ปราบ BMAT Part 2 Chemistry ให้อยู่หมัด ด้วยเคล็ดลับจากพี่ก๊อฟ

ปราบ BMAT PART 2 CHEMISTRY ให้อยู่หมัด ด้วยเคล็ดลับจากพี่ก๊อฟ
สวัสดีครับน้องๆ เข้าใกล้ช่วงสอบ BMAT แล้วน้องๆทุกคนมักจะกังวลกับการสอบ วันนี้พี่ก๊อฟก็เลยมาบอกเคล็ดลับในการทำ ข้อสอบ BMAT Part 2 Chemistry เพื่อให้น้องๆพร้อมและมั่นใจ ที่จะไปทำข้อสอบจริงในรอบที่จะถึงนี้ โดยพี่ก๊อฟได้สรุป Highlight มาให้ดังนี้
- การเริ่มเตรียมตัว BMAT Part 2 Chemistry ให้วิเคราะห์ก่อนเสมอ ว่าข้อสอบมีทั้งหมดกี่ข้อ ใช้เวลาข้อละกี่นาที บทไหนที่ออกบ่อย เพื่อจะได้เตรียมตัวอ่านได้ตรงจุด จากนั้นลองทำข้อสอบจริง 5 ปีย้อนหลัง ประเมินว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อรู้จุดอ่อน จึงค่อยใช้เวลาทุ่มเทกับบทที่ยังทำไม่ได้
- ข้อสอบ BMAT Part 2 Chemistry ยากกว่าข้อสอบ SAT แต่ยังไม่ยากเท่าข้อสอบวิชาสามัญ และ PAT2
- อย่าประมาทเด็ดขาด ข้อสอบ BMAT Part 2 Chemistry เป็นข้อสอบ speed test มีเวลาทำเฉลี่ย 1 นาทีต่อข้อ ดังนั้น ข้อที่ง่ายต้องทำให้เร็วที่สุด เพราะบางข้ออาจจะใช้เวลามากกว่า 1 นาที
- บางหัวข้อแตกต่างจากข้อสอบไทย และออกข้อสอบบ่อย เช่น การเรียงลำดับความสามารถในการออกซิไดส์หรือ รีดิวซ์โดยไม่ให้ตารางค่า E0

STEP 1: เตรียมตัวก่อนสอบ BMAT
เวลาเข้าใกล้ช่วงสอบทีไร น้องๆทุกคนมักมาถามพี่เสมอว่า “พี่ก๊อฟ ถ้าอยากเข้าที่นี่ ผมควรจะเริ่มยังไง?” วันนี้พี่เลยทำ Checklist ขั้นตอนการเตรียมตัวสอบอย่างละเอียด เพื่อให้น้องๆทุกคนเข้าใจตรงกันและสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
เริ่มกันที่สเต็ปแรกการเตรียมตัวก่อนสอบ ส่วนวิธีการที่พี่ก๊อฟจะมาแนะนำให้น้องๆจะเป็นอย่างไร อ่านด้านล่างได้เลยครับ
- สำรวจข้อสอบ 5 ปีย้อนหลัง วิเคราะห์ว่าบทไหนที่ออกเยอะ มีทั้งหมดกี่ข้อ และมีเวลาในการสอบเท่าไหร่
Why? : การจะเตรียมตัวที่ดี ต้องรู้ว่าจุดหมายปลายทางคืออะไร ข้อสอบวัดผลตรงไหน เหมือนนักกีฬาที่ต้องรู้ว่าเส้นชัยอยู่ตรงไหน จะได้วิ่งไปให้ถูกจุด
- เน้นทบทวนเนื้อหาที่จุดสำคัญ เริ่มอ่านจากบทที่ออกเยอะ และตามด้วยบทที่ออกน้อย
Why? : บางครั้งในชีวิตเราไม่สามารถเก็บทุกสิ่งทุกอย่างได้หมด น้องจึงต้องรู้จักการจัดลำดับความสำคัญ
- เริ่มทำโจทย์ทีละบทก่อน
Why? : ถ้ายังไม่เคยทำโจทย์เลย การเริ่มทำโจทย์แบบเรียงทีละบทก่อนจะช่วยให้เข้าใจ concept ของข้อสอบได้ดีขึ้น
- ทำข้อสอบเสมือนสอบจริง และจดข้อที่ผิดเก็บแยกไว้
Why? : น้องๆต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาด เพื่อวัดระดับความสามารถของตัวเอง และเมื่อนำมาทบทวนในครั้งต่อไปจะช่วยให้น้องๆ ใช้เวลาในการทบทวนน้อยลง
- จับเวลาข้อสอบแต่ละชุด และจดข้อที่ยังผิดแยกไว้
Why? : การทำข้อสอบไม่ทันคือกับดักที่ทำให้น้องๆหลายคนพลาด ดังนั้นน้องๆต้องจับเวลาทุกครั้งที่ฝึกทำข้อสอบ เพื่อให้เราสามารถบริหารเวลาได้อย่างดี เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ในห้องสอบจริงๆ
- ช่วงใกล้สอบให้อ่านทบทวนข้อที่เคยทำผิด ยิ่งใกล้สอบจริง น้องๆต้องรู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง และหมั่นทบทวนให้บ่อยแต่ไม่ต้องใช้เวลานาน เช่น ทำข้อสอบทุกวันแต่แค่วันละ 1 ชั่วโมง ดีกว่าการใช้เวลานานแต่ไม่สม่ำเสมอ
Why? : ความจำและความเข้าใจของมนุษย์ จะมีประสิทธิภาพดีเมื่อมีความถี่สูง ยิ่งฝึกฝนซ้ำๆเท่าไหร่ โอกาสที่จะจำและเข้าใจได้ดีก็จะมีมากขึ้น

