เจาะลึก 2 วิชายาก IGCSE Chemistry & Biology กับครูเกมและครูเวิลด์

นับถอยหลังอีกเพียง 4 เดือนสู่การสอบ IGCSE รอบตุลาคมสำหรับน้องๆ ระบบการศึกษานานาชาติ การสอบครั้งนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญเลยทีเดียว เพราะน้องๆ ต้องนำคะแนนเหล่านี้ไปใช้ศึกษาต่อวิชาที่ต้องการในระดับ A-Level และอาจต้องใช้ยื่นควบคู่กันในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในอนาคตอีกด้วย
วันนี้พี่ๆ Ignite เลยจะพาน้องๆ มาเจาะลึก 2 วิชายาก IGCSE Chemistry & Biology กับครูพี่เกมและครูพี่เวิลด์ ผู้ที่มีประสบการณ์แน่นในการสอนน้องๆ หลักสูตรอินเตอร์ เพื่อที่จะได้รีบเตรียมตัวคว้าคะแนน A* กันถ้วนหน้า เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า!
เจาะลึกข้อสอบ IGCSE Chemistry จุดไหนยากสุด?
ครูพี่เกมต้องขออธิบายก่อนว่า ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงความยากของ IGCSE Chemistry นั้น น้องๆ อาจจะต้องดูก่อนว่าข้อสอบที่น้องๆ จะเจอนั้นมาจากบอร์ดไหน CIE (Cambridge) หรือ Pearson Edexcel ถึงเเม้ว่าทั้ง 2 บอร์ดนี้จะเป็นระบบการศึกษาหลักสูตร IGCSE เหมือนกัน แต่รูปแบบของข้อสอบจะไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นครูพี่เกมจะชวนน้องๆ มาเริ่มดูตัวข้อสอบกันทีละบอร์ดเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น

CIE Cambridge: IGCSE Chemistry
สำหรับตัวข้อสอบ IGCSE Chemistry ของ CIE Cambridge นั้น จะมีเนื้อหาบทเรียนทั้งหมด 14 บท และตัวข้อสอบจะถูกแบ่งออกเป็น 6 Paper ดังนี้
- Paper 1 Multiple Choices (Core)
- Paper 2 Multiple Choices (Extended)
- Paper 3 Theory: Short Answer & Structured Question (Core)
- Paper 4 Theory: Short Answer & Structured Question (Extended)
- Paper 5 Practical Test
- Paper 6 Alternative to Practical Test
โดยจะสังเกตเห็นได้ว่าข้อสอบของ CIE นั้นถูกแบ่งเป็นแบบ Core หรือเนื้อหาหลักๆ ของบทนั้น และ Extended ซึ่งเป็นเนื้อหาเชิงลึกและขั้นสูง ความยากของข้อสอบ CIE Cambridge นั้นจึงจะอยู่ที่ Paper 2, 4 และ 6 ซึ่งเป็น Extended Paper
ตัว Paper 2 นั้นครูพี่เกมขอบอกว่ายาก แต่ถ้าน้องๆ เตรียมตัวมาดีก็ทำได้แน่นอน เนื่องจาก Paper 2 นั้นจะเป็นเนื้อหาที่มีการเสริมจากเนื้อหาหลัก (Core) ดังนั้นจะมีการใช้สูตร คำนวณ ที่ซับซ้อนมากขึ้น การรู้ Element Symbol เพียงอย่างเดียวจะไม่พอ น้องๆ ต้องประยุกต์ใช้สูตรและสมการต่างๆ ให้เป็น แต่ยังไงก็ตามพาร์ทที่เป็นแบบ Multiple Choices นั้นยังจัดว่าไม่น่ากังวลมาก
ที่นี้ครูเกมขอข้ามไปที่ Paper 6 ซึ่งยากขึ้นไปอีกลำดับ ตัวข้อสอบชุดที่ 6 นี้ จะเป็น Alternative to Practical Test ซึ่งอธิบายง่ายๆ ก็คือน้องๆ จะต้องตอบคำถามเกี่ยวกับการทดลอง (ไม่ได้มีการทดลองจริง) โดยปกติจะมี 4 คำถามใหญ่คือ
- คำถามเกี่ยวกับการทดลองที่น้องๆ เคยทำ ซึ่งในที่นี้น้องๆ ต้องรู้ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ในการทำการทดลอง Safety Measurement รวมถึงสารต่างๆ ที่นำไปใช้
