ไขข้อสงสัย เข้าหมอในไทย ต้องทำ IB full diploma หรือไม่ โดยน้องยูโร RIS ว่าที่ freshy ทันตะ จุฬาฯ
Comments (0)
การทำ IB full diploma ในโรงเรียนหลักสูตร IB นั้นอาจจะเป็นใบเบิกทางที่เปิดโอกาสมากกว่าสำหรับน้องๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองนั้นอยากเข้าคณะไหน เรียนต่อในประเทศหรือนอกประเทศ เพราะการที่หลักสูตร IB นั้นได้รับการยอมรับไปทั่วโลกด้วยความ Well-rounded ของเนื้อหาและการศึกษาทั้งด้านวิชาการและกิจกรรมอย่างเข้มข้น
ดังนั้นการทำคะแนน IB full diploma ที่มีครบทั้ง TOK, CAS และ EE ได้ดีนั้นย่อมแปลว่าน้องๆ มีโอกาสที่จะเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศได้ แต่น้องๆ ที่เรียนโรงเรียนนานาชาติที่มีหลักสูตร IB ให้เลือกหลายๆ คนอาจจะกำลังสับสนว่า ถ้าเราจะเข้าหมอในไทยนั้นเราจำเป็นที่จะต้องทำ IB full diploma หรือเปล่า หรือเราสามารถเรียนแค่บางวิชาก็พอ
วันนี้พี่แอดมินเลยรวบรวมข้อมูลและบทสัมภาษณ์ จาก น้องยูโร โรงเรียนร่วมฤดี มาเพื่อไขความกระจ่างกันครับ
โดยเรามาเริ่มกันกับวิชาส่วนมากที่ น้องๆ โรงเรียนนานาชาติต้องใช้เพื่อยื่นเข้าคณะแพทย์และทันตะ กันนะครับ
รวมวิชาที่ต้องยื่นคะแนนเข้าคณะแพทย์ในไทย สำหรับเด็กอินเตอร์
ในส่วนของน้องๆ ที่อยากรู้ Requirements แบบละเอียดของแต่ละมหาวิทยาลัย สามารถคลิกที่นี้ได้เลยครับ University Admission Requirements
ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนว่า เมื่อ SAT Subject Test ยกเลิกการสอบในปีต่อๆ ไปแล้ว น้องๆ ต้องคอยติดตามการประกาศจากแต่ละคณะอย่างใกล้ชิดเพื่อคอยดูว่าทางคณะให้ใช้วิชาอะไรในการสอบเข้าแทนนะครับ หรือคอยตามเพจ ignite ไว้ พี่แอดมินจะนำข้อมูลมาบอกให้เร็วที่สุดเลยครับหากมีอะไรเปลี่ยนแปลง
ต่อไปเราจะมาคุยกับนักเรียน ignite คนเก่งของเรา น้องยูโร จากโรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา (RIS) ถึงการเตรียมตัวยื่นคะแนนเข้ามหาวิทยาลัยกันครับ
ยูโรติดคณะไหน รอบไหนบ้างนะครับ?
ติดคณะทันตะ จุฬา รอบ Portfolio (นักเรียนที่มีความเป็นเลิศทางด้านภาษาอังกฤษ) เป็น 1 ใน 4 คนที่รับของปีนี้ครับ นอกจากนี้ยังติดโครงการ PCCMS หลักสูตรแพทยศาสตร์ของวิทยาลัยเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ที่ร่วมกับ UCL อีกด้วย แต่สุดท้ายเลือกทันตะจุฬาครับ เพราะคิดว่าน่าจะอยากเป็นหมอฟันมากกว่าครับ
แล้วตอนเรียนที่โรงเรียน เลือกวิชา IB ตัวไหนบ้างครับ? แล้วทำไมถึงไม่เลือกทำ IB full diploma?