STEP 2: ทำความรู้จักกับ BMAT PART 2 CHEMISTRY
สำหรับน้องๆที่ยังไม่เข้าใจ BMAT Part 2 Chemistry วันนี้พี่ก๊อฟขออาสามาช่วยน้องๆวิเคราะห์ข้อสอบ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว และน้องๆจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลานั่งวิเคราะห์กันเองนะครับ
ข้อสอบมีทั้งหมด 7 ข้อ จากทั้งหมด 27 ข้อ คิดเป็น 9 คะแนน
หลายคนบอกพี่ว่า “ โอ้โห…อย่างนี้ก็สบายเลย มีข้อสอบแค่ 7 ข้อเอง ” ใช่ครับ สบายแน่นอนเพราะมีจำนวนข้อสอบน้อย แต่น้องอย่าลืมนะครับว่ากว่าจะได้ 1 คะแนนมานั้น ไม่ง่ายเลย! เพราะถ้าเกิดน้องพลาดแบบที่ไม่ควรพลาดไป 2 – 3 ข้อ คะแนนน้องจะหายไป 1 คะแนนทันที ซึ่งคะแนนที่หายไปสามารถชี้เป็นชี้ตาย เรื่องการเข้าคณะของน้องได้เลยนะครับ
อย่าเสียเวลา! เรามาดูบทที่ออกสอบบ่อยๆในช่วง 5 ปีล่าสุดกันเลยดีกว่า (ข้อสอบ BMAT ตั้งแต่ปี 2013 ถึง 2017)

หัวข้อที่ออกทุกครั้งในข้อสอบ BMAT PART 2 CHEMISTRY คือ
- Nuclear symbol (สัญลักษณ์นิวเคลียร์ – หาโปรตรอน, อิเล็กตรอน, นิวตรอน) and Electron configuration (การจัดเรียงอิเล็กตรอน – หาหมู่หรือคาบของธาตุ)
- Stoichiometry (ปริมาณสารสัมพันธ์ – ให้สมการเคมี และสารตั้งต้น เพื่อหาสารผลิตภัณฑ์)
- Solution (สารละลาย – การคำนวณความเข้มข้นของสารละลาย)
- Electrochemistry (ไฟฟ้าเคมี – การทำอิเล็กโทรไลซิส และการทำนายว่าปฏิกิริยา redox เกิดขึ้นได้หรือไม่)
หัวข้อที่ออกข้อสอบในบางครั้ง ได้แก่
- Rate of reaction (อัตราการเกิดปฏิกิริยา – ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา)
- Equilibrium (สมดุลเคมี – หลักของเลอชาเตรีเย)
- Gas (ก๊าซ – กฎของก๊าซ)
- Hydrocarbon (ไฮโดรคาร์บอน – คุณสมบัติโดยทั่วไปของไฮโดรคาร์บอน)
โดยรวมแล้วจะพบว่าข้อสอบ BMAT Part 2 ออกจำนวนบทไม่เยอะ และระดับความยากนั้นอาจจะยากกว่าข้อสอบ SAT เล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าง่ายกว่าข้อสอบของภาคไทย เช่น ข้อสอบวิชาสามัญ และ PAT2