- โจทย์จะให้ Process ของการทดลองมา โดยน้องๆ ต้องตอบคำถามเช่น ขั้นตอนการทดลอง การอ่านค่าปฎิกิริยาต่างๆ
- ในพาร์ทนี้ข้อสอบมักจะให้ Test และ Observation มา และให้น้องๆ ตอบรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เช่น สารประกอบที่นำมาทดลองคืออะไร หรือผลที่ได้ควรเป็นแบบไหน
- การออกแบบการทดลองจากโจทย์ โดยเขียนคำตอบแบบยาว
โดยพาร์ทคำถามส่วนที่ 1 นั้นน้องๆ สามารถที่จะทบทวนทำความเข้าใจได้ไม่อยาก แต่พาร์ทที่อาจต้องเตรียมรับมือเลยหลักๆ จะเป็นข้อ 3 และ 4 ซึ่งต้องใช้การคิดวิเคราะห์และการประยุกต์ความรู้ค่อนข้างเยอะ
Technical Terms ต้องแน่น รู้จัก Mark Scheme ให้ดี
สำหรับ Paper 4 นั้นครูพี่เกมขอจัดอันดับให้เป็นพาร์ทที่ยากที่สุด เนื่องจากคำถามจะไม่ได้เป็นตัวเลือกเหมือน Paper 2 แต่จะเป็นการตอบคำถามสั้นๆ ดังนั้นน้องๆ ต้องรู้คำตอบจริงๆ เพราะไม่มีช้อยส์มานำทางแล้ว และหากต้องการคะแนนที่ดี ไม่ใช่ว่าต้องเขียนอธิบายให้ยาวที่สุด แต่ต้องเขียนคำตอบให้ถูกจุด หรือรู้จัก “Mark Scheme” นั่นเอง
โดยตัว Mark Scheme นี้จะเป็นไกด์ไลน์ที่คอยบอกเราว่า คำถามแบบนี้ คำตอบควรเป็นแบบไหน มี Keyword อะไรที่ควรใส่ลงไปบ้าง และ Structure ในการอธิบายคำตอบเป็นประมาณไหน
ซึ่งหากน้องๆ ฝึกฝนทำโจทย์เก่า หรือ Past Paper บ่อยๆ เฉลยก็มักจะมากับตัว Mark Scheme ซึ่งจะคอยบอกแนวทางคำตอบว่าควรจะเป็นประมาณไหนและทำให้น้องได้คะแนนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการรู้จัก Keyword ให้เยอะมากที่สุดอาจจะไม่ใช่คำตอบในการสอบให้ได้คะแนนดีอย่างเดียว น้องๆ ต้องรู้ความแตกต่างของ Keyword เหล่านั้นด้วย
ครูพี่เกมขอยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ในข้อสอบน้องๆ อาจจะเจอภาพของกระบวนการหนึ่งที่เปลี่ยนสสารจากของเหลวเป็นของแข็ง ซึ่ง Technical Term สามารถใช้ได้หลายคำมาก ไม่ว่าจะเป็น Freezing หรือ Crystallization แต่หากในภาพนั้นมีการตกผลึก คำตอบที่ถูกต้องที่สุดก็คือ Crystallization
Pearson Edexcel: IGCSE Chemistry
หากมาดูกันที่ตัวข้อสอบของ Edexcel ครูเกมบอกเลยว่าไม่สามารถเจาะจงได้ว่าพาร์ทไหนจะยากหรือง่ายที่สุด เนื่องจากข้อสอบจะไม่ได้แบ่งออกตามบทเรียนอย่างชัดเจนเหมือนข้อสอบ CIE ซึ่งนั้นแหละ คือสิ่งที่ครูเกมว่าเป็นเรื่องที่ยากเพราะเดาทางไม่ได้มากนักเมื่อเทียบกับ CIE
ข้อสอบของ Edexcel นั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 Papers โดยในแต่ละเปเปอร์จะมีการคละบทเรียน แต่บทเรียนจะไม่ซ้ำกันระหว่างสองเปเปอร์ พูดง่ายๆคือ เปเปอร์แรกอาจจะมีบท 1,3,4,7 ส่วน เปเปอร์สองมีบท 2,5,6,8 ซึ่งเราจะไม่สามารถเดาได้แน่ๆ ว่าบทไหนจะไปตกอยู่ที่เปเปอร์ไหน
นอกจากการเน้นทฤษฎี ตัวข้อสอบยังเน้นลงลึกด้านการคำนวณอีกด้วย ทำให้เด็กๆ ต้องรู้เรื่อง Calculation และเนื้อหาแน่นตั้งแต่เรื่อง Atomic Structure ไปยันเรื่อง Experiments

สอบ IGCSE Chemistry เตรียมรับมือยังไงดี?
