[YOUNG งงๆ] IGNITE ตอบทุกคำถามกับการสอบ BMAT

ignite-Young-งงๆ-สอบ BMAT-Test-Bigcover1-1024x536

[YOUNG งงๆ] IGNITE ตอบทุกคำถามกับการสอบ BMAT

สวัสดีน้องๆว่าที่คุณหมอทุกคนครับ  เชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการ สอบ BMAT เพราะมีน้องๆ ส่งคำถามหลังไมค์เข้ามาหาพี่แบบล้นหลามกันเลยทีเดียว…ไม่ว่าจะ “ เลือกสอบ BMAT รอบไหนดี ? สมัครอย่างไร ? หรือเนื้อหาที่ออกสอบมีอะไรบ้าง ?” และแน่นอนเพื่อไม่ให้ทุกคนพลาดทุกประเด็น วันนี้พี่เลยมาตอบทุกคำถามเกี่ยวกับ BMAT แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเจ้าตัวข้อสอบ  “ BMAT ” กันก่อนดีกว่าครับ

ignite- BMAT คือ-Bigcover2-1024x536

QUESTION: เลือกสอบ BMAT รอบสิงหาคมและรอบตุลาคมและข้อสอบยากง่ายต่างกันไหม

Answer: 

  • การสอบแต่ละรอบความยากง่ายไม่ต่างกัน เพราะข้อสอบ BMAT มีมาตรฐานสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะสอบรอบไหนความยากง่ายของข้อสอบจะเท่ากันทุกรอบ
  • การเลือกสอบไม่ได้อยู่ที่ความยากง่าย แต่อยู่กับตารางการสอบของน้องๆ พวกเราต้องวางแผนว่าจะสอบแพทย์รอบไหนบ้าง
  • น้องที่จะสอบทั้ง BMAT และกสพท ควรเลือกสอบ BMAT รอบสิงหาคมไปเลย เพราะว่าเราจะได้เริ่มเตรียมตัวอ่าน BMAT ก่อนและเมื่อสอบเสร็จก็จะมีเวลาเตรียมตัว กสพท อย่างเต็มที่ต่อนั้นเอง
  • ใครที่จะสอบทั้ง BMAT และ SAT  ก็อยากให้น้องๆสอบ BMAT รอบสิงหาคมแรกเหมือนกัน เพราะ BMAT รอบสองห่างกับวันสอบ SAT เพียงไม่นาน ซึ่งอาจทำให้พวกเราไม่ Concentrate
  • แต่ถ้าใครชัดเจนว่าจะยื่นคณะแพทย์โดยใช้คะแนน BMAT เพียงอย่างเดียว ให้พวกเราสอบ BMAT รอบสองเดือนตุลาคมไปเลย เพราะเราจะได้เตรียมตัวให้พร้อมที่สุด

 

*แพทย์จุฬาประกาศรับคะแนน BMAT ทั้งสองรอบ แต่เลือกสอบได้เพียงรอบเดียวเท่านั้นนะครับ

QUESTION: BMAT สมัครสอบอย่างไร

Answer:

  1. ไปที่ www.metritests.com เลือก Shop หัวข้อ BMAT-Non Europe กด Continue เลื่อนมาเห็นคำว่า Filter by country เลือก Thailand และเลือกสนามที่ต้องการ
  2. เข้าสู่หน้าลงทะเบียน ใช้อีเมล์ Gmail, หรือ Hotmail ก็ได้ครับและต้องกรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ห้ามลืม !!! กลับไปอีเมล์ของเรา แล้วคลิ๊ก link ที่ส่งมาเพื่อ activate email
  3. การจ่ายค่าสมัครสอบ ก่อนอื่นควรเช็คข้อมูลการสมัครสอบที่เราเลือกไปและเริ่มกรอกข้อมูลบัตรเครดิต เสร็จแล้วจะได้รหัส OTP ที่เบอร์เจ้าของบัตรเครดิต นำรหัสมากรอกในเว็บและรับหลักฐานชำระเงินในอีเมล์

 

QUESTION: BMAT ค่าสมัครสอบเท่าไร แต่ละรอบราคาเท่ากันไหม อย่างไร

Answer: BMAT แต่ละรอบ จะมีค่าสมัครแตกต่างกัน ตามรูปด้านล่างเลยครับ

ignite-Young-งงๆ-ค่าสมัครสอบ-BMAT-Test-Bigcover3-1024x536

QUESTION: เนื้อหาที่ออกสอบ BMAT ยากมากไหมและออกสอบเกี่ยวกับอะไรบ้าง

Answer: BMAT มีทั้งหมด 3 Parts ด้วยกัน ได้แก่

BMAT Part 1 : Aptitude and Skills

  • BMAT Part 1 คือพาร์ทที่น้องๆบอกว่ายากกัน แต่น้องไม่ต้องหวังให้ได้คะแนนเต็มก็ได้ พาร์ทนี้มี 35 ข้อ หากน้องได้แค่ 22 ข้อก็สามารถได้ถึง 6 คะแนนแล้ว
  • ข้อสอบ 10 ข้อแรกของ Part 1 เป็นข้อที่สามารถเก็บคะแนนได้ แต่น้องๆต้องอ่านโจทย์อย่างละเอียด เพราะบางทีข้อสอบง่ายแต่โจทย์ยาว
  • เมื่อน้องเจอข้อสอบที่เราไม่มั่นใจ ให้ข้ามไปทำข้อที่ทำได้แน่นอนเลย และหากเวลาเหลือค่อยกลับมาทำข้อที่เราทำไม่ได้