STEP 3: ลงสนาม พร้อมความ SPEED
เตือนแล้วนะ!! การฝึกบริหารเวลาคือสิ่งสำคัญในการทำข้อสอบ BMAT
“ ข้อสอบ BMAT Part 2 เป็นข้อสอบ speed test ” ฉะนั้นน้องๆต้องจำไว้เสมอว่า เรามีเวลาคิดหาคำตอบเพียงแค่ข้อละ 1 นาทีเท่านั้นนะครับ!! และในบางข้อ…น้องไม่มีทางที่จะทำเสร็จได้ภายใน 1 นาทีอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าเจอข้อที่ง่ายให้น้องๆ รีบจัดการข้อนั้นให้เสร็จด้วยความรวดเร็ว เพราะเราต้องนำเวลาที่เหลือมาทำโจทย์ที่ยากและยาวซึ่งมีโอกาสใช้เวลาต่อข้อเกิน 1 นาที ดังนั้นน้องๆต้องจำไว้เสมอนะครับ…การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำข้อสอบ BMAT Part 2

บางหัวข้อในข้อสอบไม่ตรงกับหลักสูตรของไทยและ SAT
น้องๆ หลายคนมักประมาทและเข้าใจผิดว่าข้อสอบ BMAT Part 2 Chemistry นั้นไม่ยากเพราะเคยเรียนของภาคไทยมาแล้ว ซึ่งตรงนี้ต้องระวังอย่างมาก เพราะว่าบางหัวข้อมีความซับซ้อนที่ไม่ตรงกับหลักสูตรของไทย อย่างเช่น ในปกติถ้าเป็นข้อสอบภาคไทย น้องๆมักจะได้รับตารางค่า E0 (ดังรูปด้านล่าง) แนบมากับข้อสอบเพื่อใช้เปรียบเทียบและหาคำตอบ แต่ในข้อสอบ BMAT Part 2 Chemistry จะไม่มีตารางค่า E0 ให้น้องๆดูนะครับ เพราะฉะนั้นน้องๆทุกคนจำเป็นต้องรู้แนวโน้มของค่า E0 เพื่อใช้ในการทำข้อสอบนะครับ

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเรื่องอิเล็กโทรไลซิส เป็นหัวข้อที่ออกสอบทุกครั้ง
ถ้าดูผิวเผินก็อาจจะเหมือนข้อสอบทั่วไปของภาคไทยที่จะถามเราว่าที่ขั้วแคโทด หรือ ที่ชั้วแอโนดเกิดปฏิกิริยาอะไร และได้สารอะไรเกิดขึ้น แต่แน่นอนว่าข้อสอบ BMAT Part 2 Chemistry นั้นจะยากกว่าเพราะก็ยังไม่มีตารางค่า E0 ให้น้องๆดู เพราะฉะนั้นน้องๆ ต้องเข้าใจและทราบว่าสิ่งไหนที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพื่อใช้ในการตัดสินใจสำหรับการตัด choice ให้เหลือคำตอบเพียงข้อเดียว