- เตรียมพร้อม Mark Scheme รู้จัก Technical Term ให้เยอะ แบ่งหมวดหมู่ให้เป็น
เนื่องจากตัวคีย์เวิร์ดพวกนี้เป็นจุดสำคัญในการได้คะแนน น้องๆ ควรรู้จักคีย์เวิร์ดให้ครอบคลุม สำหรับทุกบทเรียน นอกจากนี้ต้องแยกความแตกต่างของเเต่ละคำเป็นเพื่อนำไปใช้ให้ตอบรับโจทย์ได้ดีที่สุด โดยปกติแล้วครูพี่เกมจะจับ Main Idea ของแต่ละบทพร้อมตัวคีย์เวิร์ดเพื่อสอนน้องๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะตัวที่ใช้ตอบในข้อสอบบ่อยๆ ประเภทที่ว่าออกข้อสอบกี่ครั้งก็จะมีคำพวกนี้ แต่น้องบางคนก็อาจจะหาวิธีจำที่เหมาะกับตัวเองขึ้นไปอีกเช่น การทำการ์ดจับกลุ่มคำในหมวดเดียวกัน แล้วก็นำมาเล่นทบทวนเวลาว่าง หรือบ้างที่ครูพี่เกมก็ทำคีย์เวิร์ดมาแต่งเป็นกลอนตลกๆให้น้องจำได้ง่ายขึ้นก็มี - รู้จัก Element Symbol ให้ดี
ส่วนใหญ่ข้อสอบ IGCSE Chemistry นั้นมักจะแถมตัว Formula มาให้น้องๆ ประยุกต์ใช้หาคำตอบกันอยู่แล้ว แต่ทางที่ดีน้องๆต้องจำตัว Element Symbol เองให้ดี เช่น ธาตุตัวไหนใช้สัญลักษณ์อะไร และนำไปคำนวณให้ถูก จะได้ไม่พลาด Perfect Score ไป - ทำ Past Paper ตีโจทย์ให้แม่น
ข้อยากในการสอบ Intergrated Paper แบบ Edexcel นั้นก็คือบางทีน้องๆไม่รู้ว่าคำถามนี้มาจากบทเรียนไหน ไม่รู้ว่าตอบไปนี่จะถูกไหม ดังนั้นการทำโจทย์เก่าบ่อยๆก็จะช่วยได้ เมื่อเข้าห้องสอบจริง น้องๆจะได้เคยผ่านตามาแล้วว่า ถ้าคำถามประมาณนี้ น่าจะมาจากบทเรียนนี้นะ และวิธีการทำจะเป็นประมาณไหน
ข้อสอบ IGCSE Biology พาร์ทไหนโหดสุด?
คราวนี้ถึงตาครูพี่เวิลด์แล้ว สำหรับวิชา IGCSE Biology วิชานี้สามารถบอกได้เลยว่าถึงแม้จะมีดีกรีว่ายาก แต่หากน้องๆ ตั้งใจเรียนและทบทวนมาดีก็มีสิทธิ์คว้า A* มาได้แน่นอน โดยตัว Biology นี้ครูเวิลด์ขอเลือกเจาะลึกเป็นข้อสอบของ CIE Cambridge หนึ่งในบอร์ดฮ็อตฮิตคนเหล่าโรงเรียนอินเตอร์กันก่อน
CIE Cambridge: IGCSE Biology
สำหรับน้องๆ ที่เลือกสอบ Core จะต้องลงมือทำข้อสอบทั้งหมดสามชุดนั่นก็คือ Paper 1,3 และ 5
- Paper 1 Multiple Choices (Core)
- Paper 3 Short Answer (Core)
- Paper 5 Practical Test (Core)
ส่วน Extended Candidates ต้องทำข้อสอบ 3 ชุด คือ
- Paper 2 Multiple Choices (Extended)
- Paper 4 Theory: Short Answer (Extended)
- Paper 5 Alternative to Practical Test (Extended)

ซึ่งตรงนี่เนี่ย ครูเวิลด์ขอบอกไว้ว่าจากประสบการณ์การสอน ส่วนใหญ่แล้ว Paper 2 และ 4 มักจะเป็นจุดที่ยากที่สุดสำหรับนักเรียน นอกจากนี้ Paper 2 จะมีคะแนน 30% และ Paper 4 มีคะแนน 50% ซึ่งถือว่าเป็นสองเปเปอร์ที่มีเปอร์เซนต์สำคัญมากทีเดียวในการวัดคะแนนสอบรวม
ในส่วนของ Paper 2 จะเป็นคำตอบแบบตัวเลือกซึ่งมีทั้งหมด 40 ข้อ ซึ่งตรงนี้ถึงแม้ว่าน้องๆ จะมีไกด์ไลน์จากตัวเลือกมาให้แล้ว แต่บางครั้งหลายๆ คนก็ตอบผิดเนื่องจากความ Tricky ของคำถาม เช่นบางครั้งโจทย์อาจจะให้รูปภาพของ Cell Structure มาและถามบริเวณกรอบเซลล์นั้นเรียกว่าอะไร น้องๆ หลายคนอาจจะเลือกตอบ Cell Wall แต่คำตอบที่ถูกจริงๆนั้นคือ Cell Membrane เนื่องจากรูปภาพที่ให้มานั้นเป็นเซลล์ของสัตว์ (Cell Wall พบในเซลล์พืชเท่านั้น)
สำหรับตัว Paper 4 นั้นนอกจากน้องๆ จะต้องรู้ Technical Term แล้ว ก็ต้องรู้ Main Idea ของแต่ละบทเรียนเนื่องจากตัว IGCSE Biology นั้นจะไม่ได้มีการคำนวณออกสอบลงลึกเหมือนวิชาอื่นๆ แต่จะเน้นในตัวของ Theory มากกว่า ซึ่งตัวเนื้อหานั้นมีถึง 21 บทเลยทีเดียว ดังนั้นน้องๆ ต้องสรุปเนื้อหาและเข้าใจใจความหลักให้เป๊ะ

จะสอบ IGCSE Biology เตรียมตัวอย่างไรดี?
- ปูพื้นฐานให้ดี ส่วนไหนที่ยังไม่ได้เรียนเร่งนำมาทบทวนก่อน
หากใกล้ถึงเวลาสอบแล้ว ครูพี่เวิลด์ขอแนะนำว่า เนื้อหาส่วนไหนที่น้องๆ ตั้งใจเรียนและมีพื้นฐานมาบ้างแล้วอาจจะเก็บเอาไว้ก่อน รีบนำส่วนที่เรายังไม่ได้เรียน หรือพื้นฐานไม่แน่นมาทบทวนก่อนจะดีกว่า เนื่องจากการเข้าใจ main idea ของแต่ละบทเป็นเรื่องสำคัญมากใน Biology - ทำ Past Paper ให้เยอะจะได้คุ้นกับข้อสอบ
ครูพี่เวิลด์ขอบอกก่อนว่า ในการสอบ IGCSE Biology นั้น ส่วนใหญ่แล้วจะมีประเด็นสำคัญของแต่ละบท ที่ไม่ว่ากี่ครั้งๆก็จะมีเรื่องแนวนี้ออกในข้อสอบ เช่น การให้น้องๆอธิบายทฤษฎี Natural Selection แต่ก็มีบางพาร์ทที่ไม่ได้เจอบ่อยนักและไม่ใช่จุดโฟกัสหลักตอนทบทวน ดังนั้น น้องๆควรทำโจทย์เก่าให้มากเพื่อที่จะได้คุ้นชินเวลาเจอของจริง - รีวิว Feedback ทุกครั้งหลังลองทำโจทย์
หลังจากการฝึกลองทำโจทย์ทุกครั้งควรนำมารีวิวอีกรอบเพื่อดู feedback โดยประสบการณ์ที่ผ่านมาครูพี่เวิลด์เห็นว่าน้องๆหลายคนสามารถตอบคำถามได้ถูก แต่ไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ซึ่งนี่ก็เป็นจุดนึงที่อาจทำให้พลาดคะแนนไป ดังนั้นหลังฝึกโจทย์เสร็จหากสามารถนำมาให้คุณครูรีวิวจะช่วยน้องๆได้เยอะ โดยเฉพาะในเรื่องของ Structure คำตอบ ต้องตอบอย่างไรให้เป็นขั้นเป็นตอนและอธิบายตรงจุด

