคำถามประเภท Vocabulary in Context

จากหน้าตาของโจทย์ก่อนหน้านี้ ต่อไปเรามาลงมือทำ Step by Step ไปด้วยกันได้เลยครับ และจะรู้ว่าคำถามประเภทนี้เพียงแค่น้องๆ มีเทคนิคที่ดีก็จะช่วยให้น้องหาคำตอบได้ถูกต้องครับ ซึ่งพี่แบ่งขั้นตอนในการหาคำตอบออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่
1. วิเคราะห์โจทย์
As used in line 73, “nuanced” most nearly means
โจทย์ให้ Line Reference มาพร้อมกับ Phrase ที่เป็นคำถาม และถามเราว่าคำนี้นั้นหมายความว่าอย่างไร เราก็จะวิเคราะห์โจทย์ออกมาได้เป็น “คำว่า ‘nuanced’ ในบริบทของ line ที่ 73 นั้น มีความหมายว่าอะไร
2. วิเคราห์ Context
หลังจากที่เราวิเคราะห์โจทย์แล้ว น้องๆ ก็ควรที่จะรู้ว่า Context (บริบท) ของคำว่า “nuanced” ใน line ที่ 73 นั้นคืออะไร ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องอ่าน Context กันแล้วล่ะ ซึ่งส่วนใหญ่แล่วก็คือเอาบริบทมาจากประโยคเดียวกันกับคำที่โจทย์ให้มานั่นแหละครับ

ดังนั้น Context สำคัญ คือ “But the argument is more nuanced than simply needing more women in order to speak to other women.” หากน้องๆ ไม่รู้ว่า “nuanced” แปลว่าอะไร ไม่ต้องกังวลเลยครับ ให้นึกในใจเป็นแบบทับศัพท์ไปเลย แต่บริบทจะทำให้เรารู้ว่าเจ้า argument นี้มันต้องมีความอะไรสักอย่างมากกว่าความ simply แน่นอนครับ น้องๆ น่าจะพอเดาได้ว่า simply หมายความ อย่างง่ายๆ , อย่างตรงไปตรงมา เราก็จะตีความต่อไปได้ว่า nuanced จะมีความหมายที่ตรงข้ามกับ simply เพราะบริบทเป็นดารเปรียบเทียบ (more nuanced than…) เราจึงสามารถตีความได้ว่า “…the argument is” ซับซ้อนกว่าแค่ “simply…” นั่นเองครับ
3. วิเคราะห์ Choice
หลังจากที่เราได้วิเคราะห์ทั้งโจทย์และ Context กันไปแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะมาวิเคราะห์
Choices ทั้ง 4 ข้อกันแล้วล่ะน้อง ๆ โดยเราจะต้องเลือกข้อที่มี ความหมายตรงกับคำว่า
“nuanced” ในบริบทของ line ที่ 73 นั่นเอง โดย Choices ทั้ง 4 ข้อนั้นมีความหมายดังนี้
- urgent = ที่เร่งด่วน
- different = ที่แตกต่าง
- important = ที่สำคัญ
- complicated = ที่ซับซ้อน
4. เลือกคำตอบ
ในที่สุดเราก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายกันแล้ว หลังจากที่เราได้วิเคราะห์ 3 อย่างสำคัญไปแล้ว ก็ถึงเวลาแล้วที่น้องๆ จะต้องเลือกคำตอบ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึงก็คือเราจะเลือก Choice ที่มี ความหมายตรงกับคำว่า “nuanced” ในบริบทของ line ที่ 73 ซึ่งเราตีความกันไปว่าจะต้องเป็นคำที่มีความหมายตรงข้ามกับคำว่า simply (อย่างง่ายๆ) เพราะฉะนั้นคำตอบที่ถูกต้องสำหรับข้อนี้ก็คือ ข้อ 4) complicated หรือ ซับซ้อน นั่นเอง