รุ่นพี่ที่โรงเรียนแนะนำต่อๆ กันมาครับ ว่าถ้าจะเข้าหมอที่ไทย เลือกเรียนสี่ตัวนี้ก็พอ ไม่ต้องทำ IB Full diploma ก็ได้ เพราะเป็นวิชาหลักที่มีเนื้อหาเข้มข้นมากพอที่จะเอาไปใช้ต่อยอดได้ในการเรียนหมอต่อไป ที่เลือกวิชา Biology Chemistry Physics เป็น Higher level เพราะเนื้อหาเข้มข้นกว่า อีกทั้งมหาวิทยาลัยก็กำหนดว่าต้องเป็น Higher level เท่านั้นสำหรับสามวิชานี้ แต่ในส่วนของ Math เลือกเป็นแค่ Standard level เพราะ Higher เนื้อหายากมากครับ แล้วมหาวิทยาลัยไม่ได้บังคับด้วยว่าในส่วนของ Math ว่าต้องเป็น Higher level นะ เลยคิดว่าทำแค่ Standard level ก็พอ
นอกจากนี้ Requirements ของหลายมหาวิทยาลัยในไทยก็รับคะแนน IB สี่วิชานี้เหมือนกันครับ อย่างที่ยื่นเกรดไปก็ยื่นแค่ 4-5 เทอมแล้วแต่ Requirements ของแต่ละคณะครับ ซึ่งเรียนหลักสูตร IB มาผมคิดว่าแอบได้เปรียบนิดหน่อยด้วยนะ เพราะพอ convert มาเป็น GPA แบบไทยแล้วได้ค่อนข้างเยอะครับ
แต่ได้ยินมาว่า TOK, CAS, EE ก็ช่วยเราในแง่ของการได้ฝึกทำวิจัยและเตรียมพอร์ตนะ
(TOK = Theory of Knowledge, CAS = Creativity, Activity and Service, EE = Extended Essay )
ใช่ครับ จริงๆ การทำ 3 วิชานั้นเพิ่ม โดยเฉพาะ CAS จัดได้ว่าช่วยได้เยอะเลยในแง่ของการเตรียม Portfolio เพียงแต่ว่าผมมองว่าการออกมาทำกิจกรรมจิตอาสาข้างนอกนั้นสามารถกำหนดในเรื่องของเวลา มีความยืดหยุ่นมากกว่า และไม่เหนื่อย งานไม่หนักเท่ากับการทำ CAS ในโปรแกรมของ IB ของโรงเรียนเลย เพราะตัดเรื่องการต้องเขียน essay ส่งอาจารย์ พอไม่ต้องทำในส่วนนี้กับ TOK และ EE เราก็สามารถเอาเวลาที่มีไปเตรียมตัวเรียนติวในส่วนของ BMAT และ SAT Subject Tests ให้ได้คะแนนดีได้ครับ ผมเลยมองว่าถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าจะเข้าหมอที่ไทย ก็ไม่จำเป็นที่ต้องเรียน IB Full diploma และถึงจะไม่ได้ทำ IB Full diploma การเรียนที่โรงเรียนก็มีหน่วยกิตที่ต้องเก็บให้ครบอยู่ดีครับ เพื่อไม่ให้เราว่างเกินไป แต่วิชาอื่นที่เราเลือกเป็นวิชาที่โรงเรียน provide ให้เอง พวก subject ย่อยเช่น psychology หรือ art อะไรแบบนี้ครับ
แล้วถ้าจะไปต่อเมืองนอกละครับ คิดว่ายังจำเป็นอยู่ไหม?
ในกรณีที่จะไปต่อเมืองนอก คิดว่าควรจะทำ IB full diploma ครับ เพราะที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศเค้าค่อนข้างให้ความสำคัญกว่าถ้าเราทำจบโปรแกรม เพราะ IB ถือว่าได้รับการยอมรับระดับโลก แต่ถ้าที่ไทย แล้วเราเป็นเด็กโรงเรียนนานาชาติ คิดว่าไม่จำเป็นขนาดนั้นครับ มันจะหนักไป ถ้าจะเข้าไทยมีแค่พวกวิชา Triple Science Subjects และ Math ส่วนมากก็พอแล้วในการยื่น ซึ่งจริงๆ แล้วในไทยนี่ ไม่ใช่แค่คณะแพทย์นะครับที่ไม่ได้ดูผล IB full diploma เท่าที่ผมรู้มาคณะอื่นๆ ในไทยก็ดูคะแนนเป็นรายวิชาไปครับ ไม่ได้บังคับว่าต้องทำ full diploma แบบทั้งหมด
ยูโรเรียนคอร์สไหนกับ IGNITE บ้างครับ แล้วเคยเข้าร่วมกิจกรรมกับเราด้วยไหม?