TRICK: ไม่ต้องอ่านทุกตัวอักษรก็หาคำตอบได้
อย่างที่พี่ก๊อฟเคยบอกน้องๆไปแล้วว่าข้อสอบ BMAT Part 2 Chemistry เป็นข้อสอบ speed test ดังนั้นทุกวินาทีในการสอบมีค่าอย่างยิ่ง ถึงแม้โจทย์บางข้อจะมีความยาวพอสมควร แต่ในหลายๆครั้งเราก็สามารถหาคำตอบได้โดยไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งหมด
วันนี้พี่เลยมาแนะนำ Trick ในการอ่านโจทย์แบบที่น้องๆไม่ต้องอ่านทุกตัวอักษรก็หาคำตอบได้ ส่วนเคล็ดลับประหยัดเวลาที่น้องๆสามารถเอาไปใช้ มีดังนี้
- อ่านคำถามก่อน ดูว่าโจทย์ถามอะไร หรือ ดู choice บางครั้งก็จะบอกได้ว่าเขาถามอะไร
- Mark ว่าตรงไหนที่เกี่ยวกับคำถาม โดยดูจากสมการ,รูปที่เขาให้มา, หรือข้อมูลอื่นๆ
- คิดหา Keyword ที่จะนำมาสู่คำตอบ
- หา Keyword นั้นในโจทย์ เพื่อมาหาคำตอบ
สุดท้ายนี้พี่ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ให้น้องๆทุกคนโชคดีในการเตรียมตัวสอบ และพี่เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ถ้าเราตั้งใจ ไม่มีอะไรที่ยากเกินกว่าที่เราจะทำได้ ขอให้ทุกคนพยายามให้เต็มที่ ขอให้ทุกคนโชคดีในการเตรียมตัวสอบนะครับ
พี่ก๊อฟ ignite by OnDemand

