GED Math & Science สองวิชาสำคัญ ช่วยอัพ Total Score

GED Math&Science - สองวิชาสำคัญ ช่วยอัพ Total Score - Thumbnail

         สวัสดีค่ะน้องๆ กลับมาพบกับพี่หมิง Ignite อีกครั้ง วันนี้พี่หมิงก็มีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับ GED มาฝากอีกเช่นเคยค่ะ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากใช้คะแนน GED เทียบวุฒิเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยก็คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าหลายๆ คณะมักจะกำหนดคะแนนรวม (Total Score) ขั้นต่ำที่น้องๆ ต้องทำได้ถึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัครเข้าคณะนั้นๆ เช่น CU-TU กำหนดคะแนน GED ขั้นต่ำที่ 660 คะแนน, MUIC กำหนดที่ 600 คะแนน เป็นต้น ดังนั้น นอกจากน้องๆ จะโฟกัสที่การสอบรายวิชาแล้ว อีกเรื่องที่ต้องคำนึงคือคะแนนรวม และสองวิชาที่ครูหมิงขอบอกเลยว่าเป็นตัวช่วยดึงคะแนนรวมที่ดีมากๆ ให้กับน้องๆ ก็คือ GED Mathematical Reasoning และ GED Science ค่ะ ก่อนอื่นเรามาเจาะลึกดูรายละเอียดของแต่ละวิชากันก่อนนะคะ

GED Mathematical Reasoning

GED Mathematical Reasoning - Bigcover2

ข้อมูลที่ต้องรู้ GED Mathematical Reasoning

1.ข้อสอบมี 2 Parts (46 Questions)

  • Part 1: มีทั้งหมด 5 ข้อ (ห้ามใช้เครื่องคิดเลข)
  • Part 2: มีทั้งหมด 41 ข้อ (อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลขได้)

2.ให้เวลาทั้งหมด 115 นาที

3.หัวข้อที่ออกสอบ ได้แก่

  • Basic Math – เรื่องของ
  • Measurement and Geometry
  • Basic Algebra
  • Graphs and Functions
  • Data Analysis, Statistics and Probability

GED Science

GED Science - Bigcover3

ข้อมูลที่ต้องรู้ GED Science

1.ข้อสอบมี 1 Part รวม 38 Questions (อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลขได้)

2.ให้เวลาทั้งหมด 90 นาที

3.หัวข้อที่ออกสอบ ได้แก่

  • Earth and Space Science 20%
  • Physical Science 40%
  • Life Science 40%
วิธีพิชิต High Score - GED Math&Science - Bigcover4

         แล้วทีนี้มาถึงคำถามที่น้องๆ สอบถามมาบ่อยมากเลย นั่นก็คือ อยากได้คะแนน GED Math และ Science สูงๆ ต้องทำยังไง? จากที่ครูหมิงได้รวบรวมข้อมูลมาจากเพื่อนๆ ที่เคยไปสอบ รวมทั้งขอคำแนะนำจากทีมครู Ignite ที่เชี่ยวชาญในการติวสอบ GED มา ขอสรุปมาเป็นคำแนะนำดังนี้ค่ะ

 

  1. อย่างแรกที่น้องๆ ต้องทำคือการทำความเข้าใจ Basic Knowledge ของทั้ง Math และ Science รวมท้องจดจำคำศัพท์วิชาการค่ะ เนื่องจากตัวข้อสอบของสองวิชานี้จะไม่ออกลึกมากแต่จะเน้นไปที่การวัดความเข้าใจของน้องๆ ดังนั้น การทำความเข้าใจและคิดเชื่อมโยงเนื้อหาของแต่ละบทเรียนจึงสำคัญที่สุด ซึ่งจะช่วยให้เรามีข้อมูลในหัวเพียงพอและเป็นพื้นฐานต่อยอดในการทำข้อสอบค่ะ

  2. ฝึกโจทย์สไตล์ GED สิ่งนึงที่การสอบ GED แตกต่างจากการสอบทั่วๆ ไป อีกอย่างคือรูปแบบของข้อสอบที่มีความหลากหลาย ไม่ได้มีเพียงการเขียนตอบหรือ Multiple choices เท่านั้น แต่ยังมีทั้ง drag-and-drop, fill in the blank, select an area และ drop-down ซึ่งบอกเลยว่าถ้าน้องๆ คนไหนไม่เคยซ้อมมือหรือทำความรู้จักวิธีทำข้อสอบแนวนี้ไว้ก่อน ตอนเจอข้อสอบจริงก็อาจจะตกใจและส่งผลต่อคะแนนโดยไม่รู้ตัวได้นะคะ ดังนั้น ขอให้ฝึกทำโจทย์บ่อยๆ หรือจะมาทบทวนกับทาง Ignite ก็ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ

  3. เตรียมความพร้อมด้วย GED Ready เป็น GED Mock Exam ที่น้องๆ หลายคนไว้ใจได้ที่สุดแล้วว่าคล้ายข้อสอบจริงแถมยังบอกละเอียดด้วยว่าเราพลาดตรงไหน ควรทบทวนเรื่องใดเพิ่มเติม น้องที่เคยไปสอบมาแอบกระซิบว่ามีบางข้อของ GED Ready ไปโผล่ในข้อสอบจริงด้วย! ดังนั้นเพื่อความชัวร์ ครูหมิงขอแนะนำให้น้องๆ ที่อยากได้คะแนน GED สูงๆ ไปสอบ GED Ready จนเราได้คะแนนถึงเป้าเกิน 2-3 ครั้งขึ้นไป โอกาสได้คะแนนตามเป้าสูงแน่นอนค่ะ

 

 

         สุดท้ายนี้ครูหมิงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ ทุกคนที่ตั้งใจจะยื่นเทียบวุฒิเข้ามหาวิทยาลัยด้วย GED นะคะ หวังว่าน้องๆ จะได้คะแนนตามที่หวังและก้าวเข้าสู่นิสิตนักศึกษาในคณะที่ตัวเองตั้งใจไว้ได้ค่ะ หากมีข้อสงสัยหรืออยากวางแผนการเตรียมตัวสอบ GED ทั้งในรูปแบบติวตัวต่อตัว (1-ON-1) แบบคอร์สสด (Miniclass) และล่าสุดคอร์สเรียนออนไลน์ บนระบบ Learn Anywhere 

คอร์สเรียน GED ตามสไตล์ที่ชอบ

GED Banner - ignite by ondemand

         พร้อมติว GED ออนไลน์ ได้ทุกที่ ผ่านระบบ Anywhere พร้อมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา แนะแนว และอัพเดตข้อมูลในการเตรียมตัวสอบ GED ผ่านทาง line group >> https://bit.ly/3v2406Z

สามารถทักเข้ามาทำแบบทดสอบวัดความรู้ (Placement Test) และหากน้องๆ สนใจคอร์สเรียน GED สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สมัครเรียนได้ทาง Line คลิกได้เลยครับ

ดูรายละเอียดคอร์สเรียน GED ทั้งหมดได้ทาง >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/ged/

Shop online

Related Blog & News

ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

Comments

Comment Write a comment...