เรียน Anywhere คอร์ส BMAT ครับ บางทีตารางเวลาผมอาจจะไม่ตรงกับคอร์สสด การเรียนออนไลน์ Anywhere ผมเลยมองว่าสะดวกกว่า ชอบที่เรียนที่ไหนก็ได้ด้วย ทบทวนได้เรื่อยๆ อีก นอกจากนี้ยังเคยเข้า กิจกรรม Mock Interview ของที่นี่ด้วย ชอบมากเพราะคำถามค่อนข้างตรง ช่วยในเรื่องของการเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ได้ดีเลยครับ ลดความตื่นเต้นลงตอนเข้าสัมภาษณ์จริง แนะนำให้น้องๆ ที่เรียนที่จะสอบเข้าหมอทุกคนร่วมกิจกรรมนี้เลยครับ
ยูโรเริ่มติววิชาอะไรก่อนหลังบ้างครับ
ผมเตรียมตัวติว SAT Subject Tests มาเรื่อยๆ ตั้งแต่เกรด 10 แล้วครับ แล้วค่อยมาเรียน BMAT ช่วงมีนา ตอนโควิดปี 63 แล้วก็เก็บผลงานพอร์ตมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เกรด 10 เช่นกันครับ ผมมองว่าถ้าเรารู้ตัวเร็วก็ดีครับ จะได้ทำรู้ว่าควรเลือกวิชาไหนเป็น Higher level แล้วเอาเวลามามุ่งเตรียมตัวทำคะแนนส่วนที่เราอาจจะอ่อนหน่อย เสียดายบางคนรู้ตัวช้าว่าอยากเข้าแพทย์ที่ไทย มาเตรียมตัวช่วงหลังๆ อาจจะทำพอร์ตไม่ทันแล้วครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับข้อมูลดีๆ จากน้องยูโรและการเลือกวิชา IB เพื่อสอบเข้าคณะแพทย์และทันตะ อย่างไรก็ตาม ในปีต่อๆ ไปที่ มีการเปลี่ยนแปลงในด้านของการยื่นคะแนนสอบเพราะ SAT Subject Tests ที่กำลังจะยกเลิกไปนั้น ปกติแล้วคะแนนที่สอบไว้ยังคงใช้ได้อีกประมาณ 2 ปี แต่เรายังคงต้องตามดูเกณฑ์การยื่นคะแนนที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ นะครับ
บอกเลยว่าฝันไกลแค่ไหนก็ไม่เกินเอื้อม หากเรารู้เป้าหมายก่อนและเตรียมตัวเร็วตั้งแต่เนิ่นๆ เหมือนน้องยูโร สำหรับน้องๆโรงเรียนนานาชาติหลักสูตร IB ที่อยากมุ่งสู่อาชีพสายวิทยาศาสตร์ สุขภาพทั้ง ทันตะ และ หมอ ที่ ignite เรามีคลาส 1on1 วิชา IB เพื่อช่วยกรุยทางให้น้องๆ ได้ perfect score อย่างที่ต้องการเลยครับ
การันตีด้วยความสำเร็จของน้องที่สอบติดแพทย์รอบ Portfolio เยอะที่สุดทุกรุ่นทุกปี !