ถึงแม้ว่าการสอบ IGCSE นั้นจะใกล้เข้ามาถึงแล้วในอีกไม่กี่เดือน แต่ครูพี่เกมและครูพี่เวิลด์ก็ขอย้ำว่า หากน้องๆ เริ่มติวตอนนี้ยังไงก็ทันแน่นอน ถ้าตั้งใจและจัดเวลาการทบทวนให้ดี โดยหากน้องๆ มีพื้นฐานจากห้องเรียนในโรงเรียนแล้วก็อาจจะเน้นไปที่การฝึกทำโจทย์รับมือการสอบจริงมากขึ้น
หากน้องๆ คนไหนต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการคว้าคะแนนที่ต้องการ ทาง ignite มีคุณครูและทีมงาน ที่มีประสบการณ์ในการสอนและติวสอบหลักสูตร IGCSE หลากหลายกลุ่มวิชา คุณครูจะช่วยสรุปเนื้อหา ตะลุยโจทย์ รวมถึงเน้นส่วนของ Mark Scheme ปรับตามพื้นฐานรายบุคคลและบอร์ดที่น้องสอบ และยังให้คำแนะนำในด้านการเรียนอีกด้วย
สามารถทักเข้ามาสมัครเรียนและปรึกษาวางแผนการเตรียมตัวสอบได้ทาง Line @igniteinter หรือคลิก https://bit.ly/3qOtyCB เข้ามาได้เลยครับ พี่ๆ พร้อมให้ข้อมูล เพื่อให้น้องๆ คว้า A* ให้ได้อย่างแน่นอน
ดูรายละเอียดคอร์สเรียน ignite A* เพิ่มเติมได้ทาง >> https://www.igniteastar.com/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, SAT Reading and Writing, SAT
แชร์เทคนิคพิชิตข้อสอบ SAT Reading and Writing ประเภท Vocabulary in Context
สวัสดีครับน้องๆ ทุกคน เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย เตรียมตัวในการสอบ SAT ไปถึงไหนกันแล้วบ้างครับ หลายๆ คนคงเริ่มเรียนและฝึกฝนทำโจทย์ SAT กันอยู่เพื่อพิชิตคณะในฝัน วันนี้พี่แพททริคจึงขอมาให้กำลังใจพร้อมทั้งแชร์เทคนิคพิชิต ข้อสอบ SAT Reading and Writing กันครับ น้องๆ รู้มั้ยเอ่ยว่าข้อสอบประเภท Vocabulary in Context เนี่ย ก็เป็นข้อสอบอีกประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญมากๆ และสามารถช่วยเราเพิ่มคะแนนสอบได้ เพราะว่ามีข้อสอบประเภทนี้ถึง 8-9 ข้อต่อชุด (อ้างอิงจาก Official SAT Practice Tests ชุดที่ 8-9 โดย College Board) นับว่าเกือบจะเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนข้อสอบทั้งหมดเลยทีเดียว (ข้อสอบพาร์ท Reading มีทั้งหมด 52 ข้อ) ดังนั้น หากน้องๆ สามารถเก็บคะแนนในส่วนนี้ได้ทั้งหมด โอกาสในการพิชิต Perfect Score ก็จะเพิ่มขึ้นด้วยครับ หลังจากรู้ถึงความสำคัญที่จะต้องพิชิตข้อสอบ Vocabulary […]
Comments (0)
-
Blog, GED
รวมคำถามยอดฮิต GED อยากสอบติดม.ดังต้องได้คะแนนเท่าไหร่ถึง SAFE!