สำหรับบทความนี้ พี่ก็ขอฝากเทคนิคการทำข้อสอบ SAT Reading ประเภท Vocabulary in Context ไปให้น้องๆประยุกต์ใช้ระหว่างเตรียมตัวสอบ SAT กันนะครับ แต่ใครยังไม่จุใจ อยากเรียนรู้เทคนิคในการทำ ข้อสอบ SAT Reading and Writing พร้อมทั้งมาตะลุยโจทย์ SAT Reading and Writing อีกหลายร้อยข้อเพื่อปิดจุดอ่อนและสร้างความมั่นใจก่อนสอบจริง ก็มาเจอกันในคอร์ส SAT Reading and Writing และ Advanced SAT Reading and Writing ซึ่งตอนนี้ทาง ignite มีรูปแบบการเรียนให้น้องเลือกมากมายทั้งคอร์สสด และ คอร์สเรียนออนไลน์ ในระบบ Anywhere ที่น้องจะเรียนที่ไหนก็ได้ทั้งสาขาและที่บ้าน เลือกเรียนได้ตามสะดวกเลยครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสมัครเรียนได้ที่ Line @ignitebyondemand หรือ โทร 02-658-0023 , 091-5761475
ดูรายละเอียด คอร์ส SAT Reading and Writing เพิ่มเติมได้ทาง >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/sat-reading-and-writing/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog
IGCSE คืออะไร? ตอบทุกข้อสงสัยไปกับ ignite by ondemand
IGCSE (International General Certificate of Secondary Educational) คือ หลักสูตรการศึกษาจากประเทศอังกฤษที่ทำให้ได้รับวุฒิการศึกษาเทียบเท่า ม.4 ในไทย ซึ่งหากเรียนจบหลักสูตร IGCSE แล้ว สามารถไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ เช่น AS, A Level, IB หรือเพื่อศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย โดยปกติในประเทศไทยนั้น การสอบ IGCSE จะอยู่ในระบบการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติที่ใช้ระบบการเรียนการสอนแบบอังกฤษ (UK) แต่น้องๆที่ไม่ได้อยู่ในระบบ ก็สามารถสมัครสอบ IGCSE ได้โดยตรงกับทาง British Council Thailand นะครับ สำหรับการสอบ IGCSE นั้น ต้องเลือกสอบจำนวน 5 วิชา เพื่อให้ได้ IGCSE Certificate โดย IGCSE มีให้เลือกมากกว่า 70 […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
เจาะลึกเส้นทางสอบติดคณะแพทย์ระดับโลก “University of Cambridge” น้องพรอมท์ Shrewsbury International School
กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่กับบทสัมภาษณ์ ignite Idol น้องพรอมท์ Shrewsbury International School ที่เพิ่งสอบติดคณะแพทย์ University of Cambridge ประเทศอังกฤษปีล่าสุดมาหมาดๆ … ถือเป็นเรื่องน่าภูมิใจของประเทศไทยและ ignite มากๆ ที่สามารถส่งเด็กไทย ไปคว้าที่นั่งในคณะแพทย์เคมบริจด์ ได้ถึง 2 ปีซ้อน ซึ่งเป็นคณะแพทย์ที่ใครๆ ต่างก็ยอมรับว่าสอบเข้ายากที่สุดในโลก วันนี้พี่แอดมินขอพาน้องพรอมท์ มาเจาะลึกเส้นทางสู่คณะแพทย์ University of Cambridge ประเทศอังกฤษ พร้อมเปิดเผยเส้นทางสู่การสอบติดคณะแพทย์ระดับโลก ให้เด็กไทยทุกคนที่มีความฝันได้ศึกษาแนวทางการเตรียมตัวที่ถูกต้อง…พี่แอดมินเชื่อว่าบทความนี้จะทำให้ประเทศไทยได้คุณหมอที่มีศักยภาพระดับโลกกลับมาพัฒนาวงการสาธารณสุขไทยเพิ่มอย่างแน่นอนครับ ได้ยินว่าน้องพรอมท์อยากเป็นหมอ เพราะต้องการทำงานที่ช่วยให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้น? เรื่องนี้มีที่มา ที่ไปอย่างไรครับ ใช่ครับ…จริงๆ แล้วผมมีความรู้สึกอยากเป็นหมอมาตั้งแต่เรียนอยู่ ม.2 แล้วครับ ด้วยความที่ยังเด็กมาก เราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรไปตอนนั้น แต่พอโตขึ้นผมได้มีโอกาสไปสอนหนังสือให้น้องๆ […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
5 โจทย์ที่ต้องเจอใน BMAT Critical Thinking พร้อมเทคนิค CAP รับมือทุกโจทย์ Part 1
สวัสดีครับน้องๆ กลับมาพบกับพี่กั๊กกันอีกครั้งนะครับ ใกล้จะถึงช่วงสอบ BMAT กันอีกแล้ว เชื่อว่าตอนนี้น้องๆ คงตั้งใจทบทวนโค้งสุดท้ายกันอยู่แน่นอน แต่เนื่องจากการสอบ BMAT นั่นมีหลายพาร์ทเหลือเกิน หากจะต้องโฟกัสทุกจุดคงจะใช้เวลาพอสมควรแน่ๆ วันนี้พี่กั๊กเลยมาพร้อมกับเทคนิควิเคราะห์โจทย์ BMAT Critical Thinking เพื่อเพิ่มเลเวลในการอัพคะแนนของน้องๆ ใน BMAT Part 1 และช่วยลดการใช้เวลาในการนั่งทบทวนว่า เอ้…โจทย์ข้อนี้ต้องการอะไรนะ? แต่ก่อนจะเริ่มเทคนิควิเคราะห์โจทย์จากพี่กั๊ก เรามาทบทวนกันอีกรอบดีกว่าว่า “BMAT Part 1 นั้น จริงๆ แล้วเป็นยังไง?” BMAT Part 1 เป็นอย่างไร ต้องเจอกับข้อสอบแบบไหน? แน่นอนว่าการที่น้องๆ จะสอบเข้าแพทย์และได้เป็นคุณหมอในอนาคต สิ่งๆ หนึ่งที่น้องจำเป็นจะต้องมีก็คือทักษะการคิดวิเคราะห์นั่นเอง ซึ่งหากน้องเป็นคนที่มีการคิดวิเคราะห์สูง ตรงนี้ก็อาจจะสื่อถึงความสามารถในการนำไปปรับใช้กับสถานการณ์เร่งด่วนต่างๆ ที่ต้องเจอในสายอาชีพนั่นเอง ดังนั้นนี่ก็เป็นที่มาของเจ้าตัว BMAT Part 1 โดยในส่วนนี้จะถูกแบ่งย่อยออกเป็นอีก 2 พาร์ท คือ BMAT Problem Solving (16 ข้อ) : […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
เจาะลึกเทคนิคพิชิต ACT Science ข้อสอบเป็นยังไง? ต่างจากข้อสอบอื่นยังไงบ้าง?
สวัสดีครับน้องๆ หลังจากที่หลายคณะเริ่มประกาศรับคะแนนการสอบ ACT เพื่อคัดเลือกนิสิต นักศึกษาใหม่เข้าคณะ เช่น ISE CU หรือ SIIT น้องๆ หลายคนก็เริ่มหันมาสนใจการสอบนี้กันมากขึ้น แถมยังมีบางคนรีวิวอีกว่าข้อสอบ ACT ง่ายกว่าการสอบแบบอื่นๆ วันนี้พี่อิ๊งค์จะมาช่วยไขข้อสงสัยถึงรูปแบบของ ข้อสอบ ACT Science ว่าเป็นยังไง แล้วจะง่ายกว่าข้อสอบอื่นจริงหรือไม่กันครับ ลักษณะข้อสอบ ACT Sciencee ข้อสอบ ACT Science มีคำถาม 40 ข้อ โดยให้เวลาในการทำอยู่ที่ 35 นาทีเท่านั้น ถือว่าเป็นข้อสอบ Speed Testมากๆ น้องจะต้องฝึกฝนในการทำให้มาก และฝึกจัดการเวลาในการทำข้อสอบให้เชี่ยวชาญก่อนไปสอบ ซึ่งรูปแบบของคำถาม จะมีการให้ Passage มาประมาณ 6 เรื่อง ในแต่ละเรื่องจะมีคำถาม 4-7 ข้อ […]
Comments (0)
Comments