ซึ่งนอกจากคลาส 1on1 วิชา IB แล้ว ทาง ignite ยังมีทั้งคอร์สสด คอร์สออนไลน์ Anywhere ของวิชา BMAT ในทุกพาร์ทให้น้องๆ เตรียมพร้อมมุ่งสู่การเป็นหมออีกด้วย
สามารถดูรายละเอียดคอร์สเรียนเพิ่มเติมได้ทาง >> https://www.ignitebyondemand.com/our-courses/
โดยน้องๆ สามารถสมัครคอร์สเรียนออนไลน์ ในระบบ Anywhere ด้วยตัวเองได้แล้ววันนี้ ทาง >> https://shop.ignitebyondemand.com/
ปรึกษาสอบถามรายละเอียดวิชาเรียนได้ที่ Line : @igniteatar หรือหรือคลิก https://bit.ly/3qOtyCB และโทร 02-6580023 , 091-5761475
ดูรายละเอียดคอร์สเรียน ignite A* เพิ่มเติมได้ทาง >> https://www.igniteastar.com/
Related Blog & News
ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
-
Blog, SAT Subject Tests
คู่มือสำหรับพ่อแม่ที่อยากให้ลูกสอบติดคณะวิศวะอินเตอร์
สวัสดีคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกเรียนวิศวะทุกท่านนะครับ…วันนี้ ignite จะขอมาแนะนำการ สอบเข้าคณะวิศวะอินเตอร์ ไม่ว่าจะ วิศวะอินเตอร์ จุฬาฯ , วิศวะอินเตอร์ ลาดกระบังฯ หรือ วิศวะอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดย ignite จะมาแนะนำว่าน้องๆ ต้องใช้คะแนนอะไร เพื่อยื่นเข้าวิศวะใน TCAS รอบ 1…รู้ก่อน สอบติดก่อน มาวางแผนการเรียนให้ลูกสอบติดก่อนใครกับ ignite ได้เลยครับ คะแนนที่ต้องใช้ เพื่อยื่นเข้า วิศวะอินเตอร์ TCAS รอบ 1 1. Math หรือผลสอบความสามารถทางคณิตศาสตร์ ผลสอบวิชาคณิตศาสตร์ คือ คะแนนที่มหาวิทยาลัยที่เปิดรับคณะวิศวะอินเตอร์ ส่วนใหญ่กำหนดให้น้องๆ ใช้เป็นคะแนนในการยื่นเพื่อพิจารณานะครับ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วน้องๆ มักจะเลือกสอบอยู่ 2 ตัวด้วยกันคือ SAT Math และ CU-AAT Math ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังไม่แน่ใจว่าข้อสอบทั้ง 2 อย่างแตกต่างกันอย่างไร…ignite จะขอแนะนำให้ ณ ที่นี่เลยครับ […]
Comments (0)
-
Blog
เทคนิคการเลือกวิชา IGCSE, A-Level ให้ได้คณะในฝัน
การเลือกวิชาใน IGCSE และ A-Level นั้นถือว่าสำคัญมากๆ เพราะเป็นการกำหนดอนาคตที่ใช้ยื่นคะแนนเข้าคณะในฝันของนักเรียนทุกคนที่เรียนหลักสูตรอังกฤษ เพราะหลักสูตรนี้ถือว่าได้รับการยอมรับในสากลจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก นักเรียนหลายคนมักจะสับสนว่าควรเลือกวิชาที่ชอบ หรือวิชาที่จำเป็นดีกว่า ดังนั้นวันนี้พี่ๆ ignite จะมาแนะนำเทคนิคการเลือกแบบเข้าใจง่ายๆ ให้น้องๆ กันครับ ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย !! ทำความรู้จักหลักสูตร IGCSE vs A-Level จากภาพด้านบน กล่าวได้ว่า IGCSE นั้นคือหลักสูตร 2 ปีสำหรับน้องๆ Year 10-11 