เผยวิธีเตรียมสอบ GED ยังไง ให้ได้ 660+ จากครูหมิง GED Guru

สวัสดีค่ะ พี่หมิง GED Guru จาก ignite นะคะ ช่วงนี้มีน้องๆ ถามกันมาเยอะมากว่า ทำยังไงให้ได้คะแนน GED สูงกว่า 660 คะแนน เพื่อให้มีสิทธิ์ยื่นเรียนต่อมหาวิทยาลัยชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นจุฬาฯ, มธ., MUIC และอีกหลายๆ ที่ เดี๋ยววันนี้พี่หมิงจะมาแชร์วิธีการที่พี่ใช้โค้ชน้องๆ คลาส GED ให้พวกเขาได้คะแนนตามเป้าหมาย
ก่อนอื่นพี่ขอแบ่งทักษะออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ Skillset และ Mindset
Skillset - ทักษะที่ใช้ในการเตรียมตัวสอบ GED

1. รู้กติกาการสอบ GED อย่างละเอียด
ข้อนี้สำคัญมากนะคะ พี่หมิงเจอน้องๆ หลายคนมากที่ไม่รู้ว่ากติกาของ GED (บางคนไม่รู้ว่า GED สอบได้ครั้งเดียว!) ไปสอบจริงแล้วคะแนนไม่ตามเป้า กว่าจะ rescore ได้ก็เสียเวลาไปหลายเดือนเลยค่ะ ดังนั้น น้องๆ ต้องศึกษากติกาให้ดี เบื้องต้นพี่ขอย้ำจุดสำคัญ ดังนี้
- GED เป็นข้อสอบที่สอบได้ครั้งเดียวต่อวิชา (ถ้าคะแนนออกมาแล้วไม่พอใจ จะสามารถ rescore ได้ 1 ครั้งต่อวิชาเท่านั้น และการได้รับสิทธิในการ rescore หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ GED)
- น้อง ๆ ที่อายุมากกว่า 16 ปี แต่น้อยกว่า 18 ปี ต้องส่ง GED parental consent form
- ก่อนจองสอบ GED ต้องปลดล็อคโดยทำ GED Ready ทั้ง 4 วิชา ให้ได้คะแนนวิชาละ 155 คะแนน (ถ้าน้องๆ เพิ่งมาอ่านแล้วยังสงสัยว่า GED Ready คืออะไร สามารถอ่าน blog เก่าของพี่ได้ที่ >> https://www.ignitebyondemand.com/ged-ready/)
ignite ทำ GED Insights คู่มือการเตรียมตัวสอบ GED แจกฟรี ทำมาเพื่อช่วยน้องๆ ในการเตรียมตัวจริงๆ ถ้าใครอยากทราบข้อมูลเตรียมตัว GED ละเอียดๆ เข้าไปลงทะเบียนรับได้ที่นี่เลยค่ะ >> ลงทะเบียนรับ GED Insights
2. ทักษะภาษาอังกฤษต้องดี
ดีในที่นี้คืออ่านออก เขียนได้และมีความเข้าใจ Grammar และ Vocab ในระดับหนึ่ง เพราะ GED เป็นข้อสอบที่ใช้กันทั่วโลก (รวมทั้ง USA) ดังนั้น โจทย์ข้อสอบจะไม่มาวัดระดับภาษาของน้องๆ แล้ว แต่จะเน้นวัดผลในระดับการคิดวิเคราะห์เชื่อมโยง บอกเลยว่าน้องบางคนที่มีภาษาดีเป็นทุนเดิมก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะได้เกิน 660+
ดังนั้น ประเมินตัวเองให้ดีค่ะ ถ้ามั่นใจว่าจะใช้ GED จริงๆ และยังไม่มั่นใจในภาษาอังกฤษมาก พี่แนะนำว่าควรเผื่อเวลาสำหรับเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมเข้าไปด้วย ที่ ignite เองก็มีคอร์สเรียนปูพื้นฐานภาษาอังกฤษด้วยเช่นกันในชื่อว่า English Level Up ค่ะ ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/middle-schools-ม-ต้น-ep/
3. ทำ GED READY เพื่อวางแผนจัดลำดับวิชาที่จะสอบก่อน-หลัง
GED สามารถเลือกสอบได้ทีละวิชา ดังนั้น น้องๆ จัดลำดับการสอบได้ตามถนัดเลยค่ะ แต่ก่อนวางแผน พี่ขอแนะนำให้สมัคร GED account และทำ GED Ready ทั้ง 4 วิชาก่อนเลยแล้วค่อยมาวางแผนกัน
ประโยชน์ที่น้องจะได้แน่ๆ จากการทำ GED READY มาก่อน คือ
- น้องจะรู้ความพร้อมของตัวเอง
- น้องจะรู้แนวโจทย์ GED