สวัสดีค่าน้องๆ ตั้งแต่ ignite เริ่มให้คำแนะนำเรื่องการวางแผน เตรียมตัวสอบ GED ก็มีน้องๆ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบข้อสอบตัวนี้หลายอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็น GED ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยไหน คณะไหนได้บ้าง? แล้วต้องมีคะแนน GED เท่าไรถึงจะ SAFE? วันนี้พี่หมิงเลยรวบรวมคำถามที่โดนถามบ่อยๆ พร้อมมาให้คำแนะนำดีๆ อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้น้องๆ เตรียมตัวสำหรับการสอบ GED ได้อย่างไม่พลาดเป้า แถมยังได้ Perfect score ด้วยนะคะ ไปดูกันเลยค่า! 1. อยากเข้าอินเตอร์ ม.ดัง คะแนน GED เท่าไหร่ถึง SAFE! คณะส่วนใหญ่ของกลุ่ม มหาวิทยาลัย จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์อินเตอร์ จะตั้งเกณฑ์รับนักเรียน GED ตามเกณฑ์ที่ ทปอ. กำหนด นั่นก็คือ คะแนนรวม […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT, SAT Subject Tests
บทสัมภาษณ์ “ISE อันดับ 1 ปี 64” น้องวิน กรุงเทพคริสเตียน
สวัสดีครับวันนี้พี่แอดมินพา ignite idol ดีกรี “อันดับ 1 ISE CU ปีล่าสุด” อย่างน้องวินจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน มาแนะนำเคล็ดลับการเตรียมตัวสอบเข้าคณะวิศวะอินเตอร์ยอดฮิต ให้น้องๆ ว่าที่วิศวะทุกคนได้มีแนวทางการเตรียมตัวในการสอบเข้านะครับ พี่วินพร้อมมาเจอน้องๆแล้ว…พร้อมแล้วไปกันเลย Timeline เตรียมตัวสอบเข้า ISE CU จากน้องวิน อันดับ 1 ปีล่าสุด พี่เริ่มเตรียมตัวสอบเข้า ISE CU ตอนม.5 ครับ ถือว่าเป็นการเตรียมตัวที่ไม่ช้าไป ไม่เร็วไป แต่ในกรณีของพี่จะต้องเจอกิจกรรมของโรงเรียนที่เราได้ไปมีบทบาทสำคัญอย่างตอนม.5 ที่เป็นฝ่ายเขียนโค้ด แปรอักษรงานจตุรมิตรสามัคคี และม.6 ที่จัดงานวันเกิดให้กับทางโรงเรียน…กิจกรรมเหล่านี้ค่อนข้างกินเวลาชีวิตเราพอสมควร ทำให้พี่ต้องวางแผนจัดการเวลาในการเตรียมตัวสอบเข้า ISE CU ให้รอบคลอบมากที่สุด เริ่มจากม.5 พี่ได้สมัครคอร์ส Engineer pack ของ ignite ครับ ซึ่งเป็นคอร์สแพ็คสำหรับคนที่อยากสอบเข้าคณะวิศวะโดยเฉพาะ ตอนนั้นพี่สมัครสอบครั้งแรกในรอบ Nov โดยได้คะแนนสอบ SAT Subject tests ดังนี้ครับ วิชา Chemistry […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT, SAT Subject Tests
คณะวิศวะ SIIT คืออะไร? เรียนอะไรบ้าง? อยากสอบติดต้องทำอย่างไร?
สวัสดีว่าที่น้องๆ วิศวะทุกคนนะครับ พี่แอดมินขอพามาทำความรู้จักกับคณะวิศวะอินเตอร์ “SIIT” หลักสูตรยอดฮิตที่เชื่อว่าน้องๆ ต้องเคยได้ยินชื่อมาแล้วแน่นอน เรียกว่าเป็นคณะที่เด็กมัธยมปลายหลายๆ คนใฝ่ฝันที่จะเข้าเรียนกันเลยทีเดียว แต่แค่เคยได้ยินชื่ออย่างเดียวคงไม่พอ วันนี้พี่แอดมินจะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับคณะวิศวะอินเตอร์ SIIT คืออะไร? เรียนอะไรบ้าง? อยากสอบติดต้องทำอย่างไร? ให้พวกเราไม่พลาดทุกประเด็นเกี่ยวกับคณะนี้เลยนะครับ ถ้าพร้อมแล้วไปทำความรู้จักวิศวะ SIIT พร้อมกันเลยจ้า วิศวะ SIIT คืออะไร? เรียนอะไร? SIIT (Sirindhorn International Institute of Technology) หรือ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือ คณะวิศวะอินเตอร์ที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติ โดยมีทั้งหมด 9 สาขาวิชา ซึ่งเป็นหลักสูตรด้านวิศวกรรมศาสตร์ 7 สาขาและหลักสูตรการจัดการ 2 สาขา ทั้งนี้ SIIT จะเน้นการเรียนการสอนกับอาจารย์ที่มีคุณภาพ ด้วยความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในห้องแล็บที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ครบครัน ซึ่งการเรียนการสอนของ SIIT จะเป็นภาษาอังกฤษทั้งเนื้อหาการเรียน แบบฝึกหัด การพรีเซนต์ต่างๆ และยังได้เรียนร่วมกับนักเรียนแลกเปลี่ยนหลากหลายเชื้อชาติอีกด้วย SIIT เป็นคณะที่มีทุนการศึกษาในแต่ละปีกว่า 200 […]
Comments (0)
Comments