ที่เป็นการเตรียมปูพื้นฐานวิชาให้มีองค์ความรู้รอบด้านและแน่นพอที่จะเลือกเรียนวิชาในขั้นสูงกว่า หรือการทำ A-Level อีกสองปี เพื่อยื่นคะแนนทั้ง 3 วิชานี้เข้ามหาวิทยาลัยที่น้องๆ ต้องการ ต่อมาเรามาดูกันว่าเราควรเลือกเรียนวิชาอะไรให้ตรงกับคณะที่เราต้องการเข้าศึกษาต่อ มาเริ่มกันที่หลักสูตรแรกนั้นก็คือ IGCSE เทคนิคการเลือกวิชา IGCSE โดยวิชาที่น้องๆ สามารถสอบได้ใน IGCSE นั้นแบ่งออกเป็น […]
Comments (0)
-
Blog, Medical TCAS 1 (Portfolio)
5 โจทย์ที่ต้องเจอใน BMAT Critical Thinking พร้อมเทคนิค CAP รับมือทุกโจทย์ Part 1
สวัสดีครับน้องๆ กลับมาพบกับพี่กั๊กกันอีกครั้งนะครับ ใกล้จะถึงช่วงสอบ BMAT กันอีกแล้ว เชื่อว่าตอนนี้น้องๆ คงตั้งใจทบทวนโค้งสุดท้ายกันอยู่แน่นอน แต่เนื่องจากการสอบ BMAT นั่นมีหลายพาร์ทเหลือเกิน หากจะต้องโฟกัสทุกจุดคงจะใช้เวลาพอสมควรแน่ๆ วันนี้พี่กั๊กเลยมาพร้อมกับเทคนิควิเคราะห์โจทย์ BMAT Critical Thinking เพื่อเพิ่มเลเวลในการอัพคะแนนของน้องๆ ใน BMAT Part 1 และช่วยลดการใช้เวลาในการนั่งทบทวนว่า เอ้…โจทย์ข้อนี้ต้องการอะไรนะ? แต่ก่อนจะเริ่มเทคนิควิเคราะห์โจทย์จากพี่กั๊ก เรามาทบทวนกันอีกรอบดีกว่าว่า “BMAT Part 1 นั้น จริงๆ แล้วเป็นยังไง?” BMAT Part 1 เป็นอย่างไร ต้องเจอกับข้อสอบแบบไหน? แน่นอนว่าการที่น้องๆ จะสอบเข้าแพทย์และได้เป็นคุณหมอในอนาคต สิ่งๆ หนึ่งที่น้องจำเป็นจะต้องมีก็คือทักษะการคิดวิเคราะห์นั่นเอง ซึ่งหากน้องเป็นคนที่มีการคิดวิเคราะห์สูง ตรงนี้ก็อาจจะสื่อถึงความสามารถในการนำไปปรับใช้กับสถานการณ์เร่งด่วนต่างๆ ที่ต้องเจอในสายอาชีพนั่นเอง ดังนั้นนี่ก็เป็นที่มาของเจ้าตัว BMAT Part 1 โดยในส่วนนี้จะถูกแบ่งย่อยออกเป็นอีก 2 พาร์ท คือ BMAT Problem Solving (16 ข้อ) : […]
Comments (0)
-
Blog, CU-ATS/CU-AAT
เจาะลึกเทคนิคพิชิต ACT Science ข้อสอบเป็นยังไง? ต่างจากข้อสอบอื่นยังไงบ้าง?
สวัสดีครับน้องๆ หลังจากที่หลายคณะเริ่มประกาศรับคะแนนการสอบ ACT เพื่อคัดเลือกนิสิต นักศึกษาใหม่เข้าคณะ เช่น ISE CU หรือ SIIT น้องๆ หลายคนก็เริ่มหันมาสนใจการสอบนี้กันมากขึ้น แถมยังมีบางคนรีวิวอีกว่าข้อสอบ ACT ง่ายกว่าการสอบแบบอื่นๆ วันนี้พี่อิ๊งค์จะมาช่วยไขข้อสงสัยถึงรูปแบบของ ข้อสอบ ACT Science ว่าเป็นยังไง แล้วจะง่ายกว่าข้อสอบอื่นจริงหรือไม่กันครับ ลักษณะข้อสอบ ACT Sciencee ข้อสอบ ACT Science มีคำถาม 40 ข้อ โดยให้เวลาในการทำอยู่ที่ 35 นาทีเท่านั้น ถือว่าเป็นข้อสอบ Speed Testมากๆ น้องจะต้องฝึกฝนในการทำให้มาก และฝึกจัดการเวลาในการทำข้อสอบให้เชี่ยวชาญก่อนไปสอบ ซึ่งรูปแบบของคำถาม จะมีการให้ Passage มาประมาณ 6 เรื่อง ในแต่ละเรื่องจะมีคำถาม 4-7 ข้อ […]
Comments (0)
Comments