- พี่หมิงและพี่ๆ ทีม Consultant ที่ Ignite จะช่วยวางแผนให้น้องได้ดีขึ้นค่ะ
4. คุ้นชินกับสไตล์โจทย์ GED
อย่างที่บอกไปว่า โจทย์ GED เป็นโจทย์ที่เน้นการคิดวิเคราะห์เชื่อมโยง ซึ่งน้องจะไม่มีทางเชื่อมโยงได้ ถ้าน้องยังไม่ได้เข้าใจมันก่อน เวลาพี่สอนก็จะเน้นสร้างจุดตั้งต้นให้น้องเกิดความเข้าใจ เพื่อนำไปต่อยอดในการทำโจทย์ต่อไปค่ะ ก่อนจะวิเคราะห์ (Analyze) ได้ น้องๆ ต้อง รู้ (Know) และ เข้าใจ (Understand) ค่ะ
ถ้าใครอยากศึกษาเองดูก่อน พี่ขอแนะนำหนังสือของ Kaplan และ Mc Grawhil นะคะ ถ้าเป้าคือ 165 ขึ้นไป ทุกแบบฝึกหัดที่ทำควรทำถูก 80% ขึ้นไปจากจำนวนข้อทั้งหมด ถึงจะเป็นตัวชี้วัดได้เบื้องต้นว่าน้อง “พร้อมสอบ” ค่ะ
GED READY ก็เป็นอีกทางเลือกให้น้องคุ้นชิน ใครมีเวลาก็แนะนำให้ทำ 3-4 รอบ ทำหลายชุดเพื่อประเมิน Reliability (ความน่าเชื่อถือของคะแนนที่ได้) บางทีทำครั้งแรกได้คะแนนเยอะก็เป็นไปได้ว่าโชคดีเจอโจทย์ที่เคยทำและรู้คำตอบอยู่แล้ว ดังนั้น ยิ่งทำมากชุด ยิ่งเห็นหลายแนว ยิ่งมั่นใจค่ะ
ทักษะที่ใช้ส่วนถัดมาเป็นเรื่องของ Mindset

พี่ไม่รู้ว่าน้องๆ มีทัศนคติกับข้อสอบ GED แบบไหนมาก่อนนะคะ แต่วันนี้อยากให้ลองปรับ และมองมันด้วยวิธีคิด 2 ข้อนี้
1. 660 อย่าคิดว่าง่าย ห้ามประมาท
จริงๆ แล้ว GED ในส่วนของเนื้อหาในข้อสอบไม่ได้ยากขนาดนั้นค่ะ แต่ที่ยากเพราะน้องมีโอกาสให้ พลาดได้แค่ครั้งเดียว และคะแนนจะอยู่กับน้องไปตลอดชีวิตเลย ทางออกสำหรับคนที่มีเป้าสูงแต่สุดท้ายทำได้ไม่ถึง 660 ก็มีสองทาง คือ
- ลดเป้าไปเข้ามหาวิทยาลัยอื่นที่รับเกณฑ์คะแนนที่ต่ำกว่า
- ตั้งใจเรียนในระบบโรงเรียนเพื่อเอาวุฒิ ม.ปลายตามระบบการศึกษาปกติ
แต่ขอย้ำเหมือนเดิมค่ะ พี่ว่า ข้อสอบ GED ไม่ได้ยากขนาดนั้น ถ้าพื้นภาษาอังกฤษดี ตั้งใจเรียน ทำความเข้าใจเนื้อหาที่ออกสอบและฝึกทำโจทย์ให้มาก จะไปสู่เป้า 660 ได้ไม่ยากเลย เชื่อพี่นะ ขอให้ตั้งใจกับมัน โฟกัสกับมัน วางแผนดีๆ และอย่าประมาท
2. อย่าพึ่งทางลัด! คะแนน 165+ คือ ความสามารถ ไม่มีทางลัด
เดี๋ยวนี้มักจะมีการส่งต่อคำตอบ GED กัน น้องบางคนก็อาจจะได้มาจากเพื่อน บอกเลยค่ะว่าทางลัดแนวโจทย์พวกนี้ไม่มีประโยชน์กับการทำคะแนนมากหรอกค่ะ อย่างน้อยมันช่วยให้รู้แนว แต่นั่งท่องแต่คำตอบแล้วไปสอบ พี่รับประกันว่าไม่มีทางได้ 165+ การที่มหาวิทยาลัยปรับเกณฑ์คะแนนเป็น 165+ หรือ รวม 660 เพราะคะแนนเท่านี้เป็นคะแนนความสามารถและมหาวิทยาลัยก็อยากคัดเด็กสอบเทียบที่มีคุณภาพไปเป็นนิสิตนักศึกษาของสถาบันเขา
หลักสำคัญ คือ องค์ความรู้และความคุ้นชินกับโจทย์ ที่ฝึกฝนจนเก่งและชำนาญค่ะ
“ความสามารถต่างหากที่จะทำให้น้องได้ 165 ไม่ใช่ทางลัด”
ปล. GED READY 155 คะแนนก็ควรปลดล็อคด้วยตัวเองนะคะ เรื่องนี้ก็ไม่ควรมีทางลัด ให้ติวเตอร์ หรือใครมาปลดล็อคให้
ทั้งหมด คือ skillset และ mindset ที่พี่โฟกัสในการโค้ชน้องๆ GED ของพี่ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ นะคะ สำหรับน้องที่สนใจอยาก เตรียมตัว GED กับพี่หมิงและทีมครู GED พบกันกับ คอร์ส GED Miniclass ของ Ignite by Ondemand หรือจะเป็น คอร์สออนไลน์ ในระบบ Anywhere หลักสูตร 25 ชั่วโมงต่อวิชา เนื้อหาครบถ้วนตรงตามประเด็นที่ออกสอบใน GED