สำหรับน้องๆคนไหนที่พลาดรีวิวและเทคนิคพิชิตข้อสอบ BMAT PART 1 จากพี่ภัทร์และพี่กั๊กของเรา ที่มาแนะนำเทคนิคการเตรียมตัวสอบ BMAT เพื่อให้น้องๆมีโอกาสได้เข้าคณะและมหาวิทยาลัยที่น้องๆต้องการ คลิกบทความนี้ได้เลยครับ >> (รีวิวข้อสอบพร้อมเทคนิคพิชิต ข้อสอบ BMAT PART 1 BY พี่ภัทร์และพี่กั๊ก) และถ้าน้องๆ มองหาตัวช่วยติวก่อนสอบตอนนี้พี่ก๊อฟ มีคอร์ส Intensive course for BMAT Chemistry ที่น้องๆ จะได้เจาะลึกข้อสอบ BMAT Chemmistry พร้อมตะลุยโจทย์จับเวลาจริง อย่างเข้มข้นไปพร้อมๆกัน
สามารถดูรายละเอียดคอร์สเรียน BMAT เพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/bmat/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio), SAT Subject Tests
Unveiling the pathway to the portfolio interview for reputable medical degrees of Ignite RIS students
Greeting to all potential medical doctor candidates! Today, we want to share with you the experience of Ruamrudee International School Bangkok (RIS)’s students who made it to the portfolio round of the latest year. From scoring multiple tests, working on your portfolio, and finishing it all with the interview, we have […]
Comments (0)
-
Blog, EP ม.ต้น
เรียน EP อยู่แล้วต้องเรียนภาษาอังกฤษเสริมอีกมั้ย ?
สวัสดีค่ะ พี่แนนจาก ignite นะคะ มีคำถามนึงที่ช่วงนี้พี่แนนได้ยินบ่อยมากๆ จากทั้งคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ ม.ต้นที่เรียน EP มาว่า “เรียน EP อยู่แล้ว ยังต้องเรียนภาษาอังกฤษเสริมอยู่มั้ย” เพราะตามที่คุณพ่อคุณแม่เข้าใจคือหลักสูตรนี้เน้นภาษาอังกฤษอยู่แล้วน่าจะไม่ต้องทำอะไรมากมาย ก่อนที่เราจะไปหาคำตอบกัน พี่แนนมีเรื่องมาเล่าให้ฟังค่ะ เป็นเรื่องของนักเรียนคนนึงที่พี่เคยสอน น้องเรียน English Program มาตั้งแต่ ม.1 และตอนที่มาเจอกับพี่ครั้งแรก น้องอยู่ ม.3 แล้วและสนใจเตรียมตัวสอบเข้า Grade 10 ที่ MUIDS (โรงเรียนสาธิตนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล) ในวันที่เจอกับคุณแม่ของน้องครั้งแรกเพื่อวางแผนการเรียนกัน คุณแม่มองว่าน้องน่าจะไม่ต้องติวภาษาอังกฤษเยอะเพราะเรียน EP มา แต่เพื่อให้สามารถวางแผนการเรียนและสอนได้อย่างตรงจุด พี่จึงให้น้องลองทำโจทย์สอบเข้ารวมถึง พาร์ทการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ (Essay) สิ่งที่เกิดขึ้นคือน้องบอกกับพี่แนนว่าน้องเขียนไม่ได้ นึกคำศัพท์ไม่ออก เรียบเรียงไม่ถูก ในเวลาหนึ่งชั่วโมงนั้นน้องจึงเขียนได้เพียง Paragraph สั้นๆ เท่านั้น Academic English ปัญหาสำคัญของน้อง EP EP หรือ English Program เป็นทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่นักเรียนทั้ง ม.ต้น และ […]
Comments (0)
-
Blog
ไขข้อสงสัย เข้าหมอในไทย ต้องทำ IB full diploma หรือไม่ โดยน้องยูโร RIS ว่าที่ freshy ทันตะ จุฬาฯ
การทำ IB full diploma ในโรงเรียนหลักสูตร IB นั้นอาจจะเป็นใบเบิกทางที่เปิดโอกาสมากกว่าสำหรับน้องๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองนั้นอยากเข้าคณะไหน เรียนต่อในประเทศหรือนอกประเทศ เพราะการที่หลักสูตร IB นั้นได้รับการยอมรับไปทั่วโลกด้วยความ Well-rounded ของเนื้อหาและการศึกษาทั้งด้านวิชาการและกิจกรรมอย่างเข้มข้น ดังนั้นการทำคะแนน IB full diploma ที่มีครบทั้ง TOK, CAS และ EE ได้ดีนั้นย่อมแปลว่าน้องๆ มีโอกาสที่จะเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศได้ แต่น้องๆ ที่เรียนโรงเรียนนานาชาติที่มีหลักสูตร IB ให้เลือกหลายๆ คนอาจจะกำลังสับสนว่า ถ้าเราจะเข้าหมอในไทยนั้นเราจำเป็นที่จะต้องทำ IB full diploma หรือเปล่า หรือเราสามารถเรียนแค่บางวิชาก็พอ วันนี้พี่แอดมินเลยรวบรวมข้อมูลและบทสัมภาษณ์ จาก น้องยูโร โรงเรียนร่วมฤดี มาเพื่อไขความกระจ่างกันครับ โดยเรามาเริ่มกันกับวิชาส่วนมากที่ น้องๆ โรงเรียนนานาชาติต้องใช้เพื่อยื่นเข้าคณะแพทย์และทันตะ กันนะครับ รวมวิชาที่ต้องยื่นคะแนนเข้าคณะแพทย์ในไทย สำหรับเด็กอินเตอร์ […]
Comments (0)
-
Blog, IELTS
5 เทคนิคสอบ IELTS Speaking อย่างไรให้ผ่านฉลุย by Kru Tan Native Speaker
สำหรับน้องๆ ที่ต้องการเรียนต่อมหาวิทยาลัยหลักสูตรอินเตอร์ หรือเรียนต่อต่างประเทศ แน่นอนว่าการสอบวัดระดับภาษาคือเรื่องที่สำคัญมากถึงมากที่สุดเลย เพราะนี่คือหนึ่งใน Requirements ที่เป็นจุดวัดว่าน้องสามารถผ่านด่านประตูแรก หรือยื่นสมัครได้รึเปล่า หนึ่งในการสอบที่ถือได้ว่าเป็นรูปแบบสุดฮิตที่น้องๆ ส่วนใหญ่เลือกกันก็คือการสอบ “IELTS” นั่นเอง เนื่องจากสามารถใช้ยื่นได้ในเกือบทุกสถาบัน เรียกได้ว่าเกือบทุกมุมโลกยอมรับในผลสอบนี้ แต่ยังไงก็ตามการสอบ IELTS ถือว่าหินเลยทีเดียวหากน้องๆ ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก โดยเฉพาะพาร์ท Speaking วันนี้พี่ๆ ignite เลยพาครูแทน สุดยอดติวเตอร์ภาษาอังกฤษจาก Ignite มาแชร์เทคนิคและจุดโฟกัสว่า “ทำยังไงดีนะ ถึงจะผ่านด่าน IELTS Speaking ไปได้?” สำหรับใครที่ยังไม่รู้ Kru Tan ของชาว ignite เป็น Native Speaker ที่เติบโตและศึกษาที่ประเทศอังกฤษ พร้อมดีกรีจาก Queen Mary U. of London ทำให้ทักษะในการสื่อสารของครูแทนเรียกได้ว่าลื่นไหนสุดๆ […]
Comments (0)
Comments