BMAT Part 2 : Scientific Knowledge and Applications

  • ปีนี้ BMAT Part 2 มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มหัวข้อที่สอบขึ้นมา อาทิ หัวข้อเวกเตอร์ ซึ่งเป็นหัวข้อสอบที่ไม่ยากเพราะเป็นหัวข้อที่โรงเรียนไทยสอนเยอะ
  • Physics เพิ่มหัวข้อแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นบทใหญ่มาก อยากให้น้องๆเตรียมตัวให้ดี
  • Chemistry เพิ่มหัวข้อ Water cycle และ Selective breeding

BMAT Part 3 : Writing

 เลือก Statement ที่จะทำ และอธิบายตามขั้นตอน ดังนี้

  • อธิบาย Statement ที่เราเลือกมา ประมาณ 2-3 ประโยค
  • เขียนอีกมุมนึงที่ย้อนแย้งกับ Statement ของเรา ประมาณ 4-5 ประโยค
  • แสดงจุดยืนและให้เหตุผลที่เห็นด้วยกับ Statement ประมาณ 4-5 ประโยค
  • ถ้าน้องๆตอบได้คะแนนอยู่ที่ 3-4 คะแนนก็สามารถนำไปยื่นแทบทุกคณะในไทย

     

QUESTION: เกณฑ์คะแนนของคณะแพทย์ที่ใช้ BMAT ยื่นเป็นอย่างไรบ้าง

Answer: คะแนน BMAT เฉลี่ยของจุฬาจะอยู่ที่ 16 คะแนนซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง แต่คะแนนของที่อื่น เช่น รามา ขอนแก่น จุฬาภรณ์ มช.และมศว.จะมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 14 คะแนน ซึ่งน้องๆสามารถทำได้แน่นอน

 

QUESTION: BMAT สามารถยื่นที่อื่นนอกจากแพทย์ได้อีกไหม 

Answer: น้องๆสามารถใช้คะแนน BMAT ยื่นคณะทันตะ ของมธ.และคณะเภสัชศาสตร์ โครงการร่วมมศว นอตติงแฮม

 

QUESTION: ต้องเก่งภาษาอังกฤษขนาดไหน ถึงสามารถสอบ BMAT ได้

Answer: 

  • ถ้าน้องจะเข้ามหาวิทยาลัยที่มีการแข่งขันสูง อย่างเช่น จุฬา น้องต้องได้ IELTS 7.0 แต่ก็มีอีกหลายมหาวิทยาลัยที่ให้ใช้ IELTS แค่ 6.5 หรือมข. ที่เอาคะแนนเพียง 5.0 ซึ่งคนไม่เก่งอังกฤษมากก็สามารถทำได้ แค่ขยันและฝึกให้ถูกวิธี
  • ข้อสอบ BMAT น้องๆไม่จำเป็นต้องเก่งอังกฤษก็สามารถทำข้อสอบได้ เช่น Part วิทยาศาสตร์ ที่โจทย์จะเป็นคำศัพท์ที่น้องคุ้นเคยจากบทเรียนในโรงเรียนอยู่แล้วแต่ Part 1 ที่ต้องมีการอ่าน คิดวิเคราะห์ น้องๆต้องใช้ทักษะการอ่านพอสมควร หรือ Part Writing ที่ต้องใช้ทักษะในการเขียนในการเรียบเรียงประโยคภาษาอังกฤษ

 

QUESTION: ถ้าเพิ่งเริ่มต้นควรเริ่มเตรียมตัว BMAT หรือ IELTS ก่อน 

Answer: พี่ๆแนะนำว่าน้องควรเริ่ม IELTS ก่อน เพราะ  IELTS Writing ช่วยให้ปูพื้นฐานการเขียน BMAT Writing  ได้เยอะ เราจะรู้ว่าควรใช้ภาษาอย่างไรในการเขียน และโจทย์ IELTS จะคล้ายกับ BMAT Part 2 ซึ่งจะช่วยเพิ่มทักษะการเขียนให้เราได้ อีกทั้งยังช่วยให้พวกเราได้ไอเดียในการเขียนเพื่อเก็บคะแนนใน Part  Content

 

QUESTION: มีเคล็ดลับหรือเทคนิคอะไรในการเตรียมตัวสอบ BMAT ไหม

Answer: พี่อยากให้น้องๆทุกคนไปฝึกทำโจทย์ TSA Past paper เพราะตัวข้อสอบค่อนข้างคล้ายกับโจทย์ BMAT และถ้าใกล้วันสอบจริงแล้ว อยากแนะนำให้น้องๆนำข้อสอบเก่า BMAT 2 ปีล่าสุดมาฝึกทำก่อนสอบ ถือเป็นการลับคมอาวุธก่อนออกไปสนามสอบจริงนั้นเองครับ

พิเศษ!! พบกับบทความรีวิวและเทคนิคพิชิตข้อสอบ BMAT จากคุณครูพี่ภัทร พี่กั๊ก พี่เกรท และพี่ก๊อฟ คุณครูจาก ignite by OnDemand ที่จะมาเผยทุกเคล็ดลับให้น้องๆมั่นใจในการสอบ BMAT อีกมากมายที่นี่ คลิกเลย >> https://www.ignitebyondemand.com/category/bmat/

Shop online

Related Blog & News

ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

Comments

Comment Write a comment...