เมื่อเรียนจบ น้องๆ จะมีกรอบความเข้าใจและองค์ความรู้เพื่อไปเชื่อมโยงกับการสอบจริง พร้อม แชร์ Tactic วิธีการทำคะแนนให้ถึง 660+ เล่าแบบหมดเปลือกในห้องเรียนค่ะ
รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมลองทำ GED Ready แล้วเข้ามาวางแผนกันกับพี่ ๆ ignite กันนะคะ ^^

สามารถทักเข้ามาทำ แบบทดสอบวัดความรู้ (Placement Test) และหากน้องๆ สนใจคอร์สเรียน GED สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม วางแผนการเตรียมตัวและสมัครเรียนได้ทาง Line @ignitebyondemand
ดูรายละเอียดคอร์สเรียน GED ทั้งหมดได้ทาง >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/ged/
ช้อป! คอร์สเรียน GED ออนไลน์ ผ่าน ShopOnline ignite ด้วยตัวเองได้แล้ววันนี้! >> https://shop.ignitebyondemand.com/catalog/category/view/s/ged/id/629/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, BMAT
รีวิวสอบเข้าแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รอบ Portfolio กับโอกาสในการเป็นหมอของชาวเหนือจากน้องฟร๊อก สาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สำหรับใครที่สนใจเรียนคณะแพทย์ พี่มีข้อมูลดีๆ ของคณะแพทย์ จากอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยคุณภาพมาฝากนั่นก็คือ……คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ครับ !!! ซึ่งการสอบเข้า คณะแพทย์ มช. เนี่ย สามารถเลือกสอบเข้าได้หลายวิธีเลย แต่วันนี้พี่แอดมินขอพาน้องฟร๊อก รุ่นพี่ ignite ที่สอบติดแพทย์มช. ที่เลือกสอบเข้า ด้วยโครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ ใน TCAS รอบ1 ปีล่าสุด มารีวิวการสอบเข้าเพื่อให้น้องๆ ใช้เป็นแนวทางการเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องนะครับ…แต่ก่อนอื่นเรามาดู Requirement ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการนี้กันดีกว่าว่าต้องใช้อะไรในการยื่นบ้าง Requirements คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ คุณสมบัติของผู้สมัครและคะแนนที่ใช้ยื่น มีผลสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษ– โรงเรียนไทย TOEFL (iBT) ≥ 79 หรือ IELTS ≥ 6.5– โรงเรียนนานาชาติ TOEFL (iBT) ≥ 100 หรือ IELTS (Academic) ≥ 7 […]
Comments (0)
-
Blog
ไขข้อสงสัย ความแตกต่างระหว่างหลักสูตร A-Level, IB, AP ในระบบการศึกษาแบบนานาชาติ
ในยุคที่โรงเรียนนานาชาติในไทยพากันผุดเป็นดอกเห็ด บรรดาผู้ปกครองและน้องๆ ก็อาจจะสับสนกับระบบและหลักสูตรต่างๆ ของ โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย ทำไมคนนั้นเรียน A-Level แล้ว ระบบ IB ละคืออะไร ทำไมบางโรงเรียนถึงเลือกได้ทั้งสองแบบ ในขณะที่บางโรงเรียนมีแค่ AP แล้วต้องสอบ SAT ด้วย ?? วันนี้พี่เอมี่และพี่แทนจะมาเล่าให้ฟังคร่าวๆ เกี่ยวกับความต่างของแต่ระบบวิชาในโรงเรียนกันค่ะ โดยหลักสูตรที่ popular ที่สุดในประเทศไทยคงจะหนีไม่พ้นหลักสูตรอังกฤษ ตามด้วยหลักสูตรอเมริกัน และ หลักสูตร IB ตามลำดับ ความแตกต่างระหว่างระบบการศึกษานานาชาติ หลักสูตรอังกฤษ – หลักสูตรอเมริกัน – หลักสูตร IB พอจะเห็นภาพความแตกต่างของระบบการศึกษาต่างๆ กันแล้วใช่ไหมคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ปกครองที่กำลังเลือกโรงเรียนให้บุตรหลาน หรือน้องๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ในระบบโรงเรียนนานาชาติต่างๆ ควรจะศึกษาหลักสูตรที่เหมาะกับความถนัดและความต้องการในการเรียนต่อในอนาคตมากที่สุดค่ะ […]
Comments (0)
-
Blog, BMAT
ถอดรหัสข้อสอบ BMAT ตาม Specification 2021
สวัสดีครับว่าที่น้องหมอทุกๆ คน สำหรับปีนี้ทาง Cambridge Assessment ได้ประกาศอัพเดท BMAT Specification ปี 2021 มาแล้ว ทางทีมครู ignite ไม่รอช้า ขอมาเล่าสรุปให้น้องๆ ฟังกันครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม แอบบอกข่าวดีกับน้องๆ ก่อนครับว่าปีนี้โครงสร้างและหัวข้อที่ออกสอบใน BMAT โดยส่วนใหญ่จะคล้ายคลึงกับ BMAT Specification ปีที่แล้วเลยครับผม และไม่ต้องกังวลไปเลยครับ สำหรับในส่วนที่ต่าง ทางคุณครู ignite ก็จะอัพเดทในคอร์สเรียนของปีนี้ด้วยครับ ทำความรู้จักโครงสร้างข้อสอบ BMAT ก่อนอื่น เรามาทบทวนโครงสร้างข้อสอบ BMAT กันอีกครั้งครับ ข้อสอบ BMAT ยังคงมีทั้งหมด 3 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ 1. Thinking Skills, 2. Scientific Knowledge and Applications, และ 3. Writing Task โดยแต่ละส่วนจะประเมินผู้เข้าสอบดังนี้ Thinking […]
Comments (0)
-
Blog, EP ม.ต้น
คุณพ่อคุณแม่ห้ามพลาด! พี่โน้ตชวนดูเปิดหลักสูตร Math EP ม.ต้น เรียนเนื้อหาอะไรบ้าง?
สวัสดีคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ ทุกคนนะครับ พี่โน๊ต จาก ignite เองนะครับ ในปัจจุบันยุคนี้ พี่เชื่อว่ามีผู้ปกครองหลายๆท่าน ได้เริ่มวางแผนการเรียนของลูกตั้งแต่ระดับประถม มัธยม เพื่อให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและวางเส้นทางให้น้องๆ ไปถึงฝั่งฝัน และเชื่อว่า โครงการ EP หรือหลักสูตร English Program เป็นอีก 1 หลักสูตรที่ผู้ปกครองหลายท่านให้ความสนใจ แต่หลายๆ ท่านคงยังมีข้อสงสัยไม่น้อยว่าจริงๆ แล้ว หลักสูตรนี้มันคืออะไร? และในแต่ละวิชาต้องเรียนเนื้อหาอะไรบ้าง? วันนี้พี่โน๊ตจะมากาง syllabus วิชาคณิตศาสตร์ Math หลักสูตร EP ว่าในแต่ละระดับชั้น ม.1-ม.3 ต้องเรียนอะไรบ้าง? เพื่อช่วยตอบทุกข้อสงสัยก่อนที่ผู้ปกครองจะวางแผนการเรียนให้กับลูกๆ นะครับ ทำความรู้จักกับหลักสูตร English Program (EP) หลักสูตร EP หรือ English Program คือ หลักสูตรที่มุ่งเน้นที่จะเสริมสร้างทักษะด้านภาษาอังกฤษให้แก่นักเรียน โดยใช้หลักสูตรการเรียนการสอนและสาระการเรียนรู้ต่างๆ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ โดยนักเรียนในหลักสูตรนี้จะเรียนภาษาอังกฤษที่เข้มข้นกว่าภาคปกติ สำหรับหลักสูตร EP นอกจากจะเรียนวิชาภาษาอังกฤษมากกว่าหลักสูตรไทยปกติแล้ว ยังเรียนบางวิชาเป็นภาษาอังกฤษด้วย เช่น […]
Comments (0)
Comments